คปท. บุกให้กำลังใจแพทยสภา หลังขีดเส้นตายรพ.ตำรวจ ส่งเวชระเบียน“ทักษิณ” หวังแพทยสภา ยึดมั่นจรรยาบรรณหมอ ฉีดยารักษากระบวนการยุติธรรมไทย ไม่เป็นตรายางฟอกผิด“แม้ว” จ่อบุกทำเนียบ 21 ม.ค. จี้“แพทองธาร” สวมบทหัวหน้ารัฐบาลฟื้นระบบนิติรัฐ นิติธรรม
วันที่ 15 ม.ค. ที่อาคารมหิตลาธิเบศร นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) พร้อมมวลชน เดินทางยื่นหนังสือเพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีเรียกเอกสารประวัติการรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีความเจ็บป่วยวิกฤตรุนแรงจนรพ.ราชทัณฑ์ไม่สามารถรักษาได้ จนต้องส่งมารักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยมีผู้แทนฝ่ายกฎหมายของแพทยสภาเป็นผู้รับมอบหนังสือ
นายพิชิต กล่าวว่า เนื่องจากสังคมมีข้อสงสัยในการรักษาตัวของนายทักษิณ รวมถึงคณะแพทย์เองก็มีข้อสงสัยจึงได้ส่งหนังสือยื่นต่อแพทยสภาให้ตรวจสอบ กระทั่งแพทยสภาเห็นพิรุธและตั้งกรรมการสอบสวนขึ้นมา ดังนั้นวันนี้สังคม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และแพทยสภาร่วมกันตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว และวันนี้ครบกำหนดเส้นตายที่แพทยสภาให้รพ.ตำรวจส่งเอกสารทางการแพทย์กรณีการรักษาตัวองนายทักษิณมาให้ เราจึงเดินทางมาให้กำลังใจแพทยสภา ในการเดินหน้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่นายทักษิณอ้างว่าเจ็บป่วยต้องรักษาตัวนานกว่า 180 วัน เพื่อพิสูจน์ว่าการป่วยนั้นป่วยทิพย์หรือไม่ ป่วยอย่างไร ซึ่งแพทยสภาก็มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงให้กำลังใจเดินหน้าพิสูจน์ความจริง รักษากระบวนการยุติธรรม รักษาอาการป่วยของประเทศไทย หากไม่กระจ่างเราก็ตั้งคำถามอย่างนี้ไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม แพทยสภาอยู่ใกล้ชิดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีรัฐมนตรีที่อยู่ภายใต้สังกัดพรรคเพื่อไทย จึงกลัวว่าจะมีการแทรกแซงทางการเมือง กดดันแพทยสภา ทำให้แพทยสภากลายเป็นองค์กรฟอกความผิดเสียเอง จึงหวังว่าแพทยสภาจะยึดมั่นรักษามั่นใจจรรยาบรรณของแพทย์
“ถ้าวันนี้เรื่องนี้ผ่านไป คนที่ป่วยจริงๆ คือ กระบวนการยุติธรรม คนที่ป่วยคือประเทศไทย วันนี้แพทย สภาเป็นทางออก ทางรอดหนึ่งที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้สังคมได้อย่างชัดเจน แล้วฉีดยาความจริงให้สังคม ซึ่งความจริงนั้นอยู่ที่เวชระเบียนที่จะช่วยรักษากระบวนการยุติธรรม วันนี้เรามาให้กำลังใจ และมีความห่วงใยว่าจะมีการเมืองแทรกแซงแพทยสภา หากแพทยสภาปล่อยให้การเมืองแทรกแซงได้ แพทยสภาก็จะกายเป็นองค์กรฟอกความผิดให้นายทักษิณ กลายเป็นตราประทับ ตราบาปชนิดหนึ่ง แต่ผมเชื่อมั่นว่าด้วยจรรยาบรรณของแทพย์ ด้วยวิชาชีพของแพทย์ จะรักษาจรรยาบรรณให้ถึงที่สุดด้วยการพิสูจน์ความจริงให้สังคมได้ทราบว่า มีคณะแทพย์ชุดหนึ่งร่วมกันปกปิดอาการป่วยองนายทักษิณหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพทย์ที่รพ.ตำรวจ” นายพิชิต กล่าว
นายพิชิต กล่าวต่อว่า ท่าทีที่ผ่านมา ทางรพ.ตำรวจจะไม่เวชระเบียนมาให้หน่วยงานตรวจสอบตามที่ร้องขอมาตลอด ขนาดว่า ป.ป.ช. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีสภาพบังคับตามมีกฎหมายที่สามารถเรียกเอกสารจากทุกหน่วยงานได้ มากกว่าแพทยสภา ทางรพ.ตำรวจ และสำนักงานคำรวจแห่งชาติก็ยังไม่ส่งให้ ดังนั้น หากภายในวันนี้ (15 ม.ค.) แล้วยังไม่ส่งมา ทางคปท.ก็จะนัดหมายรวมตัวกันไปทวงถามจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันที่ 21 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล ในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบบนิติรัฐนิติธรรมมาโดยตลอด ซึ่งจะมีหลายคณะร่วมกันไปทวงถามด้วยทั้งอดีตแกนนำพันธมิตร แกนนำกปปส. แกนนำนปช. เป็นต้น
แกนนำคปท. กล่าวอีกว่า สิ่งที่เรายืนยันมาตลอดคือรัฐบาลต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่รัฐบาล น.ส.แพรทองธาร และก่อนหน้านี้เราเคยสื่อสารไปถึงรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน โดยเรามีการตั้งคำถามถึงอาการป่วยทิพย์ของนายทักษิณที่เข้ารักษาตัวกว่า 180 วัน โดยเฉพาะ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ซึ่งการป่วยของนายทักษิณ อยู่ในอำนาจของพ.ต.อ.ทวี ตั้งแต่ 120 วันแรกในการรักษาตัว ซึ่งสามาถรพิจารณาได้ พอป.ป.ช. ตั้งองค์คณะมาตรวจสอบข้าราช การสังกัดกระทรวงยุติธรรม เป็นหน้าที่ที่พ.ต.อ. ต้องรับผิดชอบทางการเมือง ก่อนหน้านี้ต้องลาออกจากตำแหน่งด้วยซ้ำไป เพราะทำให้กระบวนการยุติธรรมภายใต้การบริหารงานของตัวเองบิดเบี้ยว แต่เมื่อไม่ลาออกเราก็ต้องสื่อสารไปยังนายกฯ ว่าจะจัดการระบบนี้อย่างไรให้เกิดความยุติธรรม รัฐบาลต้องทำหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ได้ ต้องสั่งให้รพ.ตำรวจนำเวชระเบียนส่งให้ ป.ป.ช. และแพทยสภา เมื่อความจริงกระจ่างท้ายที่สุด รัฐบาลต้องยึดมั่นใจกฎหมาย เอานายทักษิณกลับเข้าเรือนจำทันที
ด้าน ผู้แทนฝ่ายกฎหมายแพทย สภา กล่าวว่า ขอบคุณกำลังใจที่มาวันนี้พร้อมตั้งข้อสังเกตการทำงาน ซึ่งตนจะนำเรื่องส่งถึงผู้บริหารต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า แพทยสภาเป็นองค์กรตามพ.ร.บ. วิชาชีพเวชกรรม กรรมการแพทย สภามาจากการเลือกตั้งของสมาชิก ไม่ได้ขึ้นตรงกับกระทรวงสาธารณสุข จึงยืนยันว่าไม่ได้มีการเมืองแทรกแซง ส่วนเอกสารการรักษาของนายทักษิณ ที่มีการขอไปที่รพ.ตำรวจนั้นยังต้องรอจนถึงตอนเย็นวันนี้ ส่วนรายละเอียดและความคืบหน้าของการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้นเป็นหน้าที่ของอนุกรรมการที่ตั้งขึ้นมา รายละเอียดยังเป็นความลับ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วหากในวันนี้ยังไม่มีการส่งเอกสารมาให้ตามที่มีการเรียกไป ทางอนุกรรมการก็พิจารณาจากข้อมูลที่มีอยู่ หากเห็นว่าครบถ้วนก็ตัดสินได้เลย กับอีกทางหนึ่งหากมีการเชิญบุคคลก็ได้ เป็นไปตามดุลพินิจของอนุกรรมการฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี