’รัฐสภา‘ไฟเขียวหลักการ‘ร่างแก้ข้อบังคับประชุมรัฐสภา‘ฉบับ’พรรคส้ม‘เปิดทาง‘คนนอก’ร่วมแจมแก้รธน. ตั้งกมธ.18คน ด้าน’พันธุ์ใหม่‘โวยไร้‘เสียงข้างน้อย’ร่วมสังฆกรรม ก่อนสุดท้ายได้สมใจ
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาเรื่องด่วน คือร่างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา (ฉบับที่...) พ.ศ.... เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
พบว่ามีการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา ทั้งสนับสนุน และคัดค้าน ทั้งนี้ในส่วนของพรรคเพื่อไทย พบการอภิปรายของนายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าตนมีความเห็นก้ำกึ่งว่าจะรับหรือไม่ เนื่องจากยังมีความเห็นต่างในรายละเอียดโดยเฉพาะการแก้ไขในประเด็นกรรมาธิการ โดยการเป็นกมธ.ต้องมาจากหลายสัดส่วนรวมถึงสัดส่วนของพรรคการเมือง แต่เมื่อกมธ.ขาดจากสมาชิกของพรรคการเมืองใด จะทำให้ดำรงตำแหน่งต่อไปไม่ได้ ซึ่งการแก้ไขข้อ 123 ถือเป็นหัวใจของกระบวนการตรากฎหมายสูงสุด ทั้งนี้หากรับฝากกมธ.ที่ตั้งขึ้นให้แก้ไขในรายละเอียดให้เหมาะสม แต่หากไม่รับเพราะข้อบังคับที่ใช้ตั้งแต่ปี2563 มีหลายประเด็นที่ต้องสังคายนา
ขณะที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนเห็นด้วยควรรับหลักการ แม้มีข้อถกเถียงในการตั้งบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกรัฐสภาเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) ได้หรือไม่สามารถพิจารณาในชั้นกมธ.ได้ เพื่อหาข้อสรุปทางกฎหมาย อย่างไรก็ดีตนมีข้อสังเกตด้วยว่าสามารถตั้งบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกรัฐสภาได้หรือไม่ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ สามารถตั้งบุคคลภายนอกมาเป็นที่ปรึกษาของกมธ.ได้
“ชั้นนี้รับหลักการได้ และตั้งกมธ.พิจารณาในสาระบัญญัติของข้อบังคับที่เขียนไว้มาตรา 123 และ 123/1 เพราะวิสามัญเป็นตัวกำหนดไว้ว่าสามารถตั้งบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกรัฐสภาทำหน้าที่ได้” นพ.ชลน่าน อภิปราย
จากนั้นนายพริษฐ์ อภิปรายสรุปด้วยว่าการประเด็นที่สมาชิกรัฐสภาติดในการตัดเงื่อนไขให้กมธ.พ้นจากตำแหน่งกรณีที่ขาดจากสมาชิกภาพของสภาที่เป็นสมาชิกนั้น เป็นการแก้ไขเพื่อให้สอดรับกับกรณีที่บางพรรคหรือสว. เสนอบุคคลภายนอกเป็นกมธ. แต่หากเขียนไว้ไว้ จะมีปัญหาทางกฎหมายทันที
“ที่บอกว่าอาจไม่มีสส. สว. เป็นกมธ.เลย นั้นอาจเป็นไปได้ กรณีที่พรรคการเมือง และสว. ไม่เสนอสมาชิกของสภาของตนเองได้ แต่หากเห็นว่าควรมีสมาชิกรัฐสภาอยู่ในกมธ. ในโควต้าของสว. ไม่ต้องเสนอคนนอก เพื่อปิดปัญหาอย่างไรก็ดีหากสว. หรือ สส. จะเสนอชื่อใครต้องขออนุมัติจากสมาชิกรัฐสภา หากพบว่ามี กมธ.ที่น้อยไป สามารถแก้ไขได้ หากต้องการหลักประกันสามารถรับหลักการแล้วไปแก้ไขในชั้นกมธ.ได้” นายพริษฐ์ ชี้แจง
นายพริษฐ์ ชี้แจงว่า กรณีที่เสนอให้ผู้แทนประชาชนที่เข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นกมธ. นั้นเป็นกรณีพิเศษที่เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยประชาชน ส่วนจำนวน และถ้อยคำนั้นตนดึงมาจากรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ โดยพบว่ามติของรัฐสภา 415 เสียงเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย 185 เสียง งดออกเสียง 3 เสียงถือว่ารัฐสภาลงมติรับหลักการร่างแก้ไขข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ที่พรรคประชาชนเสนอ จากนั้นได้ตั้งกรรมาธิการฯเพื่อพิจารณา 18 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเสนอรายชื่อกมธ.ในสัดส่วนของวุฒิสภา จำนวน 5 คน พบว่ามีประเด็นขัดแย้งระหว่าง สว. 2 กลุ่ม ในการเสนอรายชื่อ ซึ่งได้มีการเสนอรายชื่อไปแล้ว อยู่ระหว่างขอผู้รับรอง แต่ทางกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ โดยเฉพาะน.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ ได้ลุกขึ้นทักท้วง และแสดงความไม่พอใจว่า ไม่มี สว. ที่เป็นเสียงข้างน้อยเข้าไปร่วมเป็นกมธ.ฯเลย โดยพยายามจะเสนอรายชื่อ กมธ. ในสัดส่วน สว. ที่เป็นเสียงข้างน้อยเช่นกัน แต่ก็ยังมีการถกเถียงกันไม่จบ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ จึงเสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาลงมติตัดสิน จนมีผู้ลุกขึ้นเสนอให้พักการประชุม เพื่อให้ สว.ไปตกลงกันก่อนจากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ ประธานการประชุม ได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา30นาที
จากนั้นในเวลา13.15น. หลังจากที่ทางสว. ไปหารือ และตกลงกันแล้วเสร็จ ก็ได้แจ้งต่อที่ประชุมเปลี่ยนแปลงรายชื่อกมธ. ในสัดส่วนของสว.จำนวน5คน ที่มีการไปตกลงกันใหม่ โดยมีการเปลี่ยนรายชื่อให้สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ เข้าไปเป็นกมธ. คือนายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ จากนั้นนายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ให้ฝ่ายเลขาฯแจ้งรายชื่อกมธ.ทั้ง18คน โดยการตั้งกมธ.ชุดนี้ กำหนดระยะเวลาเสนอคำแปรญัตติ15วัน และได้สั่งปิดประชุมในเวลา13.25น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี