เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 พรรคไทยสร้างไทย แถลงการณ์ เรื่อง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และการอนุญาตพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ฉบับที่ 2 โดยมีเนื้อหาดังนี้
พรรคไทยสร้างไทย มีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผลกระทบของ “เอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ซ่อนบ่อนคาสิโน” และทำ “บ่อนออนไลน์ถูกกฎหมาย” ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำบ่อนออนไลน์ให้ถูกกฎหมาย ยิ่งจะเป็นการมอมเมาเยาวชนและคนไทยให้ติดการพนันมากขึ้น ปัญหาหนี้ครัวเรือนจะสูงขึ้น เกิดปัญหาสังคมที่ร้ายแรงตามมา
โดยพรรคไทยสร้างไทย มี 4 คำถาม และ 4 ข้อเสนอ ให้รัฐบาลรับไปพิจารณา
คำถามที่ 1 “ความโปร่งใส และความจริงใจของรัฐบาล ที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนมากกว่าผลประโยชน์อื่นใด”
พรรคไทยสร้างไทยเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีช่องโหว่มากมาย ที่ส่อให้เห็นถึง “ความไม่โปร่งใส” อันอาจทำให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์ การทุจริต โดยเฉพาะการยกอำนาจทั้งหมดให้ “ซุปเปอร์บอร์ด” ที่อยู่ภายใต้การกำกับของนักการเมือง เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ รายละเอียดทุกประการ ทั้งที่หลักเกณฑ์ต่าง ๆ ควรกำหนดไว้ในกฎหมาย เพื่อให้รัฐสภาได้ตรวจสอบ แต่กลับให้อำนาจซุปเปอร์บอร์ดไปกำหนดหลักเกณฑ์เองภายหลัง
ถ้ารัฐสภาผ่านร่างกฎหมายนี้ ก็เสมือนเป็นการ “ตีเช็คเปล่า” ให้ซุปเปอร์บอร์ดและนักการเมืองไปกำหนดกฎเกณฑ์เองได้อย่างอิสระ อันอาจจะนำมาซึ่งความเสียหายให้กับประเทศชาติ หรืออาจจะทำให้มีการทุจริตเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย
ที่สำคัญ เหตุใดจึงให้ส่งรายได้จากเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ให้ “ซุปเปอร์บอร์ด” แทนที่จะส่งรายได้ให้กระทรวงการคลัง
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีรายงานข่าวว่ามีการแบ่งเค้กใบอนุญาตสัมปทานโครงการเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จำนวน 6-8
ใบอนุญาต อันอาจเป็นการ “ทุจริตเชิงนโยบาย” ให้กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ รวมทั้งกลุ่มการเมืองที่สมประโยชน์ร่วมกัน จริงหรือไม่?
คำถามที่ 2 “รัฐบาลจะสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้อย่างไร ว่าประเทศไทยจะไม่กลายเป็น Hub ของอบายมุข”
การฟอกเงิน การค้ามนุษย์ การพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ อย่างที่เกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเกิดความเสียหายกับประเทศชาติ และอนาคตของลูกหลานไทย ประเทศไทยจะมีสภาพไม่แตกต่างจากปอยเปตหรือเมียวดี
“ถามใจพี่น้องคนไทยทุกคนดูว่า เราจะปล่อยให้ประเทศเราเดินไปถึงจุดนั้นจริงหรือ?” ในอดีตประเทศไทยเคยมีชื่อ “เสีย” ว่าเป็นแหล่งของการค้าประเวณี ซึ่งกว่าจะกู้ภาพพจน์ประเทศกลับมาได้ ก็ต้องใช้เวลายาวนานหลายสิบปี คนไทยคงไม่อยากให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของอบายมุขระดับโลกอีกแน่
คำถามที่ 3 “รัฐบาลมีเหตุผลใดที่จะทำให้การเล่นพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย หรือหวังเพียงเพื่อหารายได้เข้ารัฐเท่านั้น”
เพราะการเปิดพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย จะยิ่งมอมเมาเยาวชนและคนไทยให้ติดการพนันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะต่อเด็กเยาวชน ลูกหลานของเรา ก็จะเข้าถึงการพนันได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งทุกวันนี้ก็เป็นปัญหาติดยาเสพติดและติดการพนันออนไลน์มากอยู่แล้ว ปัญหาความยากจน หนี้ครัวเรือนจะเพิ่มมากขึ้น และจะเกิดปัญหาทางสังคมที่รุนแรงตามมา สิ่งเหล่านี้คือความเลวร้ายที่ต้องปราบปรามให้หมดไปจากประเทศ ไม่ใช่ไปสนับสนุนให้ถูกกฎหมาย หรือรัฐบาลคิดว่าปราบไม่ได้ เลยจะทำให้ถูกกฎหมาย เพียงหวังรายได้เข้ารัฐ โดยไม่คำนึงถึงความเลวร้ายที่เกิดกับสังคม “ถ้าอย่างนั้นยาบ้าที่เกลื่อนเมืองยังปราบไม่ได้ ก็จะออกกฎหมายให้ยาบ้าถูกกฎหมายไปด้วยหรือไม่?”
คำถามที่ 4 “รัฐบาลนี้จะให้ความมั่นใจกับประชาชนได้อย่างไรว่ามาตรการควบคุมของรัฐ จะบังคับใช้กฎหมายได้จริง รวมทั้งหากเกิดผลเสียทางสังคมอย่างร้ายแรง รัฐบาลนี้จะรับผิดชอบอย่างไร?”
เพราะในปัจจุบันนี้ ปัญหาสิ่งผิดกฎหมายที่ทำความเดือดร้อนให้กับคนไทย ทั้งยาเสพติด พนันออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ หรือแม้แต่สินค้าต่างชาติที่ทะลักเข้ามาอย่างไม่ถูกกฎหมาย เกลื่อนเต็มเมือง เพราะประเทศไทยมีคอร์รัปชันสูง ตั้งแต่เจ้าหน้าที่รัฐจนถึงนักการเมืองใหญ่ ทำให้เราไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างเคร่งครัด แต่ที่สิงคโปร์ทำได้ เพราะข้าราชการนักการเมืองของเขาไม่คอร์รัปชัน ทำงานตรงไปตรงมา เอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง จึงสามารถควบคุมผลกระทบจากการเปิดคาสิโนที่จะมีต่อคนสิงคโปร์ได้ พิสูจน์ได้จาก Corruption Perceptions Index ที่จัดโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 108 ได้ 35 คะแนน ขณะที่สิงคโปร์ได้ลำดับที่ 5 ของโลก ได้ 85 คะแนน แต่ประเทศไทยจะทำได้อย่างสิงคโปร์หรือไม่ โดยเฉพาะรัฐบาลนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง
4 ข้อเสนอแนะจากพรรคไทยสร้างไทย
1.พรรคไทยสร้างไทย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความจริงใจ โดย
- นำข้อมูล แผนการดำเนินงาน การประเมินผลได้ ผลเสีย และมาตรการป้องกันผลกระทบต่อสังคมไทยของโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และการปล่อยพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ออกมาชี้แจงแถลงให้ประชาชนทราบอย่างละเอียด โดยให้บรรจุรายละเอียดทั้งหมดไว้ในร่างพระราชบัญญัติ แทนการให้อำนาจซุปเปอร์บอร์ดไปกำหนดเองภายหลัง
- ให้ทำการ “ประชามติ ฟังเสียงประชาชน” ผ่านทางระบบออนไลน์ โดยประชาชนที่มาออกเสียงประชามติทำการยืนยันตัวตน (KYC) ซึ่งจะไม่เสียเวลาและสิ้นเปลืองงบประมาณ
- ถ้าประชาชนลงมติเห็นชอบ ก็นำร่างพระราชบัญญัตินี้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา
- โดยควรจะเริ่มต้นทำเพียง 1 แห่งก่อน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาโครงการได้ในทิศทางที่ถูกต้อง โดยไม่เกิดผลเสียต่อสังคมไทย
- การให้ใบอนุญาตควรทำการประมูล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและความโปร่งใส
2.พรรคไทยสร้างไทย เสนอว่าก่อนที่จะเปิดบ่อนกาสิโน รัฐบาลไทยต้องจัดการกวาดบ้านในเรื่อง “คอร์รัปชัน” อย่างจริงจังเสียก่อน มิฉะนั้นจะเกิดผลเสียต่อคนไทยอย่างมหาศาล เทียบไม่ได้กับรายได้ที่จะเข้ามาสู่ประเทศอันน้อยนิด
3.ประเทศไทยสามารถสร้างรายได้ให้การท่องเที่ยวโดยวิธีอื่นได้มากกว่าโครงการนี้ ถ้ารัฐบาลใส่งบประมาณ และกระจายอำนาจให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ รายได้จะกระจายไปสู่คนตัวเล็กทั่วประเทศ ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่ที่ทุนยักษ์เท่านั้น และหากจะทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็ควรเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพ ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม และอื่น ๆ ได้มีส่วนร่วมกับโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่ยกผลประโยชน์ให้แค่ทุนยักษ์ใหญ่ไทยและต่างชาติเท่านั้น ซึ่งผู้ประกอบการไทย, SMEs, และคนตัวเล็กไม่ได้ประโยชน์
4.พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่า การเดินหน้า “สร้างชาติ” ไม่ใช่เริ่มจากการ “สร้างบ่อน” แต่ต้องเริ่มจากการ “สร้างคน” เราต้องเร่งพัฒนาศักยภาพของเด็กไทยและคนไทยให้ทันกับเทคโนโลยีของโลกใหม่ รวมทั้งต้องปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ โครงสร้างอุตสาหกรรม และการดูแลเรื่องทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ซึ่งควรเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งลงมือทำอย่างจริงจังก่อนการทำคาสิโน เพื่อให้คนไทยมีศักยภาพในการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน จึงจะสามารถยกระดับ GDP ให้สูงขึ้นอย่างมั่นคง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี