เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก Harirak Sutabutr ระบุว่า เคยบอกไว้แล้วว่า รัฐบาลนี้จะผลักดันให้สถานบันเทิงครบวงจรหรือควรเรียกว่า สถานกาสิโนครบวงจร ให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด พ้นปี 2567 ไม่ถึงเดือน คณะรัฐมนตรีก็ให้ความเห็นชอบในหลักการ ต่อร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรและกฎหมายลูกอีก 24 ฉบับ ไปแบบไม่อายใคร
ยังดีที่เรื่องสำคัญๆเช่นนี้ โดยปกติต้องมีความคิดเห็นจากหน่วยราชการต่างๆมาประกอบการพิจารณา และก็ยังดีที่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีข้อท้วงติงที่รัฐบาลควรต้องรับฟัง แต่จะอย่างไร ลำพัง 2 หน่วยงานนี้ ไม่มีทางต้าน พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างแน่นอน
ผมไม่ใช่คนที่มีความคิดต่อต้านการตั้งสถานกาสิโนในประเทศไทยมาแต่ไหนแต่ไร เพราะแม้แต่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามก็ยังมีสถานกาสิโน และมีมานานแล้ว ประเทศอื่นๆในอาเซียน เช่น พม่า กัมพูชา ลาว ฟิลลิปปินส์ และสิงคโปร์ เขาก็มี แต่เขามักจะตั้งอยู่ใกล้ๆชายแดน เพื่อดึงดูดนักพนันจากประเทศใกล้เคียงโดยเฉพาะประเทศไทยให้มาใช้บริการ กาสิโนของมาเลเซียอยู่บนยอดเขาสูงในรัฐปะหัง เดิมมีแต่โรงแรมกับกาสิโน แต่ปัจจุบันพัฒนาเป็นสถานบันเทิงครบวงจรเช่นเดียวกัน
จะเห็นว่าสถานที่ตั้งของสถานกาสิโนของประเทศเหล่านี้ มักจะไปอยู่ในพื้นที่ๆไม่มีอะไรเป็นเครื่องดึงดูดนักท่องเที่ยว จึงทำให้เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือได้สถานกาสิโน และยังได้การพัฒนสถานที่ที่ยังไม่เจริญ และไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวอีกด้วย
ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศเล็ก มีเนื้อที่น้อยกว่าจังหวัดภูเก็ต ไม่มีมรดกทางวัฒนธรรม ไม่มีธรรมชาติที่สวยงาม แม้เป็นเกาะแต่หาดทรายก็ยังไม่มี เครื่องมือที่จะให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมีเพียงสถานชอปปิ้ง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นมาเองโดยมนุษย์ แม้แต่หาดทรายก็ต้องสร้างเอง ประเทศสิงคโปร์ทั้งประเทศจึงเป็น man-made destination ด้วยความจำเป็น ประกอบกับคนสิงคโปร์เป็นคนที่มีระเบียบวินัยสูง รายได้สูง และประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่บังคับใช้กฎหมายได้อย่างเฉียบขาด การสร้างสถานบันเทิงครบวงจรที่มีสถานกาสิโน เช่น Marina Bay Sands จึงเป็นเรื่องที่ชอบด้วยเหตุผล เพราะไม่ต้องห่วงผลกระทบในด้านลบที่จะมีต่อสังคมมากนัก
มาดูที่ประเทศไทย การพนันดูเหมือนจะอยู่ในสายเลือดของคนไทยจำนวนมากมาช้านาน จนเป็นที่ล้อกันว่า แม้แต่เห็นรถวิ่งผ่าน คนไทยก็ยังพนันทายเลขทะเบียนรถกันได้ ในสนามกอล์ฟ นักกอล์ฟสมัครเล่นแทบทุกคนก็จะพนันกันในสนาม มีวิธีพนันแบบพลิกแพลงอย่างที่นักกอล์ฟประเทศอื่นๆคิดไม่ถึง เมื่อเพื่อนฝูงและคนคุ้นเคยไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ก็มักไม่พ้นตั้งวงเล่นไพ่กัน บางครั้งติดลมกันจนถึงเช้า
แม้การพนันในขณะนี้ยังผิดกฎหมาย แต่ก็มีบ่อนการพนันเถื่อนอยู่แทบทุกจังหวัด บ่อนการพนันเถื่อนเหล่านี้คงอยู่ได้ก็เพราะการบังคับใช้กฎหมายที่หย่อนยานของเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐรับผลประโยชน์จากบ่อน บางครั้งเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองก็เป็นเจ้าของบ่อนเสียเอง และด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน การพนันออนไลน์ก็เกิดขึ้นอย่างสะดวกและมีเป็นจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะเป็นข่าวว่ามีการจับเจ้าของเว็บพนันออนไลน์มาดำเนินคดีหลายราย แต่ก็ไม่มีทีท่าว่า การพนันออนไลน์จะหมดไป หรือแม้กระทั่งลดลง
นี่เป็นเหตุผลที่รัฐบาลนำมาอ้างว่า การตั้งสถานกาสิโนครบวงจรเป็นการนำสิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดิน ซึ่งรวมถึงการทำให้การพนันออนไลน์ถูกฎหมายด้วย เพื่อจะได้เก็บภาษี ทำให้ประเทศมีรายได้มากขึ้น เศรษฐกิจจะดีขึ้น ประชาชนจะมั่งมีขึ้น แต่ตามที่สภาพัฒน์ท้วงติง คือการพนันเป็นการทำให้เงินเปลี่ยนมือกันไปมาเท่านั้น ไม่ได้มีผลผลิตเกิดขึ้น จึงไม่เป็นการทำให้ GDP โตขึ้นแต่อย่างใด และก็ไม่ทราบว่าจะทำให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้นได้อย่างไร เพราะจำนวนการจ้างงานจากสถานบันเทิงครบวงจรรวมกัน ก็ไม่ได้มากสักเท่าใด การเก็บเงินค่าเข้าสำหรับคนไทย 5,000 บาทต่อครั้ง น่าจะไม่ทำให้บ่อนการพนันผิดกฎหมายหมดไปได้ กลับจะทำให้มีผู้หมดเนื้อหมดตัวเพราะการพนันมากขึ้น การก่ออาชญากรรมก็จะมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ขณะนี้มีเสียงคัดค้านต่อ พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร จากทุกทิศทุกทาง ส่วนใหญ่ที่คัดค้านไม่ใช่เพียงเพราะไม่ชอบการพนัน แต่เป็นเพราะพฤติกรรมของรัฐบาลในเรื่องนี้ เป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ ดังนั้น หากจะทำให้คนส่วนใหญ่หยุดการคัดค้าน รัฐบาลจะต้องมีคำตอบให้คำถามต่อไปนี้ให้เป็นที่น่าพอใจก่อน
1. เพราะเหตุใดรัฐบาลจึงต้องออกกฎหมายพิเศษเป็นการเฉพาะสำหรับสถานบันเทิงครบวงจร ในขณะที่สามารถแก้กฎหมายว่าด้วยการพนันเดิม ที่มีมาตั้งแต่ พ.ศ.2478 เพื่อเอื้อให้จัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรได้ ดังเช่นที่มีการอนุญาตให้มีการพนันกันได้ในสนามมวย สนามม้า สนามชนไก่เป็นต้น
2. เพราะเหตุใด ใน พ.ร.บ.จึงกำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และคณะกรรมการบริหารสถานบันเทิงครบวงจร และจัดตั้งสำนักงานซึ่งเป็นนิติบุคคลแยกออกเป็นเอกเทศ และดูเหมือนจะมีอำนาจในการออกใบอนุญาตจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรด้วย เพราะเหตุใดจึงไม่ให้กระบวนการออกใบอนุญาต และกำกับดูแลสถานบันเทิงครบวงจร เป็นหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐที่มีอยู่แล้ว
3. แทนที่จะออกใบอนุญาตให้เอกชน เพราะเหตุใดจึงไม่จัดตั้งรัฐวิสาหกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยให้รัฐวิสาหกิจเป็นผู้ดำเนินกิจการ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการทุจริตคอรัปชั่นในการออกใบอนุญาตจัดตั้ง
4. เพราะเหตุใดจึงให้จัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรถึง 10 แห่งทั่วภูมิภาคพร้อมๆกัน แทนที่จะเร่ิมด้วยการจัดตั้งเพียงแห่งเดียวเพื่อเป็นการนำร่องก่อน เช่นนี้จะไม่เป็นการทำให้มีสถานที่ฟอกเงิน และซ่องสุมการกระทำผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นทั่วประเทศหรือ
5. เพราะเหตุใดจึงไม่เลือกสถานที่ตั้งในเมืองรองที่ยังไม่เจริญ แต่ไปเลือกสถานที่ตั้งในเมืองใหญ่ที่มีสถานบันเทิงอื่นๆนอกจากบ่อนกาสิโนครบอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการซำ้ซ้อน และอาจทำให้สถานบันเทิงที่มีอยู่แล้วต้องเลิกกิจการไป
6. เพราะเหตุใดจึงไม่มีการศึกษาโดยละเอียดว่า การจัดตั้งสถานบันเทิงหรือสถานกาสิโนครบวงจร ว่าจะทำให้บ่อนกาสิโนเถื่อนที่มีอยู่ทั่วไปต้องหมดไป หรือลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญหรือไม่
7.เพราะเหตุใดจึงไม่มีการศึกษาก่อนร่าง พ.ร.บ.ว่า บ่อนกาสิโนครบวงจรจะมีผลกระทบทางลบต่อสังคมมากจนไม่คุ้มค่าหรือไม่ เพราะการศึกษาของกรรมาธิการดูจะละเลยเรื่องผลเสียดังกล่าวไป
8. เพราะเหตุใดจึงกล้าออกกฎหมายลูกอย่างมีเงื่อนงำ และไม่มีปี่มีขลุ่ยให้การพนันออนไลน์เป็นธุรกิจถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดผลเสียต่อสังคมอย่างใหญ่หลวงมากขึ้นไปอีก เพราะการคุยโวว่าจะสามารถติดตามพฤติกรรมผู้เล่นได้อย่างใกล้ชิด เป็นเรื่องที่เชื่อได้ยากอย่างยิ่ง
พฤติกรรมทั้ง 8 ข้อ ทำให้น่าสงสัยว่า การรีบผลักดันเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรอย่างผิดสังเกต และจะทำพร้อมๆกันถึง 10 แห่ง ในขณะที่บ่อนการพนันมีอยู่เกลื่อนกลาดรอบประเทศ และกำลังอยู่ระหว่างขาลง เนื่องจากการแข่งขันสูง และดูท่าทีแล้ว การตัดสินว่าใครจะได้เป็นผู้ประกอบการ ก็คงไม่ได้ใช้การประมูลว่าใครให้ให้ผลประโยชน์แก่รัฐมากกว่ากัน แต่ใช้วิธีออกใบอนุญาต โดยผลประโยชน์ที่จะต้องให้แก่รัฐกำหนดไว้ล่วงหน้า เช่นนี้แปลว่าได้มีการกำหนดตัวผู้ที่จะได้รับอนุญาตไว้ล่วงหน้าแล้วหรือไม่
ด้วยเหตุข้างต้น การผลักดันสถานบันเทิง หรือสถานกาสิโนครบวงจร จึงน่าจะไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง แต่มีผลประโยชน์ของบุคคลและของพรรคการเมืองเกี่ยวข้องอยู่ด้วย จึงได้รีบเร่งกันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ประหนึ่งจะกลัวว่าจะพ้นจากอำนาจก่อนได้ทำ ทำให้พลาดโอกาสที่จะได้ประโยชน์ก้อนโตที่จะเป็นกำลังสำคัญในการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้
ไม่ทราบว่าพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคคิดอย่างไร เห็นดีเห็นงามด้วยทุกประการ หรือจำใจต้องปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปก่อน ก็คาดว่าคงมีทั้ง 2 แบบ หากรัฐบาลตอบคำถามทั้ง 8 ข้อนี้ไม่ได้ และยังเดินหน้า พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร และกฎหมายลูกอีก 24 ฉบับ และยังผลักดัน MOU 44 ต่อไปโดยไม่ฟังใคร ไม่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าจะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาหรือไม่ จุดจบของรัฐบาลชุดนี้จะมาถึงอีกไม่นาน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี