"ทักษิณ"แนะรัฐเร่งแก้ปัญหาฝุ่น-คอลเซ็นเตอร์-คนไม่มีเงินใช้ ชี้อยากเห็นความสามัคคีในประเทศ พร้อมเลี้ยงไวน์ขาประจำให้หยุดเสียที ถามไม่ใช้รัฐบาลแล้วจะใช้ใคร บ่นแบงก์ชาติไม่ยอมคุยกับใคร เหน็บสงสัยอยู่ประเทศอื่น โว GDP ปีนี้โต 3% กว่า
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 ที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพมหานคร นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมงานดินเนอร์ทอล์ค ภายใต้หัวข้อเสวนา "Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market" จัดโดยหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหาเรื้อรังของประชาชนที่รัฐบาลต้องแก้ ไม่เช่นนั้นความเชื่อมั่นจะไม่กลับมา คือ pm 2.5 ต่อไปนี้ก็คงต้องขอความร่วมมือจากภาคเอกชนและภาคประชาชน ว่าต้องให้มีการรับผิดชอบต่อสังคม ใครเผาอ้อย ข้าวโพด ก็ไม่ควรรับซื้อ ต้องมีมาตรการเด็ดขาดที่จะไม่ส่งเสริมไม่ช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่รับผิดชอบ เพื่อให้ pm 2.5 ลดลงให้ได้ ต้องใช้กฎหมาย และมาตรการ อย่างการช่วยเหลือเกษตรกรปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท ถ้าตรงไหนเผา ก็ไม่ให้เงินช่วย
นายทักษิณ กล่าวว่า อีกปัญหาคือ สแกรม หรือ คอลเซ็นเตอร์ เรื่องนี้เคยมีการพูดกัน และมีมติคณะรัฐมนตรี ว่าให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กับบริษัทโทรคมนาคมทั้งหลาย ห้ามให้ความร่วมมือ ให้ตัดสายตัดบริการนี้ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการกระทำคอลเซ็นเตอร์ หรือผลิตยาเสพติด ทุกวันนี้เปรียบเสมือนเราให้ทุนสู้รบในพม่าโดยไม่รู้ตัว เพราะเขาเอายาเสพติดมาขายลูกหลานเรา อันนี้ต้องเด็ดขาด ในฐานะที่ตนได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของประธานอาเซียน งานแรกที่เขาขอให้ช่วยทำคือ เรื่องของเมียนมา เพราะเขารู้ว่าตนรู้จักทุกภาคส่วนของเมียนมาที่รบกัน ทุกวันนี้จึงอยากให้พูดคุย รัฐบาลเป็นแทร็ค 1 ไม่ใช่รัฐบาลเรียกแทร็ค 2 การแก้ปัญหาของโลกระหว่างประเทศ เขาใช้ แทร็ค 2 ก่อน ส่วนแทร็ค 1 ไปปิดดีล ทั่วโลกเป็นแบบนี้ ซึ่งตนก็เป็น แทร็ค 2 ให้กับประเทศอาเซียน เพื่อจะทำงานแก้ปัญหาหลายๆเรื่อง และเรื่องนี้ต้องรีบทำ
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ต่อไปนี้พนันออนไลน์ในอดีตเล่นกันครั้งนึง 2.5 - 4 แสนคน ประเทศไทยมีเงินฝากก่อนที่จะเล่น 3 ล้านล้านบาทต่อปี และเล่นกันได้เสียปีนึง 5 แสนล้านบาท สมมติถ้าเราเก็บภาษี 20% ก็ได้ประมาณ 1 แสนล้านบาท แต่ถ้าเก็บ 1% ของเงินฝากก็จะได้ 3 หมื่นล้านบาท ภาษีได้เพิ่มมา 1 แสนกว่าล้านบาท แต่ที่สำคัญมากกว่านั้น เราสามารถควบคุมได้ว่า ไม่ให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี เล่น ทุกวันทุกวันนี้เด็กอายุ 10 กว่าปีก็เล่นได้ โดยใช้ระบบดิจิทัลไอดี เราต้องยืนยันตัวตน นอกจากนั้นยังรู้อีกว่าใครติดเล่นพนันงอมแงม ก็สามารถส่งจิตแพทย์เอาไปบำบัดได้ เพราะฉะนั้นเราสามารถควบคุมพวกนี้ได้หมด ปล่อยไว้อย่างเดิมทำอะไรไม่ได้ นอกจากจ่ายเจ้าหน้าที่อย่างเดียว ภาษีก็ไม่มี วันนี้ ครม.รับหลักการ ก็ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงดีอี ไปร่างกฎกระทรวงขึ้นมา คาดว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะมีใต้ดินขึ้นมาบนดินบ้าง ซึ่งเราพยายามเอาใต้ดินขึ้นมาไว้บนดิน พอดี
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ปัญหาสุดท้ายที่ตนกลุ้มใจคือ คนไม่มีเงินใช้ เพราะเงินที่หาได้ เอาไปซื้อของกิน ซื้อเสื้อผ้า ซึ่งร้านค้าในต่างจังหวัดก็เป็นสาขาของกรุงเทพฯ เงินก็ถูกส่งกลับมา เพราะฉะนั้นเงินที่หาได้ไม่ได้อยู่ในชนบท น่ากลุ้มใจมาก แต่ตนมองง่ายๆว่า เราจะจูงใจให้บริษัทในกรุงเทพ ใครตั้งสำนักงานใหญ่ที่ต่างจังหวัดบ้างหรือไม่ อาจมีการลดภาษีให้ และได้พูดคุยกับการท่าอากาศยานฯ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่สนามบินต่างจังหวัดหลายแห่ง มีที่จอดเครื่องบินอยู่เยอะแยะ ทำไมต้องมาจอดที่ดอนเมืองกับสุวรรณภูมิ ก็ลองให้บางจังหวัดเป็นแหล่งจอดของสายการบินต่างๆ ค่าใช้จ่ายถูกด้วย ที่อยู่ของแอร์และกัปตัน ก็จะถูกลง และไปเพิ่มเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดนั้น อันนี้เป็นความคิดที่ยังไม่ได้ทำ อีกเรื่องที่คิดว่าจะกระจายเงินอย่างไรก็คือ ดิจิทัลวอลเล็ต นอกเหนือจากกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะเป็นตัวหนึ่งที่จะรักษาเงินในชนบทเอาไว้ ถ้าเราจะทำงานให้สำเร็จ กระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ชวนการลงทุนจากต่างประเทศต่อเนื่อง และเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าเศรษฐกิจของเราจะกลับมาโต
"รัฐบาลมีหน้าที่ทำงานให้ประชาชน ถ้าคุณไม่ใช้รัฐบาลแล้วคุณจะใช้ใคร มานั่งด่ารัฐบาล แล้วใครทำ ความจริงแล้วต้องช่วยกันทำด้วยกัน สนับสนุนให้รัฐบาลทำงานให้ประเทศชาติ ใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องให้มาทำงาน วันนี้ผมเชื่อว่าถ้าเราได้รับความร่วมมือโดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคร่วมรัฐบาล ก็ร่วมมือกันดี วันนี้ก็ผ่านหลักการสำคัญสองเรื่อง" นายทักษิณ กล่าว
อดีตนายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้อยากเห็นความสามัคคี เพราะประเทศเราแตกสามัคคีมานานแล้ว พวกขาประจำพร้อมจะพูดคุยเลี้ยงไวน์ เพื่อที่จะได้หยุดเสียที ให้บ้านเมืองเข้ามาหากัน เพราะวันนี้เราช้ากว่าประเทศอื่น แต่เราเป็นประเทศน่าอยู่ เรากำลังทำลายกันเองโดยไม่เกิดประโยชน์ นักวิชาการ นักโพลทั้งหลาย อยากให้มีความสามัคคีกัน
นายทักษิณ กล่าวทิ้งท้ายว่า "เรื่องเศรษฐกิจ ผมยังอยากเห็นสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สภาพัฒน์ และสำนักเศรษฐกิจของแบงก์ชาติ ซึ่งเป็น 3 เสาหลักของเศรษฐกิจได้นั่งคุยกันบ้าง แต่วันนี้แบงก์ชาติไม่ยอมคุยกับใครเลย สงสัยอยู่อีกประเทศนึง ผมอยากให้เศรษฐกิจมีการพูดคุยกัน และเราหาทางผลักดันเศรษฐกิจประเทศไทยจะได้โตด้วยกัน ถ้าเศรษฐกิจโตมากกว่านี้ ผมแน่ใจว่า ตลาดหลักทรัพย์นี่หมูๆ บางคนบอกว่า 1,800 ได้ไหม ถ้าพรุ่งนี้หุ้นไม่ขึ้น ผมจะไปอยู่ไหนดี ต้องขอโต๊ะผู้จัดการกองทุนช่วยกัน วันนี้มั่นใจหรือไม่มั่นใจ ผมอยู่ตรงนี้ ผมช่วยประเทศเต็มที่ ใช้ประสบการณ์ความรู้ความสามารถทุ่มเทให้ประเทศเต็มที่ ผมมั่นใจว่าปี 2026 จะพยายามให้ GDP 4% และปี 2027 พยายามให้ GDP โต 5% แต่ปีนี้ 2025 ต้อง 3% กว่า แน่นอน ไม่ใช่ 2 แบบที่เขาคิด นี่พูดขั้นต่ำไว้ รมว.คลัง หนักใจแล้ว"
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี