‘จุรินทร์’ชงทำประชามติ
ผุดเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
ได้คุ้มเสียหรือไม่-ให้ปชช.ตัดสิน
“แม้ว”ยันเก็บภาษีจากพนัน ไม่ใช่รัฐสิ้นไร้ไม้ตอก แต่คือผลพลอยได้ ลั่นคิดทำเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ก่อนสิงคโปร์ แต่คิดปุ๊บเจอค้านปั๊บเชื่อวันนี้คนเข้าใจพร้อมหนุนด้าน “จุรินทร์” ชี้ทำประชามติ“กาสิโน”ช่วยสร้างความชอบธรรมให้รบ.ได้คุ้มเสียหรือไม่ ให้ประชาชนตัดสิน“ปธ.วิปรัฐบาล” ยังไม่ชัวร์ทำประชามติหรือไม่ ขอรอดูร่างของกฤษฎีกาก่อน เหน็บพวกค้านตอนหาเสียงบอกจะเอาเรื่องใต้ดินขึ้นบนดินทั้งหมด
เมื่อวันที่ 20มกราคม2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างลงพื้นที่ภาคอีสานเป็นวันที่3 เพื่อช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.มหาสารคาม ว่า เรื่องการพนันการเก็บภาษีไม่ใช่รัฐบาลสิ้นไร้ไม้ตอก แต่มันคือผลพลอยได้ สิ่งที่เราจะทำเป็นผลประโยชน์ต่อบ้านเกิด โดยเฉพาะเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ มีบางคนไปพูดคำว่า เปิดแค่กาสิโน แต่สถานบันเทิงครบวงจร มันมีทั้งจัดคอนเสิร์ต มีโรงแรมเป็นพันๆห้อง ลงทุนเป็นแสนล้าน มีเงินลงทุนไหลเข้าประเทศไทยอีกเยอะและการจ้างงานแต่ละที่ก็ 2หมื่นคน มีเงินเดือนขั้นต่ำ 2หมื่นบาทและกาสิโนก็เป็นเพียงพื้นที่ไม่ถึง10%ของสถาบันบันเทิงครบวงจร แค่นิดเดียว คนที่ไปบอกว่ากาสิโน กาสิโนมันคือบิดเบือน
“ผมคิดเรื่องนี้ก่อนสิงคโปร์ ตอนสมัยไทยรักไทย ผมคิดปุ๊บประเทศไทยค้านทันที เพราะคนไม่รู้เรื่อง สุดท้ายสิงคโปร์ไปทำก่อน มีต่างชาติมาท่องเที่ยวเยอะมาก แต่ของเราทำตาปิบๆไป20ปี วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยและเข้าใจสนับสนุนเราก็ควรจะต้องทำ ไม่อย่างนั้นประเทศไทยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อยู่ไปวันๆ บังคับให้เขาทำงาน ทำไร่ ไม่มีโอกาสพัฒนาตัวเอง”
พท.ขอเลิกโลกสวย-รับความจริงกาสิโน
นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการผลักดันร่าง พ.ร.บ.สถาบันเทิงครบวงจร หรือ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” โดยชี้ให้เห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องยอมรับความจริงเกี่ยวกับการบริหารจัดการการพนันในบริบทที่เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย ประเทศไทยถูกล้อมรอบด้วยคาสิโนที่ถูกกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเมียนมาร์ ที่มี 14แห่ง กัมพูชา21แห่ง ลาว 4แห่ง มาเลเซีย1แห่ง รวมถึงสิงคโปร์อีก2แห่ง โดยเงินจำนวนมหาศาลของคนไทยไหลออกนอกประเทศทุกปี ขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังปล่อยให้มีบ่อนเถื่อนเล็กๆในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ไม่มีการควบคุมดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างงาน-ทำเงินเหมือน’ลาสเวกัส’
“วันนี้ถึงเวลาที่ต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดบนโต๊ะ และทำให้ถูกต้อง มากกว่าการมองแค่ว่าเป็นเรื่องมอมเมาประชาชน เราต้องยอมรับว่าคาสิโนคือโอกาสทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องปิดตาไม่มอง” นายอัครนันท์กล่าว พร้อมเสริมว่า การผลักดันโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่เพียงเพื่อการพนันเท่านั้น แต่เป็นการสร้างศูนย์รวมความบันเทิงและการท่องเที่ยวที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในหลายมิติ”
นายอัครนันท์ ยังยกตัวอย่างกรณีลาสเวกัสในสหรัฐอเมริกาที่สามารถเปลี่ยนพื้นที่ทะเลทรายให้กลายเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากคาสิโนยังมีโรงแรม ร้านอาหารระดับ 5ดาวและคอนเสิร์ตจากศิลปินระดับโลก ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ส่งผลให้เกิดการสร้างงานและสร้างรายได้มหาศาลในทุกปีต้องเข้าใจว่าคาสิโน เพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แต่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งยังช่วยลดปัญหาการเงินไหลออกนอกประเทศ การผลักดันโครงการนี้จะต้องมาพร้อมกับมาตรการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อป้องกันปัญหาสังคม เช่น การติดการพนัน การฟอกเงินและการจัดการคาสิโนผิดกฎหมาย’
‘จุรินทร์’แนะทำประชามติ’กาสิโน’
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ ถึงเรื่องเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ว่า ร่างใหม่ที่ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไป พรรคปชป.ยังไม่เคยมีการคุยกัน ถ้าสมมุติว่ามีร่างที่ผ่าน ครม.มาอย่างชัดเจนและรัฐบาลตัดสินใจว่า จะเสนอเข้าสภา ตอนนั้นที่ประชุมพรรคหรือที่ประชุม สส.ของพรรค จึงจะมีการคุยกันว่าจะมีความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการประชุม สส. ของพรรคเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ และต้องรอความชัดเจนด้วยว่าสุดท้ายรัฐบาลจะตัดสินใจเอาเข้าสภาหรือไม่ เมื่อถามว่า ทำไมเรื่องนี้ต้องทำประชามติ
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า 1.เรื่องนี้เป็นเรื่องผลกระทบกว้างขวาง ทั้งสังคม เศรษฐกิจ การเมืองและเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหวมาก 2.ประชาชนมีความเห็นต่าง ฝ่ายหนึ่งเห็นด้วยอีกฝ่ายไม่เห็นด้วย 3.พรรคการเมืองไม่ได้หาเสียงมาก่อนว่าจะทำคาสิโน อาจจะพูดกว้างๆ แต่ไม่ได้ระบุชัดว่าจะทำคาสิโนเพื่อประกอบการตัดสินใจของประชาชน เพราะฉะนั้นข้อยุติที่ดีที่สุด คือการทำประชามติ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนว่า เห็นด้วยที่จะให้ทำหรือไม่ ซึ่งเป็นทางออกที่ตนคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาลเองที่จะได้มีความชอบธรรมถ้าประชาชนเห็นด้วย ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็ยกเลิกได้ เพราะเป็นรัฐบาลในวิถีทางประชาธิปไตยที่ควรรับฟังเสียงประชาชน เพราะบางประเทศก็ใช้ประชามติในการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ของบ้านเมือง ซึ่งประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่และมีผลกระทบในวงกว้าง จึงคุ้มค่าที่จะทำประชามติ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กไร้ต่อต้าน
‘ภาพรวมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ผมคิดว่าแรงต่อต้านไม่มี แต่ประเด็นใหญ่คือกาสิโน เพราะถ้าจะทำเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ คิดว่าประชาชนไม่ขัดข้องอะไร ฝ่ายที่ต่อต้าน ส่วนใหญ่เท่าที่รับฟังก็ไม่ได้คัดค้าน เพราะการทำศูนย์การค้า ทำร้านอาหาร การทำแหล่งบันเทิง ก็มีอยู่แล้วในประเทศเรา ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ แต่สิ่งที่จะเป็นประเด็นที่เป็นความเห็นที่ขัดแย้งกันอยู่คือ คาสิโน” นายจุรินทร์ กล่าว เมื่อถามว่า ถ้าร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสภา ปชป.ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลจะโหวตอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวตอบว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันในพรรคก่อน 1.ขอดูหน้าตาของร่างว่าออกมาเป็นอย่างไร รายละเอียด เงื่อนไขเป็นอย่างไร 2.เมื่อไปคุยในพรรคแล้วในภาพรวมพรรคมีความเห็นอย่างไร
คุ้มค่างบ3พันล้าน-ถ้าเสียหายมหาศาล
เมื่อถามว่า การทำประชามติรอบหนึ่งใช้งบประมาณกว่า3พันล้านจะคุ้มหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนคิดว่าคุ้มค่า เพราะความเสียหายถ้าเทียบไปแล้วกับ2-3พันล้าน หากเกิดความเสียหายจะมากกว่านี้ จะเป็นความเสียหายมหาศาล โดยเฉพาะปัญหาทางสังคมและผลกระทบทางเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเป็นห่วง เพราะฉะนั้นเพื่อหาข้อยุติสำหรับทุกฝ่าย เป็นทางออกที่ดี ซึ่งเราก็มีกฎหมายประชามติ และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายประชามติ ก็เพื่อให้เปิดทางให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และให้ฝ่ายต่างๆได้ถามประชาชนในประเด็นที่คิดว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ อาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับบ้านเรา แต่สามารถทำได้ ทั้งหมดนี้เป็นข้อเสนอและเป็นความเห็น รัฐบาลจะรับฟังหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ หรือฝ่ายต่างๆจะเห็นด้วยหรือไม่ก็แล้วแต่
สว.พันธุ์ใหม่หนุนทำประชามติ
น.ส.นันทนานันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีการผลักดันกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า ขณะนี้เรากำลังศึกษาและรอดูรายละเอียดที่รัฐบาลดำเนินการ หากรัฐบาลจะผลักดันเรื่องนี้จริง เราพร้อมแสดงจุดยืน รวมถึงร่วมให้ข้อมูลแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เพราะถือเป็นอนาคตของเยาวชนของชาติและทิศทางของประเทศ ไม่ใช่แค่เรื่องของเศรษฐกิจ เมื่อถามถึงกรณีมีการเสนอให้ทำประชามติ น.ส.นันทนา กล่าวว่า เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ทำให้เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ยากใช้เงินเยอะ ถ้าบอกว่าเรื่องต่างๆต้องทำประชามติทั้งหมด เราเกรงว่าเงินจะหมดคลัง หากเป็นไปได้ก็อยากให้การทำประชามติเป็นเรื่องที่ประชาชนเข้าถึงง่าย ตราบได้ที่การจัดทำประชามติมีมูลค่าสูง รายละเอียดมาก ซับซ้อนก็ถือเป็นเรื่องที่ยาก แต่หากแก้ไขในส่วนนี้ได้ เราเห็นด้วยที่จะมีการทำประชามติ ถ้าเรานำเรื่องอบายมุขขึ้นมาถูกกฏหมายทั้งหมดต่อไปประเทศเราอาจจะใกล้เคียงกับบางประเทศที่มีสินค้าส่งออกเป็นยาเสพติด เพราะถือว่าทำรายได้ได้ดี ดิฉันมองว่าไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ สุดท้ายเยาวชนของชาติไม่มีอนาคต
ปธ.วิปยังไม่ชัวร์ต้องทำประชามติ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีมีการเสนอให้ทำประชามติร่าง พรบ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ว่า เป็นเรื่องที่ทุกคนเป็นห่วง เพราะเป็นเรื่องใหม่กับประเทศเรา ในฐานะอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติ เรื่องทั้งหมดที่ ครม.ผ่านก็ส่งไปกฤษฎีกา ซึ่งยังมาไม่ถึง ตนจึงยังไม่ได้อ่านสักมาตราว่าเป็นอย่างไร กฤษฎีกาอาจจะแก้ไขเพิ่มเติมก็ได้และกว่าจะมาถึงวิปฝ่ายค้านและวิรัฐบาลก็ใช้เวลา 40-50วัน จึงไม่แน่ใจว่าในร่างที่ครม.เสนอให้มีการทำประชามติหรือไม่ หรืออาจจะมีก็ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายสนับสนุน ไม่ใช่เห็นต่างอย่างเดียว บางคนไม่เห็นด้วย เพราะอยากให้ถูกกฎหมาย เพื่อไม่ให้ใครไปเก็บส่วย จึงควรทำอะไรให้ถูกต้องและหลายประเทศทั่วโลกเขาก็ทำ การที่มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องดีที่ทักท้วงกันมา หากกฤษฎีกาส่งมา จะได้รู้ว่าติดขัดตรงไหนอย่างไร
เหน็บหาเสียงจะเอาขึ้นบนดินทั้งหมด
เมื่อถามว่า จะทำความเข้าใจหรือไม่ เพราะมีเสียงคัดค้านการทำกาสิโนค่อนข้างเยอะ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า มีการทำความเข้าใจอยู่แล้ว บางคนก็ค้านทุกเรื่อ บางคนตนจำได้ตอนไปหาเสียงเลือกตั้งก็พูดหน้าตาเฉยว่า ถ้าเป็นรัฐบาลจะเอาเรื่องใต้ดินขึ้นมาบนดินทั้งหมด วันนี้ก็ออกมาค้านอีก ค้านทุกเรื่อง ซึ่งไม่เป็นไร ความเห็นเป็นเรื่องปกติ เมื่อถึงเวลาก็ต้องมาพูดในสภาฯว่า จะมีวิธีการทำอย่างไร ทุกคนก็เป็นห่วง หลายคนก็สนับสนุน มีทั้งเห็นด้วย เห็นต่าง เห็นชอบ มีสารพัดเรื่อง เมื่อถามว่า หากมีการทำประชามติ จะช่วยลดการต่อต้านได้หรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เราต้องดูว่า ประชามติมีในร่างกฎหมายหรือไม่ ไม่ใช่ว่าอยากจะทำประชามติทุกเรื่อง เพราะการทำประชามติครั้งงหนึ่งใช้งบประมณ 3พันล้านบาท ต้องคิดดูดีๆ หรือจะทำประชามติพร้อมกับเรื่องอื่นก็ได้ หรือจะทำพร้อมกับรัฐธรรมนูญก็ได้ ดังนั้นก่อนตอบไปว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ขอให้ได้เห็นร่างกฎหมายที่กฤษฎีกาส่งมาก่อน แต่เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี