นายกฯสั่งเดินหน้าหลังครม.ไฟเขียว
รบ.ลุยกม.กาสิโน
ลั่นทำเร็วยิ่งดี-ดันจีดีพีปท.พุ่ง
คลังโวเงินลงทุนกว่า2แสนล้าน
‘อนุทิน’ย้ำต้องเข้าครม.อีกรอบ
กฤษฎีกาปัดขวาง/แต่ต้องชัดเจน
ครม.อนุมัติหลักการ “ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ”ก่อนส่งให้กฤษฎีกาดูรายละเอียดข้อก.ม.ที่เกี่ยวข้อง ด้าน“นายกฯ”นำแถลงยัน“กฤษฎีกา”ไม่ได้ขวาง แค่ต้องการปรับ “เนื้อหา-ถ้อยคำ” ให้สอดคล้องนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว ลั่นเดินหน้าเต็มสูบ ชี้ผลักดันเร็วได้ เป็นสิ่งที่ดีต่อปท.ในอนาคต ทำจีดีพีพุ่งรายได้เข้าปท.เหมือนสิงคโปร์ ขณะที่เลขาฯกฤษฎีกาโต้ขวางกม.กาสิโน แค่แนะรบ.เอาให้ชัด เน้นดึงนักท่องเที่ยวหรือแก้พนัน สอนมวยจะแก้พนันต้องแก้ที่นิสัย ไม่ใช่สร้างสถานบันเทิงครบวงจร
ความคืบหน้ากรณีกระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..... หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันที่ 13 มกราคมพิจารณา หลังรับฟังความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ และภาคประชาชนแล้ว
ครม.ไฟเขียวหลักการร่างพ.ร.บ.กาสิโน
เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอแล้ว และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณารายละเอียดข้อกฎหมายต่างๆ โดยสาระสำคัญกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครับวงจร เช่น กำหนดให้มีคณะกรรมการกำหนดนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร และคณะกรรมการบริหารจัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร และกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน เรื่องการอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเรื่องการท่องเที่ยวและส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ตลอดจนแก้ปัญหาพนันผิดกฎหมายที่มีอยู่ปัจจุบัน ให้ส่งผลดีต่อภาพรวม เป็นหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืนให้ประเทศตามที่เคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไป
ผ่านกฤษฎีกาแล้วส่งเข้าสภาฯทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อกฤษฎีกายกร่างแล้วต้องนำเข้าครม.อีกรอบ หรือส่งไปยังสภาฯ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า เราให้กฤษฎีกามีความเห็นเฉยๆ ในที่ประชุมเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ก็พูดว่าไม่ได้ขวางเพียงแต่ต้องการปรับเนื้อหาข้างใน ซึ่งท่านพูดว่าได้อ่านข่าวแล้วขึ้นหัวข้อว่ากฤษฎีกาขวาง ท่านก็พูดเลยว่าไม่ได้ขวาง เพียงแต่อยากปรับเนื้อหาให้ตรงกับที่ตนแถลงต่อรัฐสภาว่า เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยจะปรับคำให้เข้ากันเท่านั้น
ถามย้ำว่าแสดงว่าส่งให้สภาฯได้เลยไม่ต้องเข้าครม.อีกรอบ นายกฯตอบว่า ใช่ ส่งเข้าสภาฯได้เลย
นายกฯย้ำผลักดันให้เกิดเร็วดีกับปท.
ถามอีกว่า เป้าหมายจะผลักดันให้ได้ภายในปีนี้ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า พยายามผลักดันแต่ต้องรอกระบวนการว่าจะผ่านอะไรแค่ไหนอย่างไร แต่เกิดขึ้นเร็วก็ดี ดูอย่างสิงคโปร์ที่มีเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ มีกาสิโนแค่ 10% นอกนั้นเป็นเรื่องท่องเที่ยว เมื่อก่อนอาจมีคนบอกว่าสิงคโปร์มีสถานที่ท่องเที่ยวน้อย แต่พอมีกาสิโนเข้ามาทำให้การท่องเที่ยวเขาเจริญเติบโตมาก และจีดีพีก็สูงมากขึ้นเช่นกัน เกิดผลดีกับประเทศในอนาคต ถ้าผลักดันให้เกิดขึ้นเร็วให้ได้ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี
ถามว่า เรื่องดังกล่าวมีการมองว่าจะมีเรื่องกลุ่มทุนปัญหามาเฟียตามมา ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหรือไม่ จะป้องกันอย่างไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เราต้องอยู่บนความจริงว่าทุกวันนี้มีการพนันที่ไม่ถูกกฎหมายเต็มไปหมด ฉะนั้นเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นการแก้ปัญหาเรื่องการโดนผู้มีอิทธิพลทำอะไรนอกกฎหมาย สิ่งที่เอามาอยู่ในกฎหมายจะทำให้ชีวิตประชาชนปลอดภัย แถมภาษีที่ได้จะเป็นเงินเข้าประเทศ วันนี้เราต้องมองภาพว่าโลกยุคปัจจุบัน ถ้าเราเอาทุกอย่างมาทำให้โปร่งใสได้ จะเป็นสิ่งที่บวกให้ประเทศ ความจริงเป็นเรื่องใหม่ในประเทศเรา ก็ไม่เป็นไร เราต้องสื่อสารอธิบายบ่อยหน่อย ฝากสื่อถามมาจะให้กระทรวงต่างๆตอบชี้แจง ทุกคนจะได้เข้าใจภาพรวมไปพร้อมกัน
“จุลพันธ์”เผย1-2เดือนชงสภาฯได้
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังแถลงเพิ่มเติมว่า ครม.เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ พร้อมรับความเห็นของทุกหน่วยงานไปพิจารณา ขั้นตอนจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะตรวจร่างและปรับร่างกฎหมายก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรภายใน 1-2 เดือน
สำหรับร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฉบับนี้ เป็นไปตามแนวนโยบายแห่งรัฐ ข้อที่ 7 คือ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destination) เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย โดยการผลักดันเรื่องนี้รัฐบาลยอมรับว่าจะไม่ใช่การผลักดันการตั้งกาสิโนถูกกฎหมายขึ้นเพียงอย่างเดียว เพราะเป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น
เล็งดึงกีฬาพื้นถิ่นมวยไทย-ไก่ชนร่วม
นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า โมเดลการผลักดันเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ครั้งนี้ ถือเป็นโมเดลทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จ ช่วยปรับโฉมการท่องเที่ยวได้เป็นรูปธรรม ช่วยสร้างรายได้ประชาชน สร้างรายได้เข้ารัฐ พร้อมทั้งมีรูปแบบการบริหารจัดการที่เหมาะสม ทั้งนี้ ในการประชุม ครม.ยังมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากหน่วยงานต่างๆ ในที่ประชุมด้วย เช่น ต้องการให้ผลักดันกีฬาพื้นถิ่นเข้าไปในเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ด้วย ทั้งมวยไทย หรือไก่ชน ซึ่งที่ประชุมรับทราบข้อคิดเห็นทั้งหมดก่อนนำไปปรับในร่างกฎหมายต่อไป
โวเงินลงทุนแต่ละจุดไม่ต่ำกว่าแสนล.
รมช.คลังยอมรับว่า ส่วนการลงทุนจริงแต่ละจุดที่เป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ จะมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1.2 - 2.4 แสนล้านบาทต่อปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5-10% โดยเฉพาะการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 13% สามารถลดช่องว่างรายได้ระหว่างช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวและนอกฤดูกาลได้แคบลงกว่าเดิมรวมทั้งเพิ่มรายได้ต่อหัวของนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาทต่อราย สร้างการจ้างงาน 9,000 - 15,000 ตำแหน่ง โดยการลงทุนแต่ละจุดจะช่วยสร้างรายได้ให้รัฐไม่ต่ำกว่า 1.2 - 4 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากธุรกิจที่เป็นโรงแรม สวนสนุก สถานที่ท่องเที่ยว อีกส่วนคือรายได้จากการพนัน โดยรายได้ทั้งหมดจะนำไปพัฒนาประเทศ และนำกลับไปเยียวยากำกับและบังคับใช้กฎหมายควบคุมการพนันต่อไป
ย้ำเป้าหมายสร้างรายได้-แก้พนันผิดกม.
“ขั้นตอนสุดท้ายอำนาจจะไปอยู่ที่รัฐสภาวินิจฉัยกฎหมายว่าต้องปรับแก้ หรือปรับเพิ่มเติมตรงไหนให้ตรงกับสภาวะแวดล้อมของไทย หรือถูกจริตคนไทย ก่อนบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุวัตถุประสงค์สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ สร้างรายได้ให้รัฐ ลดปัญหาพนันผิดกฎหมาย”รมช.คลังกล่าว และว่า สำหรับการกำหนดพื้นที่หรือกิจการ จำนวนผู้มาลงทุนนั้น กระทรวงคลังไม่มีอำนาจ เป็นอำนาจของสำนักงาน และกรรมการบริหารเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายฉบับนี้เป็นผู้พิจารณาทั้งหมดว่าจะสร้างกี่แห่ง ทั้งนี้ ในการลงทุนต้องออกทีโออาร์ ผู้ลงทุนต้องเสนอเข้ามาแข่งขันกัน แต่ทั้งหมดนี้คณะกรรมการจะเป็นผู้กำหนดและพิจารณารายละเอียด โดยต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เช่นเดียวกับ การจัดเก็บรายได้ จะกำหนดให้ชัดเจนในคณะกรรมการว่าจะจัดสรรไปที่ไหนบ้าง เช่น สัดส่วนหลักจะนำส่งคืนรัฐ เป็นรายได้ตามกลไกของงบประมาณ อีกส่วนเป็นการจัดสรรคืนไปยังพื้นที่ หรือภาคการศึกษา และการเยียวยาในมิติที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ตั้งเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ด้วย
รมว.คลังฟุ้ง90%มี1-2คนค้าน
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังกล่าวถึงการเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเข้าครม.ว่า ชุดทำงานของตนหารืออย่างละเอียด ถึงความจำเป็นและประโยชน์ เห็นชัดเจนว่า เพื่อการแข่งขันกับประเทศอื่นที่เขาทำอยู่ว่าได้ผลเยอะกว่า วันนี้ทั้งโลก รายได้ที่มาจากเอ็นเตอร์เทนและเรื่องอื่นเยอะมาก ส่วนความเห็นจากหน่วยอื่นนั้น จริงๆแล้วไม่มีใครไม่เห็นด้วยในหลักการ เกือบ 90% เห็นด้วยหมด อาจมีขัดข้อง 1-2 ราย มีข้อสังเกตตรงกับหน่วยงานที่ดูแลอยู่คือ ห่วงเรื่องกาสิโน กลัวคนไทยหรือเด็กจะเข้าไปเล่น รัฐบาลรับฟัง เข้าใจว่ามีคณะกรรมการนโยบายและหน่วยงานคอยดูแลอยู่ เป็นเรื่องที่ต้องดูแลอยู่แล้ว ทั้งนี้ เราไม่ได้สนับสนุน แต่สิ่งที่ตั้งใจคือ ให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า
ย้ำกาสิโนส่วนน้อย-จ้างงานได้อานิสงส์
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมไม่ออกกฎหมายกาสิโนโดยตรง แบบนี้เหมือนเอาการท่องเที่ยวบังหน้า นายพิชัย กล่าวว่า ไม่ใช่ คิดว่าหลายอย่างเป็นเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ลองไปดูในห้างสรรพสินค้ามีใครเข้าไปซื้อสินค้าจริงๆ บ้าง ทุกคนปรับตัวหมด ในห้างใหญ่ เดี๋ยวนี้ก็ออกแนวหลากหลาย เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในตัว ทั้งศูนย์อาหาร การแสดง นอกเหนือจากการช้อปปิ้ง เพียงแต่อันนี้เป็นองค์ประกอบเป็นเนื้อที่ขนาดใหญ่ ต้องทำงานร่วมกัน ต้องดูแลให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงต้องออกกฎหมายมากำกับดูแล
“ยืนยันว่าเรื่องกาสิโนเป็นเพียงส่วนน้อย รายได้ส่วนใหญ่มาจากเรื่องอื่น อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง และหากอยู่ในที่เหมาะสม บริเวณใกล้เคียงก็จะได้รับอานิสงส์ด้วย การจ้างงานจะเติบโตขึ้น”รมว.คลังกล่าว
เลขาฯกฤษฎีกาโต้ขวางกม.กาสิโน
ขณะที่นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงกระแสข่าวคณะกรรมการกฤษฎีกาทักท้วงร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรว่า ไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่หลักในการทำกฎหมายของรัฐบาล ต้องยึดนโยบายของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งต้องไปดูคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจะไปดู Man -made destination หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น จะมีตั้งแต่สวนสนุกอื่น และเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์เข้าไปอยู่ในนั้น แต่กฎหมายที่กระทรวงการคลังร่างขึ้น ใช้ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก ซึ่งพูดถึงเฉพาะเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ และการแก้ปัญหาการพนันแคบกว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการ
สอนมวยรบ.จะแก้พนันต้องแก้นิสัยคน
“คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงมีความเห็นว่านโยบายของรัฐบาลกว้างกว่า ดังนั้น ถ้าจะเป็น Man -made destination ควรเขียนให้กว้างขึ้นเพื่อความครอบคลุม รวมถึงมีข้อสังเกตเรื่องเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ที่ในรายงานศึกษาของสภาผู้แทนฯมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาการพนัน แต่กฤษฎีกามองว่าการสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ไม่ได้แก้ปัญหาการพนันโดยตรง ถ้าอยากแก้ปัญหาการพนันโดยตรงต้องไปแก้ที่อื่น เช่น นิสัยคน พฤติกรรมคนที่ชอบเล่นการพนัน ซึ่งก็มีกฎหมายการพนันอยู่แล้ว” นายปกรณ์ กล่าวและว่า จึงต้องเอาให้ชัดว่าร่างกฎหมายนี้ต้องการบรรลุวัตถุประสงค์อะไร ค่อยเสนอครม.พิจารณา ว่าจะเน้น Man -made destination หรือจะเน้นเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ไม่อย่างนั้นก็ร่างไม่ถูก เพราะกระบวนการกลไกต่างกัน ถ้าจะเน้น Man -made destination จะเป็นเหมือนรีสอร์ทขนาดใหญ่ มีทั้งสนามกอล์ฟ สถานบันเทิง เหมือนที่เจอในต่างประเทศ มีที่พักสำหรับครอบครัว และมีกิจกรรมของแต่ละคน มีสวนสนุกและสวนน้ำสำหรับเด็ก สุภาพสตรี มีศูนย์การค้า ขณะที่ผู้ชายจะมีกีฬา ในส่วนของการพนันมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าต้องการเช่นนี้จริงๆ ต้องขยายขอบของกฎหมายให้ครอบคลุม จึงเสนอครม.ขอให้เอาให้ชัดก่อน และยืนยันว่าไม่ได้กระโดดขวาง เหมือนที่สื่อบางสำนักพาดหัวไว้
แค่แนะรบ.เอาให้ชัดมุ่งท่องเที่ยวหรือแก้พนัน
นายปกรณ์กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่ถือว่าขัดนโยบายรัฐบาล เพราะเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ อยู่ด้านใน เพียงแต่เล็กนิดเดียว แต่เป้าหมายรัฐบาลที่จะทำ หากเป็น Man -made destination ที่จะเป็นการดึงดูดการท่องเที่ยว ก็อยู่ในนโยบายที่เห็นชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเป็นต้องทำความเข้าใจกับสังคมให้ดีก่อนหรือไม่ ไม่ใช่การหมกเม็ดเข้าที่ประชุม ครม. นายปกรณ์กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าหมกเม็ด แค่บอกว่าร่างกฎหมายกับกลุ่มเป้าหมายยังไม่ชัด จึงอยากให้ถาม ครม.ว่าจะเอาอย่างไรแน่ แล้วมาคุยกับสังคมให้ชัด ซึ่งก็ทำได้เหมือนกัน ไม่มีปัญหา หากวันนี้เสนอเข้าครม.ว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์อะไร กฤษฎีกาก็จะไปร่างกฎหมายให้ตรงวัตถุประสงค์ตามนโยบายรัฐบาลต้องการ สามารถดำเนินนโยบายนี้ได้ไม่มีปัญหา เพราะเป็นเรื่องที่นายกฯไปแถลงต่อรัฐสภาแล้ว สภาฯรับรู้แล้ว วันนี้ถ้าหลักการเป้าหมายชัดเจนก็เดินหน้าได้ ไม่มีประเด็น ไปพาดหัวกันเสียจนตนจะถูกย้ายออกจากเก้าอี้แล้ว
“อนุทิน”ย้ำจากกฤษฎีกาต้องเข้าครม.อีกรอบ
มีท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยต่อร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....ว่า มท.ทำความเห็นไปแล้ว โดยหลักการเราไม่มีปัญหา แต่ให้ดูข้อกฎหมายว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ส่วนจะมีข้อเสนอแก้พ.ร.บ.การพนัน 2478 ด้วยหรือไม่ ก็ต้องคละเคล้ากันไป และยังมีหลายพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแนะนำไปแล้ว ตนเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อร่วมพิจารณา เพราะเป็นกฎหมายสำคัญ กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบตามพ.ร.บ.การพนัน จึงต้องมาให้ข้อมูลต่อครม.มากที่สุด กระทรวงมหาดไทยเห็นด้วยในหลักการและแนบความเห็นต่อที่ประชุมครม.เพื่อส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ปรับปรุงร่างกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ได้หารือกับเลขาฯกฤษฎีกา ซึ่งระบุว่าหากปรับปรุงร่างกฎหมายเสร็จแล้ว ต้องนำเสนอครม.อีกครั้ง เพราะมีข้อกฎหมายเกี่ยวข้องมากและหลายหน่วยงาน จึงต้องกลับมาที่ครม.อีกครั้ง เรื่องนี้เรียนให้นายกฯรับทราบแล้ว
วิปรบ.ขอรอกฤษฎีกาชี้ขาด45วัน
ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า ก่อนมาถึงวิปรัฐบาลต้องผ่านกฤษฎีกาก่อน ใช้เวลาประมาณเดือนเศษในการพิจารณา สมัยประชุมนี้อาจทันพิจารณาวาระ 1 ส่วนเรื่องความเห็นพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังไม่ตรงกันนั้น ไม่ทราบ แต่ไม่น่ามีปัญหา ตอนนี้ไม่มีใครทักท้วงอะไร ที่กฤษฎีกาให้ความเห็นก็ไม่ได้คัดค้าน แต่มีข้อเสนอบางเรื่องที่ต้องทำให้ชัดเจน และชี้แจงประชาชนให้ทราบว่าไม่ใช่บ่อนการพนันเพียงอย่างเดียว มีหลายอย่างที่สร้างเศรษฐกิจ กระทรวงการคลังต้องชี้แจง
“เรื่องที่ไม่ถูกต้องก็ควรทำให้ถูกต้อง เรื่องที่อยู่ใต้ดินก็นำขึ้นมาให้ถูกต้องตามกฎหมายจะได้เก็บภาษีได้ เรื่องของการพนัน เราห้ามไม่ได้ที่ไหนก็มีทั่วไป แค่ต้องทำให้ถูกต้อง ส่วนที่มีประชาชนคัดค้านนั้น เป็นหน้าที่ที่เราต้องรับฟัง รัฐบาลต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ” ประธานวิปรัฐบาลกล่าว
สส.ประชาชาติค้านเหตุขัดหลักศาสนา
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ทราบว่าเรื่องนี้ผ่านการศึกษาของสภาฯ มาแล้ว ตนดูเอกสารประกอบ แต่สส.ของพรรคประชาชาติ เป็นมุสลิมก็จะไม่เห็นด้วย แต่กฎหมายในภาพรวมต้องขอดูรายละเอียด เพราะศึกษามาแล้วสองสมัย ครั้งนั้นกฎหมายเก่า พ.ร.บ.การพนัน ใช้กาสิโน แต่ชุดนี้ให้ความเห็นว่าอาจต้องตั้งพ.ร.บ.ใหม่ เป็นเรื่องเอ็นเตอร์เทนคอมเพล็กซ์ ซึ่งอาจมีเรื่องนี้ประกอบด้วย ส่วนจะตอบคำถามกับฐานเสียงของพรรคอย่างไรนั้น ยืนยันว่า เป็นกฎหมายของสภาฯ และสส.เราแสดงความเห็นไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ทั้งนี้ ระดับรัฐบาลก็ส่วนรัฐบาล เรื่องกฎหมายต้องเข้าสภาฯ และเป็นดุลยพินิจอิสระของสส. หรือของพรรคอยู่แล้ว และทางพรรคได้เรียนกับผู้ร่วมรัฐบาลว่า สส. ขอพรรคขอไม่เห็นด้วย เพราะว่าเป็นพื้นที่พี่น้องมุสลิมและผิดหลักการของหลักศาสนา
ชทพ.ชี้จุดยืนเดียวกับพม.
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่าหลังครม.เห็นชอบหลักการ ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แล้ว ได้ส่งให้กฤษฎีกาดูรายละเอียดเพิ่มเติมบางประเด็น ก่อนส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ส่วนจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)ต่อการพิจารณาร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรนั้น สอดคล้องจุดยืนของกระทรวง พม. ที่เป็นห่วงกลุ่มเปราะบาง เป็นห่วงผู้ที่มีนิสัยติดพนัน หรือแม้แต่การจะใช้แรงงานจากกลุ่มผู้เปราะบาง ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ที่จะทำงานในระบบดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าต้องพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมการกฤษฎีกา และต้องดูความคิดเห็นแต่ละพรรคในการประชุมครม.ด้วย และตนคิดว่ากฎหมายดังกล่าวมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ต้องนำข้อคิดเห็น รวมถึงข้อกังวลต่างๆมาพิจารณาแก้ไข และเยียวยาไม่ให้เกิดข้อกังวลดังกล่าว คงต้องดูในการปฏิบัติอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี