ปลัดมท.ชี้เพิกถอนที่ดินอัลไพน์
ไม่ใช่อำนาจ‘ชาดา’
แจงเป็นอำนาจของรองปลัดมท.
ย้ำยังอยู่ขั้นตอนพิจารณา
ไม่มีกรอบเวลาการชี้ขาด
ปมร้อน“ชาดา”เซ็นเพิกถอนที่ดินสนามกอล์ฟ“อัลไพน์”กลับไปเป็นที่“ธรณีสงฆ์” ปลัดมท.ยันเป็นอํานาจ“รองปลัดมท.”เผยขั้นตอนเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ อยู่ในขั้นตอนพิจารณาชี้ไม่มีกรอบระยะเวลาต้องพิจารณาตามกฎหมาย ย้ำไม่ใช่อำนาจ ของ “ชาดา” ด้าน
“อธิบดีที่ดิน” ยันยังไม่ได้เซ็น
‘เพิกถอน’ที่ดินอัลไพน์กลับไปเป็นธรณีสงฆ์ชี้อำนาจตามกฎหมายอยู่ที่รองปลัดมท.ตามภารกิจชี้ขาด ด้าน’นายกฯอิ๊งค์’ยันที่ดินอัลไพน์’ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายพอ
เมื่อวันที่ 15มกราคม2568 นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์กลับไปเป็นที่ธรณีสงฆ์ ว่า เรื่องนี้กรมที่ดินเป็นผู้ดูแล เป็นอำนาจของรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เดี๋ยวเขาคงดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวที่ออกมา ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า ท่านรัฐมนตรีไม่ได้มีอำนาจ แต่อาจจะวินิจฉัยในเบื้องต้น เพราะอำนาจในการพิจารณา อยู่ที่รองปลัดกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น เมื่อถามย้ำว่า นายชาดายังไม่ได้เซ็นยกเลิกใช่หรือไม่ นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า ตนขอไปดูรายละเอียดและถามกรมที่ดินก่อน ยืนยันว่าตนไม่ทราบรายละเอียดอะไรเลย อย่าถามผมเลย
อธิบดีที่ดินยันไม่ได้เซ็นเพิกถอนอัลไพน์
นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวก่อนที่นายชาดาไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.มหาดไทย จะพ้นจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ได้ลงนามคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับไปเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหารอย่างเป็นทางการแล้ว ตามที่กรมที่ดินเสนอว่า ไม่เกี่ยวกับการลงนาม โดยเรื่องที่ดินอัลไพน์ เป็นอำนาจของรองปลัดกระทรวงมหาดไทยมหาดไทย (ตามกลุ่มภารกิจ) ฉะนั้นต้องดูว่าใครเป็นผู้ที่มีอำนาจเซ็น แต่อาจเป็นไปได้ที่นายชาดา ในตอนนั้นซึ่งเป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแล ก็อาจจะมอบนโยบายเพื่อดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้อง ยืนยันว่า อำนาจการเซ็นที่มีผลทางกฎหมาย เป็นอำนาจของนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดมหาดไทย ที่กำกับดูแลในปัจจุบัน เมื่อถามว่าขณะนี้ได้เซ็นเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอัลไพน์แล้วหรือไม่ นายพรพจน์ กล่าวว่า ยังไม่ได้เซ็น ยังอำนาจอยู่ที่รองปลัดฯ
เมื่อถามย้ำอีกว่า ยืนยันได้หรือไม่นายชาดา ไม่ได้เซ็นเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอัลไพน์ ก่อนพ้นตำแหน่ง อธิบดีกรมที่ดินกล่าวว่า “การเซ็นมอบนโยบายในการกำกับอาจจะจริง เพราะผมไม่ได้เห็น เพียงแต่เป็นเรื่องอำนาจในการเซ็นที่จะมีผลทางกฎหมาย เคสนี้ต้องเป็นอำนาจของรองปลัดกระทรวงไทย ยืนยันขณะนี้กรมที่ดินยังไม่ได้รับเอกสารการเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวจากทางกระทรวงมหาดไทยลงมาเลย รวมขณะนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ยังไม่ได้มีข้อสั่งการอะไรลงมาเช่นกัน” อธิบดีกรมที่ดิน กล่าว
นายกฯทำถูกต้องตามกฎหมายพอ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กระแสข่าวว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรมช.มหาดไทย ลงนามสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์กลับไปเป็นที่ธรณีสงฆ์ว่า“ทำให้ถูกต้องตามกฎหมายพอ”
ยื่นอสส.ส่งศาลฯวินิจฉัย‘อิ๊ง’ตั้ง’เต้น’
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนเเจ้งวัฒนะ นายสนธิยา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ขอให้ตรวจสอบพิจารณาส่งเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่4 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ที่อาจจะกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากนายณัฐวุฒิ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10ปี ถูกจำคุก 2ปี8เดือน กรณีบุกบ้านพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นอกจากนี้ยังเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มผู้กระทำความผิดกฎหมายในมาตรา112
โดย นายสนธิญา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ยื่นร้องเรียนสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปรับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11ตุลาคม 67 หลังการแต่งตั้ง 7 วัน ขณะเดียวกันในส่วนของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีตนได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียน โดยการตรวจสอบของกฤษฎีกาทั้ง 3คณะ ผลตรวจสอบออกมาว่านายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นข้าราชการการเมือง โดยในส่วนกรณีของนายณัฐวุฒิ ตนยื่นกรณีที่นายกรัฐมนตรีกระทำผิดรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ในมาตรา 160 เรื่องความซื่อสัตย์ สุจริตจริยธรรม และคุณธรรม และมาตรา 164 และมาตราอื่นๆประกอบ
อ้าง’เต้น’ถูกตัดสิทธิ์การเมือง10ปี
นายสนธิญา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ ตนเคยแจ้งความดำเนินคดีกับ นายณัฐวุฒิ เมื่อปี2550 กรณีกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการบุกบ้านพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี ฯ โดยศาลพิพากษาจำคุก นายณัฐวุฒิ เป็นเวลา 2 ปี 8เดือน และได้ติดกำไร EM ออกมา หลังได้รับการปล่อยตัว โดยในคดีดังกล่าวศาลยังมีคำพิพากษาให้ตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปีด้วยเเละเมื่อออกมาจากเรือนจำนายณัฐวุฒิได้ประกาศชัดว่า สนับสนุนกลุ่มราษฎรเมื่อวันที่ 30ธันวาคม63 โดยกลุ่มราษฎรดังกล่าวมีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้งและนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน โดยในส่วนของเพนกวินตนได้ยื่นร้องเกี่ยวกับเรื่องมาตรา112 ประมาณ 5คดี ปัจจุบันเพนกวินไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา
นายสนธิญากล่าวว่า ตนร้องไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อให้คัดชื่อนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกไปภายใน 1อาทิตย์ กระทั่งผ่านมาถึงวันนี้เป็นเวลา 3เดือน11วัน ไม่มีการคัดชื่อนายณัฐวุฒิออกแต่อย่างใด ประกอบกับกฤษฎีกาทั้ง 3คณะชี้ว่า กรณีของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นข้าราชการทางการเมือง ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกัน กับนายณัฐวุฒิตนจึงนำเข้าสู่กระบวนการยื่นให้อัยการสูงสุดชี้ว่าการกระทำของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญตามที่ตนกล่าวหาหรือไม่ อย่างไร บทสรุปสุดท้ายสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องสรุปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถ้าไม่ยื่น ตนจะใช้สิทธิ์ภายใน 60 วันยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยต่อไป
นายกฯเซ็นแต่งตั้งเองต้องรับผิดชอบ
นายสนธิญา กล่าวด้วยว่า กระบวนการที่จะเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญได้มี 2 ช่องทาง คือ ผ่านสำนักงานอัยการสูงสุด กกต.หรือผู้ตรวจการแผ่นดิน ตนเลือกใช้วิธียื่นผ่านสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อโปรดพิจารณา ทั้งนี้หากใครจะเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มราษฎรหรือมีความเห็นอย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่กรณีของ นายณัฐวุฒิ เป็นผู้ประกาศสนับสนุน กลับมาแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ทั้งที่นายกรัฐมนตรีจะต้องตรวจสอบคนที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้ เพราะฉะนั้น นายณัฐวุฒิและนายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิเสธได้ สำหรับการแต่งตั้งดังกล่าวมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงลายมือชื่อ แต่งตั้งด้วยตัวเอง เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง
ชี้ทำตามกม.-ไม่ใช่โกรธเกลียดชัง
“สุดท้ายตอนฝากไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่มีนักร้องมาร้องเรียนมากมายนั้น ขอเรียนว่า ตนจะไปถอนในการร้องเรียนต่อกกต.2เรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณและนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ประธานกกต.ได้ชี้แจงมาแล้ว แล้วตนเห็นว่า ไม่เข้ากระบวนการก็จะถอนให้ 2 เรื่อง เพราะท่านเป็นบุคคลที่อยู่นอกการเมือง แต่เข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมือง ตนร้องเรียนในส่วนที่เห็นว่าชัดเจนและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวินิจฉัยชี้แจงและยื่นไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป ตนไม่ได้ทำด้วยความเกลียดชัง หรือความโกรธแต่อย่างใด”นายสนธิญา กล่าว
‘เต้น’สวนไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และอดีตแกนนำ นปช. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก“นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ระบุว่า...มีทั้งนักร้องและกลุ่มเคลื่อนไหว พยายามสร้างประเด็น โดยเอากรณีที่ท่านนายกฯแต่งตั้งผมเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี มายื่นร้องหน่วยงานต่างๆ กล่าวหานายกฯขาดจริยธรรมร้ายแรง ไปไกลถึงขนาดจะพ้นจากตำแหน่ง เพราะผมถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง10ปี เรื่องนี้ไม่มีประเด็น ไม่เป็นปัญหาเลย ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ ข้อห้าม ต่างกันคนละเรื่องกับตำแหน่งรัฐมนตรี จะเอากรณีนายกฯเศรษฐาตั้งคุณพิชิตมาเทียบเคียงไม่ได้ ผมถูกตัดสิทธิ์เพราะติดคุกจากคดีต่อสู้ทางการเมือง แต่ยังใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งได้ เป็นผู้ช่วยหาเสียง เป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญได้ ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ไม่ใช่เพราะขาดจริยธรรม แต่กฎหมายเขียนเป็นคุณสมบัติต้องห้ามไว้ เช่น นักบวชก็เป็นคุณสมบัติต้องห้ามดำรงตำแหน่ง ไม่อยากชี้แจงเรื่องประเภทนี้เลย แต่เล่าให้ฟังเพราะพี่น้องหลายคนห่วงใยถามมาครับ
‘ปชน.’ท้าให้รอดู’ดาวสภา’ดวงใหม่
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน(ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึง ความคืบหน้าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ตามกำหนดจะอยู่ในช่วงเดือน มี.ค. เราจะพยายามยื่นให้เร็วที่สุด เนื่องจากมีการเลื่อนวาระการ พิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เป็นช่วงกลางเดือน ก.พ. ดังนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจคาดว่าจะอยู่ในช่วงเดือน มี.ค.เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการเตรียมตัว นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ภายในพรรคร่วมฝ่ายค้านขณะนี้ดำเนินการในส่วนของพรรคตัวเอง ในส่วนของพรรคประชาชนขณะนี้มี 20 เรื่อง ที่มีการพิจารณาหยิบเข้าหยิบออก ขึ้นอยู่กับว่าประเด็นดังกล่าวมีน้ำหนักน้อยแค่ไหน“เราอยากยืนยันว่ามีเรื่องที่พ่อแม่พี่น้องประชาชน รวมถึงข้าราชการในส่วนราชการ ที่ส่งข้อมูลมาให้เรา อันนี้ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่าน เพราะผมเชื่อว่าการบริหารรัฐบาลชุดนี้ยังมีหลายอย่างที่เป็นที่น่ากังวลและเป็นที่น่าสงสัย และอาจจะมีการทุจริตเชิงนโยบายที่เราอยากขอข้อมูลแบบนี้เข้ามาเรื่อยๆ ณ ตอนนี้ยังเปิดรับข้อมูลอยู่ ใครมีข้อมูลที่ต้องการให้พรรคฝ่ายค้านหรือพรรคประชาชนช่วยกันสะท้อนเสียง ช่วยกันตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น สามารถส่งข้อมูลเข้ามาได้เรื่อยๆ” นายณัฐพงษ์ กล่าว
ซักฟอก20ปม-โยงทุจริตเชิงนโยบาย
เมื่อถามว่าจะมีแผลใหญ่ที่จะทำให้รัฐบาลล้มลงได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีหลายเรื่องที่เรามองว่าสามารถโยงไปทำให้เห็นได้ว่า เป็นการทุจริตเชิงนโยบายอย่างเห็นได้ชัด มีผลประโยชน์ทับซ้อนภายในพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในตอนนี้ได้ ขอให้ทุกคนติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึง นายณัฐพงษ์ ยังเปิดเผยถึงขุนพลอภิปรายของพรรคประชาชนว่า ขณะนี้แต่ละคนมีเจ้าของประเด็น ทำการบ้านตัวเองอยู่แล้ว ขอให้ทุกคนได้ติดตาม เมื่อถามว่าจะได้เห็นดาวสภาหน้าใหม่ที่เป็น สส.พรรคปชน.หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีแน่นอน รอติดตามดู เชื่อว่า สส.พรรคประชาชนทุกคนมีความรู้ความสามารถและมีศักยภาพที่จะสะท้อนเสียงแทนพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้แน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี