คปท.ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.ตามบี้รพ.ตำรวจเร่งส่งเวชระเบียนรักษาเทวดาชั้น 14 ให้แพทยสภาก่อนเส้นตาย 15 มกราคม ถ้ายังไม่รู้ผล นัดรวมพลยกระดับบุกทำเนียบรัฐบาล 21 มกราคม ด้าน “ทวี สอดส่อง”ไฟเขียวกรมราชทัณฑ์ส่งข้อมูลให้ ป.ป.ช.พิสูจน์ข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 21 มกราคมตัวแทนกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.), ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม ประมาณ 70 คน เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ผ่านทาง พ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธาภิรมย์ รองผู้บังคับการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อสอบถามกรณีที่แพทยสภาได้ทำหนังสือถึงโรงพยาบาลตำรวจ เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.67 เพื่อขอหนังสือแจ้งอาการป่วย และเวชระเบียนของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เข้าและออกจากโรงพยาบาลตำรวจ ที่ขณะนั้นเป็นผู้ป่วยรักษาตัวที่ชั้น14 ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 15 ม.ค. นี้ในการทำคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร กลับมายังคณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจของแพทยสภา
แต่เรื่องดังกล่าวยังไม่มีใครในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอบได้ว่าเรื่องดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ต่อมาทางนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท.ให้สัมภาษณ์ ว่า เรามาเรียกร้องให้ ผบ.ตร. เร่งรัด ติดตามส่งเวชระเบียนประวัติการรักษาของนายทักษิณ มาให้แพทยสภา ซึ่งจะครบกำหนดภายในอีก 2 วัน เบื้องต้นวันนี้จะไม่มีการพักค้างแรมที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างแน่นอน
โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้มีการติดตามทวงถามความคืบหน้ามาโดยตลอดแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะเงียบหายไป และหากครบกำหนดแล้วตัวเองจะเดินทางไปที่แพทยสภาเพื่อสอบถามว่าได้รับเอกสารดังกล่าวแล้วหรือไม่ และหากพบว่ายังไม่ได้รับคำตอบหรือข้อมูล ทางตัวแทนเครือข่าย คปท. พันธมิตร และกลุ่มต่างๆ จะยกระดับเดินทางไปสอบถามข้อมูลกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 21 มกราคม 2568 เพราะมองว่านางสาวแพทองธาร เป็นผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งเรื่องดังกล่าวอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่กลับไม่มีคำตอบ
นายพิชิต เปิดเผยว่า ในฐานะที่นางสาวแพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องมีคำชี้แจง อีกทั้งเวชระเบียนประวัติผู้ป่วยมีความสำคัญมาก เพราะมีความสำคัญในการพิสูจน์ประวัติการรักษาที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. หรือแพทยสภา นำไปพิสูจน์ทราบข้อกล่าวหาของนายทักษิณชินวัตรซึ่งถูกกล่าวหาก่อนหน้านี้ พร้อมยืนยันว่า การเรียกร้องดังกล่าวไม่ได้เป็นการเรียกร้องเพื่อให้ต้องการนำข้อมูลมาเปิดเผยกับกลุ่ม แต่เป็นการเรียกร้องเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลได้อย่างชัดเจน
ด้าน นายใจเพชร กล้าจน แกนนำ คปท.อีกคนหนึ่ง กล่าวว่า หากประเทศไม่มีความยุติธรรม ก็จะไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ ส่งผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจ แต่หากกระบวนการยุติธรรมถูกรักษาไว้ทุกฝ่ายก็จะมั่นใจ เพราะตัวเองมองว่ากรณีนี้หากนายทักษิณมีความบริสุทธิ์ใจจริงก็จะต้องส่งข้อมูลการรักษามาให้ตามการร้องขอ แต่หากไม่ส่งแสดงว่ามีความไม่ซื่อสัตย์ต้องเข้าข่ายกระทำความผิด
โดยหากไม่มีความคืบหน้าทางกลุ่มจะยกระดับการทำหน้าที่อาจจะมีการพักแรมที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล จนกว่าจะเกิดความยุติธรรมในประเทศไทย เบื้องต้นมีการพูดคุยกับทุกกลุ่มหากพบว่าความยุติธรรมถูกแทรกแซง จะต้องมีกระบวนการในการติดตามยุติธรรมต่อไป ซึ่งส่วนตัวมองว่าการชุมนุมในครั้งนี้ไม่ได้มองที่จำนวนผู้มาเข้าร่วม แต่มองว่าความสำเร็จคือเกิดความยุติธรรมขึ้นในกระบวนการยุติธรรม
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อปปช.มีการตั้งเรื่องสอบสวนกรณีดังกบล่าวแล้ว ตนมองว่า หน่วยงานต่างๆ ต้องให้ข้อมูล และในส่วนของกรมราชทัณฑ์ เราให้ความร่วมมือหากขอพยานหลักฐานมา และเท่าที่ทราบเมื่อ นายทักษิณ เดินทางเข้าประเทศ ก็มีเวชระเบียนมาจากต่างประเทศด้วยว่าป่วยเป็นอะไร ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช. ดังนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องให้ความร่วมมือให้ข้อมูลให้ครบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ในการพิจารณาคดีของ ป.ป.ช.
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลตำรวจเคยส่งเวชระเบียนของ นายทักษิณ มาให้กระทรวงยุติธรรมหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า มี ตอนที่รักษาครบ 120 วัน มีหลักฐานทางการแพทย์ส่งมาให้ เพื่อประกอบการพิจารณาให้รักษาต่อ ถ้าทาง ป.ป.ช. มีการขอเราก็ต้องให้ไป โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะต้องเป็นผู้พิจารณา แต่ส่วนตัวคิดว่าตอนนี้ทางโรงพยาบาลตำรวจก็ต้องพิจารณาให้ ป.ป.ช. เช่นกัน แต่น่าจะอยู่ระหว่างการดูข้อกฎหมาย เพราะก่อนหน้านี้ยังไม่ถึงขั้นตั้งเรื่องไต่สวน แต่ตอนนี้ตั้งเรื่องไต่สวนแล้วควรจะให้ เมื่อถามอีกว่าสามารถอ้างสิทธิ์ของผู้ป่วยได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องดูข้อกฎหมาย แต่ตนคิดว่าถ้าเราทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายควรจะส่งให้ ป.ป.ช. พิจารณา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี