สงสัยต้องถึงนายกฯ! "พิชิต"ไล่บี้คดี"เทวดาชั้น 14" สงสัย"เวชระเบียน"ไม่ให้ป.ป.ช.หรือไม่มีกันแน่?
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ให้สัมภาษณ์กับรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ในประเด็นการติดตามตรวจสอบกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับอนุญาตจากกรมราชทัณฑ์ให้ไปพักรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ตลอดช่วงเวลาที่ต้องโทษจำคุกโดยอ้างเหตุผลเรื่องสุขภาพ ว่า เรื่องนี้ คปท.ติดตามมาตลอดตั้งแต่ปี 2566 และผลักดันให้องค์กรอิสระเข้ามาตรวจสอบ
ซึ่งเมื่อมีความเคลื่อนไหวล่าสุดจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีการตั้งองค์คณะขึ้นมาตรวจสอบ รวมถึงแพทยสภาที่ระบุว่ามีมูลและให้เรียกเอกสารทางการแพทย์ ภาคประชาชนแบบ คปท.จึงต้องเคลื่อนไหวทั้งเพื่อให้กำลังใจและจับตาดู เช่น แพทยสภาต้องไม่กลายเป็นองค์กรฟอกขาว ขณะที่ล่าสุด คปท.ก็ไปเรียกร้องให้ รพ.ตำรวจ ส่งเวชระเบียนให้กับ ป.ป.ช.ตามที่ ป.ป.ช.เคยขอถึง 3 ครั้ง ทั้งที่ ป.ป.ช.มีอำนาจตามกฎหมายในการเรียกเอกสารจากหน่วยงานต่างๆ และผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือจะมีความผิดก็ตาม
โดยทาง รพ.ตำรวจ อ้างว่า เป็นเรื่องสิทธิของผู้ป่วย ในขณะที่ ป.ป.ช.นำมาใช้เป็นสำนวนคดี ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่ต่างจากการนำไปใช้ในศาล ทำให้ คปท.ตั้งข้อสังเกตไปยังแพทยสภา ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่มีสภาพบังคับ และมีหน้าที่ตรวจสอบจรรยาบรรณเฉพาะแพทย์ด้วยกันเอง ไม่เกี่ยวข้องกับทางคดี เพียงแต่อาจเป็นมูลเหตุต่อไปให้ ป.ป.ช.ได้ แต่เมื่อไม่มีสภาพบังคับ ขอแล้วไม่ให้แล้วจะทำอย่างไรต่อไป
ทำให้เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2568 คปท.จึงไปถามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ก่อน ขอว่าต้องให้เพื่อผดุงความยุติธรรม ซึ่งก่อนหน้านั้น นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ กล่าวถึงเรื่องการส่งเวชระเบียนให้แพทยสภา ว่าให้ไปถาม ผบ.ตร.แต่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็บอกว่าไม่มีอำนาจตอบเรื่องนี้ สรุปว่าใครมีอำนาจกันแน่ ดังนั้นแนวโน้มดูเงียบนิ่งผิดปกติ จึงมีคำถามว่าตกลงแล้วไม่ให้หรือว่าไม่มี หรือนายทักษิณไม่ได้ป่วย เพราะเมื่อไม่ป่วยก็ไม่ต้องทำเวชระเบียน หมออาจกลัวก็ได้ ไม่ทำเวชระเบียนเพราะไม่ได้ป่วยแต่จัดฉากให้ป่วย
และหากให้คาดเดา ในวันที่ 15 ม.ค.2568 ทางแพทยสภาก็น่าจะตอบว่ายังไม่ได้เวชระเบียน ดังนั้น ก็ต้องกดดันให้เกิดความจริงทางสังคม ส่วนทางคดีโดย ป.ป.ช.ก็เดินกันไป เพราะ ป.ป.ช.เคยชี้แจงว่าเอกสารที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงไม่ได้มีเพียงเวชระเบียน อนึ่ง ตนไม่แน่ใจว่ากระบวนการของแพทยสภา หากไมได้เวชระเบียนจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่เคยมีแพทย์เล่าให้ตนฟังว่า หากยังไม่ได้ก็ให้แพทยสภาสรุปตามเอกสารที่มีอยู่ได้เลย คือตามที่ก่อนหน้าที่ได้ชี้ว่ามีมูลเรื่องมีแพทย์ร่วมกันกระทำผิด เพียงแต่บทลงโทษจะเบาหน่อย เช่น ตักเตือน กักใบอนุญาต
แต่ก็จะเป็นสารตั้งต้นไปยัง ป.ป.ช.ได้ว่ามีคณะแพทย์ร่วมกัน ก็จะมีผลกับทางคดี และหากไม่ได้จริงๆ ก้าวต่อไปคือต้องไปถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันกับกระบวนการยุติธรรมและความเป็นนิติรัฐของประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลก็เคยประกาศไว้ว่าจะผดุงไว้ซึ่งนิติรัฐ - นิติธรรม จะยังคงยืนยันที่จะรักษาระบบนิติรัฐของประเทศไทยไว้หรือไม่
“เป็นกิจกรรมต่อเนื่องเลย ถ้า 15 ไม่คำตอบ 21 ไม่ใช่แค่ คปท.จะมีทั้งอดีตแกนนำพันธมิตร , แกนนำ กปปส. , แกนนำ นปช.หรือญาติพี่น้องทั้งหลาย ก็คือคณะบิ๊กเนมก็จะไปด้วย จะไปถามไม่ใช่แค่กรณีชั้น 14 มีเรื่องกาสิโน ที่เมื่อวาน (13 ม.ค.2568) ก็เพิ่งเข้ามติ ครม.ไป ก็จะไปแสดงจุดยืนในการคัดค้านเหมือนกัน” นายพิชิต กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี