“หมอวรงค์” แฉ เหตุ รพ.ตำรวจ ส่งเวชระเบียนรักษา “เทวดาแม้ว”ให้ “แพทยสภา” ไม่ครบ เพราะคนไข้ป่วยทิพย์ ชี้ต้องมีบันทึกการรักษาผู้ป่วยวิกฤตต่อเนื่อง 180 วันขณะที่ แพทยสภาเอง เดินหน้าสอบสวนเล็งขอหลักฐานเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าข้อมูลล่าสุดโรงพยาบาลตำรวจ
ส่งเวชระเบียนให้แพทยสภาบางส่วน จึงสงสัยได้ว่า เวชระเบียนที่มากกว่านั้นไม่มี จึงไม่ส่ง
ปกติแล้วเวชระเบียนของผู้ป่วย จะถูกเก็บเป็นอย่างดี เพื่อประโยชน์ในการรักษา และทบทวนผลการรักษาในอดีต หรือมีปัญหาเกี่ยวกับผู้ป่วย การรวบรวมส่งเวชระเบียนจึงง่ายมากการที่โรงพยาบาลตำรวจส่งมาบางส่วน จึงเชื่อได้ว่า เขามีแค่นั้น การที่มีแค่นั้นก็แสดงว่า แพทย์สั่งรักษาแค่นั้น เวชระเบียนจึงมีแค่นั้น
ถ้าผู้ป่วยวิกฤตต่อเนื่อง 180 วัน ต้องมีการสั่งการรักษาทุกวัน แบบต่อเนื่อง ถ้ามีเวชระเบียนแค่นั้นก็แสดงว่า มีการสั่งการรักษาไม่มาก ก็แสดงว่า ผู้ป่วยไม่วิกฤติจะไปหาเวชระเบียนได้อย่างไรเพราะ
1.คนไข้วิกฤตจะไม่ทำ MRI แต่รายนี้ทำ ,2.คนไข้วิกฤตจะไม่ผ่าตัดด้วยกล้อง (scope) จะรอให้พ้นวิกฤตก่อน แต่รายนี้ทำ,3.คนไข้วิกฤตต้องติดเตียง แขนขาจะลีบลง แต่รายนี้ไม่มีร่องรอย,4.คนไข้วิกฤตจะถูกฟ้องด้วยแล็บ จะต้องถูกเจาะเลือด x-rays หรือCT scan เพื่อส่งแลปแบบต่อเนื่อง จะหาผลแล็บได้ไหม
5.คนไข้วิกฤตก่อนกลับบ้าน อ้างว่าช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ได้คะแนนประเมิน 9 คะแนน จากเต็ม 20 คะแนน สภาพที่อ้าง ผู้ป่วยต้องมีปัญหา 5.1 การกินอาหาร 5.2 การเคลื่อนที่ไปมาภายในบ้าน 5.3 การขึ้นลงบันได 5.4 การลุกจากเตียง 5.5 การใส่เสื้อผ้า 5.6 การใช้ห้องน้ำ 5.7 การล้างหน้า หวีผม แปรงฟัน 5.8 การอาบน้ำ 5.9 กลั้นอุจจาระ 5.10 กลั้นปัสสาวะ
การบันทึกเหล่านี้ อย่างน้อยแพทย์เจ้าของไข้และพยาบาลที่ดูแลตึกนั้น ต้องบันทึกลงในรายงานของตนเอง และเก็บไว้ในเวชระเบียนฃ เพราะสภาพผู้ป่วยรายนี้ ยังอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจตลอด จะต้องมีบันทึกนี้เป็นหลักฐานในเวชระเบียนด้วย มีไหม? รวมทั้งบันทึกผู้ประเมินและที่มาของ 9 คะแนนในเวชระเบียน มีไหม?
ส่งเวชระเบียนมาบางส่วน แค่นี้ก็สามารถสรุปได้อย่างเป็นทางการว่า “ป่วยทิพย์”.
ก่อนหน้านี้ เมื่อเย็นของวันที่ 16 ม.ค.2568ที่สำนักงานแพทยสภา ศ.ดร.นพ.อมร ลีลารัศมี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ แพทยสภา ที่ทำการสอบสวน-ตรวจสอบกรณีแพทย์รพ.ตำรวจ รักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ฯ เพื่อวางแนวทางการสอบสวนเรื่องดังกล่าว โดยใช้เวลาประชุมเกือบสี่ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น
นพ.อมร กล่าวภายหลังการประชุมว่า อนุกรรมการสอบสวนฯ ได้มีการประชุมเพื่อวางแนวทางการสอบสวนและการตรวจสอบเอกสารทางการแพทย์ของรพ.ตำรวจ โดยในที่ประชุมได้มีการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่รพ.ตำรวจส่งมาว่าได้ส่งมาครบถ้วนตามที่อนุกรรมการได้ส่งหนังสือถึงแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจให้ส่งมาหรือไม่ แต่รายละเอียดว่าส่งมาครบถ้วนหรือไม่ กำลังจะมีการตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่งแต่ก็พบว่าส่งมาแล้วหลายส่วน
นพ.อมร กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้คุยกันว่า การสอบสวนของอนุกรรมการต่อจากนี้ จะทำอย่างเป็นความลับ ไม่อยากให้เป็นข่าวออกมา เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลออกมา จะได้ไม่เกิดการแทรกแซงการทำงานของอนุกรรมการสอบสวน
“ทางรพ.ตำรวจได้มีการส่งเวชระเบียนรักษาคนไข้ (นายทักษิณ) มาให้คณะอนุกรรมการตามที่แจ้งให้รพ.ตำรวจส่งมา โดยมีเวชระเบียนส่งมาด้วย แต่ก็ส่งมาบางส่วน ซึ่งอนุกรรมการจะมีการพิจารณากันต่อไปว่าเอกสารทางการแพทย์ที่ส่งมาครบถ้วนสมบูรณ์เพียงพอที่จะลงมติตัดสินได้เลยหรือไม่ หากเห็นว่าเอกสารทางการแพย์ที่รพ.ตำรวจส่งมาครบถ้วนเพียงพอ อนุกรรมการก็จะลงมติตัดสินเลย เรื่องจะได้จบเร็วๆ แต่หากไม่สมบูรณ์ครบถ้วน อนุกรรมการก็อาจต้องสอบสวนเพิ่มเติม อนุกรรมการก็ไม่อยากเปิดเผยความลับมาก เพราะหากเปิดเผยมาก คนรู้เรื่องมาก มันจะยุ่งกันไปหมด หลังจากนี้ อนุกรรมการจะมาตรวจดูเอกสาร
นอกจากนี้ พบว่า รพ.ตำรวจมีการส่งเอกสารใบรับรองแพทย์ที่ทำการรักษาตัวผู้ป่วยส่งมาให้อนุกรรมการเช่นกัน แต่เบื้องต้นอาจจะต้องมีการขอเอกสารเพิ่มเติมอีก และอนุกรรมการจะเรียกมาชี้แจงด้วย เพื่อให้ครบตามขั้นตอน ก็จะทำให้เสร็จเร็วที่สุด เพราะไม่อยากให้มันรั่วไหล แล้วโดนแทรกแซง โดนใครต่อใคร เท่าที่อนุกรรมการสอบสวนคุยกัน ก็อยากให้สอบสวนเสร็จทุกอย่างภายในไม่เกินเดือนมีนาคม แต่หากไม่เสร็จจริงๆ ก็อาจขยับเวลาออกไปเล็กน้อย อนุกรรมการจะพยายามเร่งเครื่องให้มันจบเร็วๆ” นพ.อมร ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี