ม็อบยก3ปมร้อนลุยถล่มรัฐบาล
บุกทำเนียบ21ม.ค.
ซัดทำไม‘คนตระกูลเดียว’
ตัดสินอนาคตประเทศไทย
‘ทักษิณ’ลง5จว.อีสาน3วัน
ขึ้น8เวทีช่วยหาเสียงอบจ.
“จตุพร” ปลุก 21 มกราคม บุกทำเนียบฯจัดหนัก ซัด ทำไมคนตระกูลเดียวต้องตัดสินอนาคตประเทศ คิดแต่เรื่องเลวร้ายย่ำยี่ทำลายบ้านเมือง เย้ย “ทักษิณ” ขอกลับมาเลี้ยงหลาน แต่ตั้งบ่อนหาประโยชน์แบ่งกลุ่มทุนเทา ซัดบังอาจใช้ประเทศเป็นแหล่งฟอกเงิน ซ่อนเร้นยกพนันออนไลน์ถูกกฎหมายมอมเมาเยาวชน เชื่อ’บ่อน-ชั้น14-แพทยสภา-อัลไพน์’เป็นของร้อนแผดเผารัฐบาล‘ทักษิณ’เตรียมเยือนอีสาน 3วัน ขึ้น8เวทีปราศรัย ช่วยหาเสียงนายก อบจ.นครพนม-บึงกาฬ-หนองคาย--ขอนแก่น-มหาสารคาม’
เมื่อวันที่ 17มกราคม2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายกองค์การบริการส่วนจังหวัด (อบจ.) ของพรรคเพื่อไทย (พท.) ในพื้นที่จังหวัดในภาคอีสานโดยวันที่ 18มกราคม2568 จะเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปท่าอากาศสกลนคร เพื่อช่วย นายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายกอบจ.นครพนม หาเสียง และมีเวทีปราศรัยทั้งหมด 3เวที คือ เวทีแรกเวลา 09.30-11.30น.ที่อาคารโดมวิทยาลัย อ.ธาตุพนม เวทีที่2 เวลา 12.30-14.00น.ที่หอประชุมโรงเรียนนครพนมวิทยาคม อ.เมืองนครพนมและเวทีที่3 เวลา 14.00-15.30น.ที่โดมสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติเทศบาลตำบลศรีสงคราม จากนั้นจะไปค้างที่ จ.บึงกาฬ เพื่อขึ้นเวทีปราศรัยในวันรุ่งขึ้น
วันที่ 19มกราคม2568 นายทักษิณจะขึ้นเวทีปราศรัยที่โรงเรียนบึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ในเวลา 08.00-09.30น.เพื่อช่วยว่าที่ ร.ต.ภูมิพันธ บุญมาตุ่น ผู้สมัครนายก อบจ.บึงกาฬ หาเสียง จากนั้นในเวลา 10.00-12.00 น.จะเดินทางไปที่วัดพุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เพื่อช่วยนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัครนายก อบจ.หนองคาย หาเสียง และขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.หนองคาย อีกครั้งที่โรงเรียนท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ เวลา 13.00-15.00น.หลังจากนั้นจะเดินทางไป จ.ขอนแก่น เพื่อเตรียมความพร้อมหาเสียงช่วยนายพลพัฒน์ จรัสเสถียร ผู้สมัครนายก อบจ.มหาสารคาม หาเสียงในวันถัดไป วันที่ 20มกราคม2568 นายทักษิณจะขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.มหาสารคาม ทั้งหมด 3เวที เวทีแรกเวลา 08.30-10.00น.ที่โดมเทศบาล อ.เชียงยืน เวทีที่2 เวลา 10.30-12.00น.ที่โรงฝึกกีฬาอเนกประสงค์ สถาบันการพละศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม อ.เมืองมหาสารคามและเวทีที่3 เวลา 14.00-15.00น.ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.พยัคฆภูมิพิสัย
‘จตุพร’ซัดทำไมตระกูลเดียวตัดสินปท.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์เมื่อคืนวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา โดยกล่าวถึงนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล ระบุมีทุนบ่อนใหญ่จ้องล้มเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า เป็นการพูดลอยๆ กล่าวหา ใส่ความคนคัดค้านบ่อนคาสิโนเป็นพวกทุนบ่อนใหญ่ แต่ทำไมไม่บอกชื่อมาเลย ดังนั้นอย่ามาพูดลอยๆแบบนี้ ส่วนที่บอกข้อมูลว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยผลักดันนโยบายบ่อนคาสิโนเพื่อจะสร้างรายได้รัฐ2.06ห-4.9หมื่นล้านต่อปีนั้น หากพิจารณามูลค่าการท่องเที่ยวต่อปีที่แย่ๆ แล้ว ยังมีมากถึง 1.8 ล้านล้านและสามารถผลักดันไปถึง 3ล้านล้านต่อปีได้ ดังนั้น รายได้จากบ่อนคาสิโนให้รัฐแค่ 2 หมื่นกว่าล้าน ซึ่งเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับการท่องเที่ยวต่อปีที่แย่ๆ และไม่มีบ่อนคาสิโนด้วย”
ดันพนันบนดินมอมเมาเยาวชน
นายจตุพร กล่าวถึงการจะนำเงินนอกระบบ เช่น การพนันใต้ดินอนนไลน์ที่มีเงินหมุนเวียนประมาณ 1 แสนล้านบาทเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจบนดิน ว่า ข้อมูลจากกระทรวงการคลังที่รัฐบาลนำมาอ้างยังสะท้อนถึงปัญหาการพนันมากมาย โดยเฉพาะมีเยาวชนตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไปจำนวนกว่า 32 ล้านคนเคยเล่นพนันออนไลน์ ดังนั้น เมื่อนำมาบนดินการเข้าถึงจึงสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น เชื่อว่าการตั้งบ่อนคาสิโนจะระบุคนที่ได้ประโยชน์ไว้กันมาก่อนแล้ว เพราะมีตัวละครคนสองสัญชาติที่มีบทบาทสำคัญในการตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีบ่อนคาสิโนไทย อีกอย่างถ้าพรรคเพื่อไทยแน่จริงทำไมไม่เสนอเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้น การตั้งบ่อนคาสิโนจึงมาคิดกันที่หลัง เมื่อทักษิณ ชินวัตร กลับไทยอ้างมาเลี้ยงหลาน ซึ่งคงคิดมาตั้งบ่อนเพื่อเลี้ยงหลานกันแล้ว
ผุดกาสิโน-พนันบนดินมุ่งฟอกเงิน
“ประเทศชายแดนข้างไทยได้ตั้งบ่อนคาสิโนมานาน แต่ต้องเจ๊งราบคาบ ส่วนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกลับจะสร้างบ่อนคาสิโนให้ได้ ทั้งที่ ร.5และร.6 ทรงเห็นภัยคนติดการพนันจนพินาศย่อยยับและสร้างปัญหาให้ชาติบ้านเมืองอย่างไร จึงทรงยกเลิกและห้ามเล่นการพนัน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยบอกการสร้างศูนย์กลางบันเทิงครบวงจร มีทั้งโรงแรมหรู ห้างสรรพสินค้า สถานที่ประชุม และแหล่งบันเทิงสวนน้ำสวนสนุกต่างๆนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เป็นเพียงข้ออ้าง เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่แล้วมากมาย โรงแรมยังห้องว่างและห้างสรรพสินค้ายังเจ๊งยับเยิน จึงไม่จำเป็นต้องสร้างใหม่อีกเลย ดังนั้น การอ้างของรัฐบาลเป็นเพียงการซ่อนเร้นความจริงที่จะตั้งบ่อนคาสิโนให้ได้เท่านั้น ยิ่งหนักไปกว่านั้น คือ การทำให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมายเพื่อเรียกร้องความสนใจในการตั้งบ่อนคาสิโน แล้ว นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลฯ มีหน้าที่ปราบบ่อนและการพนันออนไลน์ขานรับความคิดทักษิณ ที่พูดหาเสียงที่เชียงรายทันที
“การพนันออนไลน์เป็นรายได้หลักของบ่อนคาสิโน แล้วยังจะเสนอให้เป็น พรก.การพนันออนไลน์อีก จึงเป็นการลักไก่ให้เกิดการพนันขึ้นทั่วประเทศได้อย่างง่ายดายได้ เพราะการพนันออนไลน์เป็นหัวใจหลักของรายได้ ส่วนบ่อนคาสิโนจะเป็นบริษัทแม่ข่ายให้การพนันออนไลน์เข้ามาสังกัด ถ้าเปรียบเทียบแล้วเหมือนเจ้ามือหวยใต้ดินรายใหญ่กับคนขายรายเล็กหรือเดินโพย และถูกกฎหมาย จึงน่ากลัวที่ประเทศจะเป็นแห่งการพนันถูกกฎหมาย”นายจตุพร ย้ำ
ทำลายประเทศไทย-หมดอนาคต
นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนเริ่มไม่เห็นด้วยกับการตั้งบ่อนคาสิโนและลุกลามขยายการคัดค้านออกไปกว้างขวาง จึงทำให้โฆษกรัฐบาลต้องบิดเบือนใส่ร้ายว่า เป็นพวกนายทุนบ่อนที่จะล้มศูนย์กลางบันเทิง แต่เมื่อรู้นายทุนบ่อนแล้ว รัฐบาลมีหน้าที่ปราบจัดการ กลับไม่ทำอะไร เอาแต่ใส่ร้าย บิดเบือนคนคัดค้านบ่อนคาสิโน การตั้งบ่อนคาสิโนนั้น จะออกกฎหมายให้สัมปทานนายทุนตั้งบ่อนได้นานถึง30ปีและต่อสัญญาได้ครั้งละ10ปี ดังนั้นบ่อนคาสิโนจะทำให้ไทยเป็นฮับการพนัน เพื่อให้กลุ่มนายทุนวางแผนฮุบการพนันนออนไลน์ถูกกฎหมายเพื่อทำลายประเทศไทยไปชั่วกัปชั่วกัลป์
“รัฐบาลมีข้อมูลอยู่แล้วจากการศึกษาของหน่วยงาน ก.คลังว่า เยาวชนอายุ 15 ปีถึง 32 ล้านคนเคยเล่นพนันออนไลน์ และคนพวกนี้ไม่เสียเงิน 5,000 บาทเพื่อเข้าไปเล่นในบ่อนคาสิโนแน่นอน ถ้าพนันออนไลน์ถูกกฎหมายยิ่งเล่นได้ง่ายขึ้นและสะดวกโดยผ่านมือถือ ซึ่งไม่ต้องกลัวถูกจับเลย รัฐบาลจะคุมเรื่องนี้ได้จริงหรือเปล่า เพราะทุกวันนี้ยังจัดการไม่ได้เลย”
ชี้กาสิโนคือแม่ข่ายพนันออนไลน์
นายจตุพร กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าบ่อนคาสิโนที่จะเป็นแม่ข่ายของการพนันออนไลน์จะเกิดได้สักกี่แห่ง เพราะทั้ง 8 แห่งที่วางแผนจะตั้งขึ้นมานั้น เมื่อไปที่ไหนประชาชนจะคัดค้าน ไล่ตะเพิดหนี เพราะกลัวการพนันมาทำความฉิบหายให้บ้านเมืองที่อยู่อาศัยอย่างสงบสุข การตั้งบ่อนคาสิโน โดยออกเป็นกฎหมายนั้น แม้ผ่านความเห็นของ ครม.แล้ว ต้องส่งไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาก่อนนำเข้าสู่สภา อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา แต่ไม่ได้หมายความว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะเอาด้วยกันทุกพรรค โดยความเห็นค่อนข้างสนับสนุนของนายอนุทิน ชาญวีระกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรมว.มหาดไทย คงเป็นการเล่นตามบทลู่ไปตามลมการเมืองเท่านั้น ยังไม่ถึงจังหวะที่ต้องแสดงจุดยืนออกมาให้ชัดเจน เพราะรู้ว่า ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นบ้านเมืองจะพังพินาศกันยับเยิน
จี้แพทยสภาสอบชั้น14ตรงไปตรงมา
“เรื่องตั้งบ่อนคาสิโนอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ไม่จำเป็นต้องเสี้ยมหรอก ขอให้ดูเวลาลั๊นลากันไปก่อน เพราะท่วงทำนองกฤษฎีกาแล้วอาจจะใช้เวลาพิจารณาถึง2เดือน ซึ่งจะคาบเกี่ยวกับผลสอบจรรยาบรรณแพทย์ของแพทยสภาคงแล้วเสร็จในเวลาไล่เลี่ยกันด้วย ส่วนการไต่สวนจรรยาบรรณแพทย์รักษาป่วยทิพย์หรือไม่ของแพทยสภานั้น นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อบ้านเมืองมีอภิสิทธิ์ชนแล้ว แพทยสภาต้องไม่ทำให้เป็นสองมาตรฐาน ขอให้ตรวจสอบกันตามเนื้อผ้า ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด และแพทย์รักษาทักษิณถ้าบริสุทธิ์ใจกันจริงต้องส่งข้อมูลให้ครบถ้วนแล้ว พิจารณาจากระยะเวลาแล้ว ไม่เชื่อว่าแพทยสภาจะไต่สวนอย่างชักช้าเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย เพราะการสั่งให้แพทย์ส่งข้อมูล เอกสารรายละเอียดมาให้ และในการสอบสวนก็เชื่อว่าแพทย์บางคนจะถูกกันไว้ในฐานะพยานก็ได้ ดังนั้น เรื่องนี้จะผูกติดกับชั้น 14 บ่อนคาสิโน การพนันออนไลน์”
กาสิโน-พนันออนไลน์-อัลไพน์จุดตาย
นายจตุพร กล่าวว่า ทั้งกรณีชั้น 14 บ่อนคาสิโน การพนันออนไลน์ และมาถึงสนามกอล์ฟอัลไพน์ โดยแต่ละเรื่องเป็นของร้อนแผดเผารัฐบาลได้ทั้งสิ้น ซึ่งเกิดจากการสำแดงของทักษิณ ที่ขออนุญาตกลับไทยมาเลี้ยงหลาน แต่คิดทำโครงการให้ไทยเป็นแหล่งฟอกเงินเทาขนาดใหญ่ ประเทศนี้ไม่สร้างมาจากคนตระกูลเดียวที่จะมาคิดตัดสินใจเรื่องแบบนี้ได้ แต่เป็นเรื่องของบูรพกษัตริย์ และคนในชาติแต่ละยุคสมัยที่ได้มาซึ่งแผ่นดินนี้ ดังนั้น การตัดสินใจทำบ่อนคาสิโนที่สร้างความเสียหายให้แผ่นดิน ลูกหลานเสี่ยงติดการพนันนออนไลน์ สังคมเกิดอาชญากรรม ต้องการเห็นโฉมหน้าประเทศเป็นแบบนี้เหรอ”
ลุ้น27ม.ค.ศาลชี้ชะตารับ-ไม่รับคำร้อง
นายจตุพร กล่าวอีกว่า คำร้องของ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.ปชป.ยื่นให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณานำตัวทักษิณ มาลงโทษติดคุก 1 ปี เพราะหลังจากศาลพิพากษาแล้ว ยังไม่ได้ติดคุกสักวันอย่างไรก็ตาม ศาลนัดให้ฟังคำสั่งว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่ในวันที่ 27ม.ค.นี้ ตนหวังว่า หนทางข้างหน้าจะเป็นทางออกที่ดีให้ประเทศไทย เพราะเท่ากับเป็นการยุติเรื่องร้ายแรงที่จะเกิดขึ้น ทั้งเรื่องการแบ่งผลประโยชน์พลังงานกับกัมพูชา การขายคอนโดให้ต่างชาติ 75% อยู่ได้ 99 ปี ยังจะสร้างบ้านเพื่อคนไทย โดยบ้านเอื้ออาทรยังปล่อยร้างอยู่จำนวนมาก กลับไม่แก้ปัญหา สิ่งสำคัญ ยังคิดใหญ่จะสร้างบ่อนคาสิโน ทำให้ประเทศกลายเป็นแหล่งฟอกเงินเทา และเป็นเมืองการพนันมาแทนที่ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติของประเทศที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลก “ดังนั้นวันที่ 21ม.ค.นี้ เวลา 10.00 น. กลุ่มสามัคคีประชาชนทุกฝ่ายคณะใหญ่ที่เคยไป ปปช.ทวงถามการไต่สวนชั้น14 จะไปทำเนียบรัฐบาล โดยจะพูดถึงแพทย์ รพ.ตำรวจ การส่งเอกสารชี้แจงแพทยสภาไม่ครบตามคำสั่งให้ส่งระเบียนรักษาทักษิณ ชั้น14และเรียกร้องให้นายกฯรับผิดชอบในฐานะกำกับดูแลตำรวจ นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงสนามกอล์ฟอัลไพน์และการสร้างบ่อนคาสิโนด้วย”นายจตุพร กล่าว
คปท.เช็คบิลป่วยทิพย์บุกทำเนียบ21ม.ค.
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เร่งเร้า แสดงพล อนุกรรมการ ชุดแพทยสภา แถลงว่า ร.พ.ตำรวจ ให้เอกสารทางการแพทย์มาไม่ครบ เหมือนปิดบังความจริงบางอย่าง ขณะเดียวกันทางคดี พี่ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ก็ยื่นศาลฏีกาแผนกคดีอาญา ให้ไต่สวน นำทักษิณ กลับเรือนจำ ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาจะมีคำสั่งว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องในวัน จันทร์ 27 ม.ค.นี้ งวดเข้ามาทุกทีๆ สถานการณ์ป่วยทิพย์ก็เตรียมเช็คบิล สถานการณ์ พนันออนไลน์ และกาสิโนก็ร้อนแรงท้าทายสังคม ถึงเวลาพี่น้องเราแสดงออกเพื่อปกป้อง ประเทศไทย #Saveประเทศไทย อย่าให้คนอยู่เหนือกฏหมาย อย่าให้ประเทศไทยเต็มไปด้วยการพนัน
วันอังคารที่ 21ม.ค.10.00น.พร้อมกันหน้าทำเนียบรัฐบาล ฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐอดีตแนวร่วม พธม.อดีตแกนนำ กปปส.อดีตแกนนำ นปช.,คปท. กองทัพธรรม ศปปส. จะไปทวงคืนความยุติธรรม กับ นายกฯหุ่นเชิด ลูกเทวดา เสาร์ 25 ม.ค.สำแดงพลังประชาชน คนไม่เอากาสิโน ไม่เอาพนันออนไลน์ ส่งพลังประชาชนให้ศาลฏีกาฯให้พิทักษ์กระบวนการยุติธรรม อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เที่ยงวันยันเที่ยงคืน ใส่รองเท้าผ้าใบ มาร่วมกัน #saveกระบวนการยุติธรรม #saveประเทศไทย #ไม่เอาพนันออนไลน์ #ไม่เอากาสิโน #คปท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี