‘ดิเรกฤทธิ์’ขอดูร่างกฎหมาย‘กาสิโน’ก่อน ย้ำต้องตอบให้เคลียร์ทุกประเด็น-อย่าใช้ประชามติเสียงข้างมากบีบ

วันที่ 21 มกราคม 2568 นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์กับรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ในประเด็นแนวคิดการตั้งสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะมีกาสิโนเป็นส่วนหนึ่งด้วย ว่า หากมีแต่สถานบันเทิงอื่นๆ เช่น สวนสนุก โรงภาพยนตร์ ศูนย์วัฒนธรรม ฯลฯ ก็ทำได้ไม่มีปัญหาอะไรเพราะไม่มีกฎหมายห้าม แต่ที่ต้องพยายามออกกฎหมายขึ้นมาใหม่เพราะมีเรื่องกาสิโน 

แต่การจะมีกาสิโนถูกกฎหมายก็ต้องมีรายละเอียด เพราะการจะทำให้สิ่งผิดกฎหมายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ต้องมีเหตุผลเพียงพอที่จะออกกฎหมายเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์กับประชาชน จะไม่สร้างปัญหาสังคม อาชญากรรม การฟอกเงิน คนติดพนันครอบครัวแตกแยก หรือจะมีข้อดีเรื่องการสร้างรายได้นำมาใช้พัฒนาการศึกษา ฯลฯ ต้องทำให้เห็นเหตุหล เห็นทางเลือกที่ดีกว่าเดิมที่ห้ามไว้ ตรงนี้ยังมีเวลาได้คุยกัน 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่เห็นร่างกฎหมาย และยังไม่เห็นว่าจะไปขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร และตนก็ไม่เห็นด้วยหากจะนำเรื่องกาสิโนไปทำประชามติโดยข้ามขั้นตอนการพิจารณาของรัฐสภา ถือว่าเป็นนักการเมืองมีเสียงข้างมาก คนเลือกหมด อะไรก็จะโยนไปประชามติเพื่อเอาประชามติมาบีบให้สิ่งที่ตนเองคิดจะทำได้เปรียบเพื่อให้ออกมาเป็นกฎหมาย ส่วนที่บอกว่า กาสิโนคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 10 ของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เรื่องนี้ก็ต้องไปดูที่รายละเอียด 

“ที่ผมว่าไม่เห็นด้วยกับกาสิโนไม่ใช่หาชนฝา เห็นคำว่ากาสิโนแล้วไม่เห็นด้วย ขอดูร่างก่อน ถ้าอธิบายได้ว่าถ้ามีกาสิโนแล้วมันทำให้ประเทศเจริญ ให้คนไทยดีขึ้น ผมก็ไม่ปฏิเสธ หรือคุณผ่านสภาฯ ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยเสียงข้างมาก ออกเป็นกฎหมายเราก็เคารพอยู่แล้ว เพียงแต่รายละเอียดนี้ต้องดูว่า คำว่า 10% นี้คือ 10% ของอะไร ของพื้นที่หรือของการลงทุน หรือของการมีส่วนร่วมของหุ้นส่วน ตรงนี้ต้องให้ชัด เพราะว่าถ้าใช้ที่ 300 ไร่ 10% มัน 30 ไร่เลยนะ มันมหึมา เป็นกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยนะ ก็อาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้ สมมติอย่างนี้” นายดิเรกฤทธิ์ ระบุ

นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนเหตุผลที่ให้มีกาสิโนถูกกฎหมายเพื่อที่คนไทยจะได้ไม่ต้องไปเล่นที่กาสิโนในประเทศอื่น รวมถึงให้การพนันที่อยู่ในมุมมืดออกมาสู่ที่สว่างจะได้ควบคุมได้ เรื่องนี้ก็ต้องไปดูรายละเอียดว่าสุดท้ายแล้วเมื่อกฎหมายออกมา แล้วมีนโยบายบอกประชาชนว่าเรื่องที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดินเพื่อให้เป็นประโยชน์ เก็บภาษีได้ อะไรต่างๆ แต่กลายเป็นเมื่อมีกาสิโนแล้วกลับเป็นหัวขบวนให้มีการพนันผิดกฎหมายมาพ่วงด้วย แบบนี้ตนก็ไม่เห็นด้วย เพราะจะย้อนแย้งกัน 

กล่าวคือ ในเมื่อกาสิโนให้มีในพื้นที่จำกัดเล็กๆ เพื่อให้ครบองค์ประกอบของสถานบันเทิงครบวงจรให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้ แต่ไปเอาเรื่องที่อยู่ใต้ดินซึ่งควบคุมไม่ได้ เป็นภัยสังคม มีปัญหาเรื่องฟอกเงิน แบบนี้ทำให้เรื่องที่ควรจะเป็น หรือกาสิโนที่ควรจะมีกลายเป็นเสียไปเลย ทั้งนี้ หากมีเหตุมีผล ไม่จำเป็นต้องทำประชามติเพราะสิ้นเปลือง แต่ใช้การจัดประชาพิจารณ์ทั่วไปก็ได้ เปิดเวทีดึงนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุยกัน 

“ถ้าเสียงส่วนใหญ่ซึ่งท่านมีอยู่แล้ว รับฟังเสียงส่วนน้อยได้บ้าง แล้วก็มีเวทีให้เขา และอธิบายด้วยเหตุด้วยผลว่าถ้าเอาประโยชน์ประชาชนเป็นตัวตั้งแล้ว ฝ่ายค้านทั้งหลายในทางสังคม-ในทางสภาฯ ที่ออกมาอธิบายได้ทุกข้อ ผมว่าประชาชนก็เห็นด้วย ประเทศก็เป็นประชาธิปไตยเดินไปตามครรลอง กฎหมายกาสิโนก็ออกได้” นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว