ตะลึง!‘หอการค้า’เปิดสัดส่วน‘พนันนอกระบบ’ในไทย สูงถึง 10% ของGDP เชื่อ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’กระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศได้กว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี

14 มกราคม 2568 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 มกราคม ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์)โดย การดำเนินโครงการดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศได้กว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี และมีโอกาสผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คระดับโลก เทียบเท่ากับต่างประเทศ เช่น มาเก๊า นอกจากนี้ยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้จ่ายในประเทศมากขึ้น รวมถึงดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศกว่า 100,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากการศึกษาในกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ลาว และเมียนมา พบว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์สามารถสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญ ที่ผ่านมา ประเทศไทยสูญเสียเงินตราในส่วนนี้ไปจำนวนมากหากเปิดธุรกิจดังกล่าว หอการค้าไทยคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจะมีอัตราการใช้จ่ายในส่วนของธุรกิจคาสิโนเฉลี่ยที่ 50,000 บาทต่อคน

นายธนวรรธน์ กล่าวถึงข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่เคยประเมินว่าธุรกิจที่อยู่นอกระบบในประเทศไทยมีสัดส่วนสูงถึง 70% ของ GDP ในประเทศ ขณะที่หน่วยงานอื่นๆเคยประเมินว่าธุรกิจการพนันมีสัดส่วนอยู่ที่ 10% ของ GDP พร้อมเน้นย้ำว่ารัฐบาลควรมีมาตรการดูแลและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยควรเน้นเป้าหมายไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรเร่งทำความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์ และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนให้มากขึ้น เพื่อดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบและชัดเจน

-005