‘ธีรยุทธ’ไม่กังวล‘ทักษิณ’ฟ้องหมิ่นประมาท ชี้ยึดโยงความจริง ทำตามสิทธิ์ที่มี ยันไม่ฟ้องกลับ ขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจถือว่าสำคัญ

14 มกราคม 2568 ที่ สน.ทุ่งสองห้อง กทม. นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของอดีตพระพุทธอิสระ เข้ารับทราบข้อกล่าวหากรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีให้สัมภาษณ์หน้าศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวอ้างว่านายทักษิณและพรรคเพื่อไทยใช้สิทธิ์เสรีภาพล้มล้างการปกครอง

นายธีรยุทธ เปิดเผยว่า วันนี้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหากรณีที่นายทักษิณยื่นฟ้องประเด็นข้างต้น โดยจะรอเข้ารับทราบข้อหาและพนักงานสอบสวนจะชี้แจงรายละเอียดข้อกล่าวหาเพื่อจะได้จัดเตรียมข้อเท็จจริงยื่นชี้แจงข้อกล่าวหา โดยหลังรับฟังข้อกล่าวหาแล้วตนจะทำชี้แจงเบื้องต้นมาส่งในภายหลัง ซึ่งจะไม่เกิน 15 วันหลังจากนี้

“ผมไม่มีความกังวลใจ เพราะเท่าที่เห็นการทำงานของผมนั้น จะยึดโยงอยู่กับความจริง หลักฐานที่ปรากฏในคำร้องเป็นความจริง” นายธีรยุทธ กล่าว

เมื่อถามว่าที่นายทักษิณมาฟ้องตนนั้น มีความกังวลใจหรือไม่ นายธีรยุทธ กล่าวว่า ตนไม่มีความกังวลใจใดๆ เพราะว่าในกรอบการทำงานเชื่อว่าทุกคนได้เห็นการทำงานของตนมาบ้างแล้ว ซึ่งตนยึดในเรื่องความจริง รวมถึงพยานหลักฐานต่อศาลและข้อชี้แจงต่างๆที่ปรากฏอยู่ในคำร้องเป็นชุดเอกสารจากนักวิชาการ หรือจากการที่สื่อสารมวลชนได้มีการเผยแพร่ไว้ มันเป็นความจริงที่อยู่ในสังคม ดังนั้นข้อกังวลตนไม่มีเพราะว่ามันเลยจุดนั้นมาแล้ว 

นายธีรยุทธ กล่าวว่า ในช่วงแรกที่กังวลก็คิดว่าเขาจะฟ้องอะไร จะฟ้องแบบไหน ซึ่งตนก็กังวลอยู่เพียงเท่านี้ แต่ส่วนที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ตนไม่ได้กังวล รวมถึงได้พูดคุยกับผู้ที่มีความรู้และมีผู้ที่จะเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้กับตน ซึ่งอาจจะเป็นพยานบุคคลเข้ามาช่วยพูดให้กับตนในชั้นศาล

เมื่อถามว่าการที่นายทักษิณ มาฟ้องในครั้งนี้มองว่าเป็นการฟ้องเพื่อปิดปากหรือไม่ นายธีรยุทธ กล่าวว่า มองว่ามันก็อยู่ที่ความเห็นของประชาชน เพราะถึงแม้ว่าตนนั้นจะทราบว่ามันเป็นสิทธิ์ที่เขากล่าวหา แต่หลายๆท่านเท่าที่ตนฟังข่าว เขาก็มองว่าใช้สิทธิ์ในลักษณะนี้มันเหมือนกับเป็นการส่งสัญญาณปิดกั้นการใช้สิทธิ์ของประชาชนโดยส่วนหนึ่ง ซึ่งก็อาจจะมีแนวโน้มบ้าง แต่ก็ก็ยังไม่ชี้ชัดถึงขั้นการปิดปาก

เมื่อถามว่าหลังจากที่มาพบพนักงานสอบสวนแล้วจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หรือจะฟ้องกลับนายทักษิณหรือไม่ นายธีรยุทธ ยืนยันว่า ไม่ฟ้องกลับ เพราะตนกังวลก็เพียงว่าถ้าเขาฟ้องเท็จอาจฟ้องกลับเขา แต่ว่าเขาเลือกใช้สิทธิ์ในข้อหาหมิ่นประมาท ส่วนของวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวจะต้องดูในส่วนของบริบทต่างๆที่จะประกอบกันไปข้างหน้าอีกเท่านั้นเอง

นายธีรยุทธ กล่าวว่า สำหรับคราวนี้เพื่อที่จะสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบรับฟังและติดตามดูในส่วนของบริบทในการทำงานเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงเพราะว่าตนนั้นยืนอยู่บนความเป็นห่วงของบ้านเมืองที่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้งเท่านั้นเองโดยให้เรารู้ว่าความซื่อสัตย์สุจริตและความเป็นห่วงบ้านเมืองที่ยืนอยู่ตรงนี้จะเป็นเกราะป้องกันและคุ้มภัยให้ตนได้หรือไม่ คงอยู่ที่บารมีของศาลถ้าอัยการจะเมตตาหรือไม่

นายธีรยุทธ กล่าวว่า สำหรับที่ก่อนหน้านี้ได้มีหลายกลุ่มออกมาเคลื่อนไหว เรื่องนายทักษิณเกี่ยวกับในเรื่องของเวชระเบียนการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น ตอนนี้ตนก็ได้ให้กำลังใจร่วมอยู่ทุกวันและรับทราบข่าวสารจากทุกท่านอยู่ซึ่งหลายหลายท่านได้สอบถามเรื่องเวชระเบียน ถ้าเวชระเบียนช่วงนี้มีไปปรากฏขึ้นที่ ป.ป.ช. มันก็จะง่ายต่อหมายเรียกแล้วก็จะมีการขออำนาจศาล

“จากประสบการณ์โดยตรงของผมที่ได้มีการทำคดีเกี่ยวกับในเรื่องของอาญาทุจริตไปบ้างแล้วในคราวนั้น ทาง ป.ป.ช.จะส่งสำนวนการสอบสวนซึ่งมันเป็นสำนวนความลับทั้งหมดประมาณ 10 ลังส่งมาถึงศาลอาญาทุจริต เราจะได้มีการตรวจสอบตรงนั้นว่าในนั้นมีอะไร ใครไปให้กันแล้วบ้างกรณีที่ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน(กสม.)ได้เรียกพยานบุคคลหรือพยานเอกสารไปบ้างแล้วมีอะไรบ้างตรงนี้ผมก็มีโอกาสได้เห็นประมาณนี้” นายธีรยุทธ กล่าว

นายธีรยุทธ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย จะมีการฟ้องกลับตนนั้น มองว่าอันนั้นมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา ซึ่งมันเป็นการใช้สิทธิ์กันตนก็มีหน้าที่เพียงแค่เตรียมตัวชี้แจงต่อสู้ในชั้นอัยการ

“ยืนยันว่าไม่มีการฟ้องกลับนายทักษิณ ย้ำว่าสิ่งที่ผมทำนั้นทำอยู่บนความซื่อสัตย์สุจริตที่จะตรวจสอบในการใช้สิทธิ์ซึ่งในมาตรา 49 คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้สิทธิ์ของประชาชนในการร้องขอให้ศาลหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบ ดังนั้นเมื่อมันอยู่บนคำว่าการตรวจสอบก็ไม่ได้หมายความว่าใครจะผิดหรือใครจะถูกเพราะว่าอยู่บนหลักการของการตรวจสอบเท่านั้นเอง” นายธีรยุทธ กล่าว

นายธีรยุทธ กล่าวว่า สำหรับวันนี้ที่ประชาชนให้กำลังใจกับตนนั้น ยอมรับว่าตนเพิ่งเข้าใจในวันนี้ว่ากำลังใจนั้นมันสำคัญรวมถึงขอบคุณทุกท่านที่กรุณาสละเวลามาให้กำลังใจหรือหลายหลายท่านที่ให้กำลังใจอยู่ที่บ้านตนก็ได้เห็นจากคอมเมนต์ในไทยข่าวทั้งหลายจนก็ได้อ่านบ้างก็ขอขอบคุณทุกท่านที่มาให้กำลังใจกับตนแค่นี้พอ