นายกฯประชุมเร่งรัดติดตามความคืบหน้าพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยโครงการสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก คุยมาเลเซีย คาดเริ่มก่อสร้าง มี.ค.68 ขอบคุณต้อนรับอบอุ่น ฝาก"สส.-ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น" บอกปชช.ยินดีสนับสนุน-แก้ทุกปัญหาให้ชาวใต้ เน้นย้ำส่วนราชการอย่าห่างเหินประชาชน
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 ที่ห้องประชุมสำนักงานอธิการบดี ชั้น 2 มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเร่งรัดติดตามความก้าวหน้างานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และติดตามโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก รวมถึงติดตามโครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการจัดหลักสูตรเตรียมความพร้อมการผลิตกำลังคนด้านอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้บริหารส่วนราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้บริหารฝ่ายความมั่นคงจังหวัดนราธิวาส และ นายกูเฮง ยาวอฮะซัน สส.นราธิวาส เขต 4 , นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส เขต 5 พรรคประชาชาติ เข้าร่วมด้วย
โดยนายกฯ กล่าวขอบคุณการอัปเดตข้อมูลต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ถึงแม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ในการพบปะและรับฟังข้อมูลจากส่วนราชการ แต่ข้อมูลทึ่ได้รับฟังล้วนเป็นข้อมูลที่สำคัญมาก วันนี้ตนตั้งใจมาตรวจราชการเพื่อรับฟังปัญหาในพื้นจากคนในพื้นที่โดยตรง ว่ามีอะไรบ้างที่ส่วนกลางจะสามารถช่วยได้จริงๆ ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพราะท้องถิ่นสามารถดูแลประชาชนได้ดี และใกล้ชิดประชาชนมากกว่าส่วนกลาง ขอให้ท้องถิ่นช่วยดูแลประชาชนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องของคมนาคมที่ทางจังหวัดนราธิวาสกำลังดำเนินการ ฝากให้ทางจังหวัดดูเรื่องระยะเวลา ไม่ต้องการให้ล่าช้า เพราะหากล่าช้าจะเกิดทุนที่เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลพยายามประหยัดงบประมาณ แต่ต้องการพัฒนาประเทศไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนการสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก จากการพูดคุยกับทางมาเลเซีย ได้ตกลงความร่วมมือการจัดซื้อจัดจ้างร่วมกับทางมาเลเซียแล้ว คาดว่าจะเริ่มกระบวนการก่อสร้าง ในเดือน มี.ค.2568 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนมิ.ย. 2568 รวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมดจำนวน ในเดือน มี.ค.2568 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน มิ.ย.2568 รวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมดจำนวน 24 เดือน โดยจะเปิดให้บริการภายในปี 2570
นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องงบประมาณในการก่อสร้าง ขอให้ทางจังหวัดประสานกับกระทรวงคมนาคมเร่งส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาโดยเร็ว เน้นย้ำเรื่องของความปลอดภัยต่อชีวิตของประชาชนระหว่างการดำเนินก่อสร้าง โดยเฉพาะเส้นทางการสัญจรขอให้ติดป้ายเตือน กำหนดเส้นทางสัญจรให้ชัดเจน ในส่วนของการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ประชาชนจะได้รับประโยชน์ ถือเป็นการพัฒนโครงการสาธารณะ ช่วยทำให้การขนส่งสินค้ารวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลพยายามนำเทคโลโลยีมาใช้พัฒนาระบบขนส่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการส่งออกสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญอย่างมาก และเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตของจีดีพีของประเทศไทย ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาอย่างจริงจัง รวมทั้งหาข้อมูลประเทศเพื่อนบ้านที่เขามีความทันสมัยกว่าประเทศไทย นำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อสนับสนุนสินค้าการเกษตร ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นในทุกๆ พื้นที่
นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า นโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งสนับสนุนให้ทุนส่งเสริมเยาวชนไปเรียนต่อด้านอุตสาหกรรมในอนาคตจากต่างประเทศ ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีศักยภาพการศึกษาด้านเทคนิค แต่เทคโนโลยีถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ทั้งนี้ ขอให้ศึกษาให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น และขอให้ประสานงานกับต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เยาวชน นักศึกษาไทยมีโอกาสไปศึกษามากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รัฐบาลต้องการพัฒนาการศึกษาให้เด็กและเยาวชนของไทยให้ก้าวหน้า มีความทันสมัย นำความรู้กลับมาสร้างประโยชน์ให้กับประเทศต่อไป
"ขอบคุณกำลังใจพี่น้องชาวใต้ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ฝากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ในการลงพื้นที่พบปะแก้ไขปัญหาให้กำลังใจประชาชน ฝากบอกประชาชนว่า รัฐบาลยินดีที่จะสนับสนุน แก้ไขปัญหาทุกอย่างให้พี่น้องชาวใต้อย่างเต็มที่ ขอเน้นย้ำให้ส่วนราชการอย่าห่างเหินกับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก อะไรที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนจะรอช้าไม่ได้" นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากนั้นนายกฯ และคณะ เดินทางขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาลงพื้นที่ต่อยัง จ.ยะลา
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี