เบื้องหน้าดันกาสิโน-เบื้องหลังพนันออนไลน์
‘จตุพร’ซัด‘แม้ว’
สุดท้ายคุมไม่ได้/ผิดก.ม.อื้อ
ชี้ต้นตอทำผิดหลายรูปแบบ
เย้ยขายฝันบ้านเพื่อคนไทย
บ้านเอื้ออาทรขายไม่ออกเพียบ
“จตุพร”รู้ทัน“ทักษิณ”ดัน“กาสิโน”แต่เบื้องหลัง คือ“พนันออนไลน์” ชี้สุดท้ายคุมไม่ได้-เรื่องผิดกฎหมายอื้อ เย้ยคิดแต่นโยบายทำความเสียหาย ส่วน MOU44 ไม่คืบ หันหนุนเปิดบ่อนกาสิโน ซ้ำขายฝัน‘บ้านเพื่อคนไทย’เหน็บบ้านเอื้ออาทร ขายไม่ออกเพียบ
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ให้สัมภาษณ์กับรายการ“สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ“แนวหน้าออนไลน์”ในประเด็นท่าทีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า นายทักษิณอาจคิดว่ากำลังแสดงความเหนือกว่าคนอื่น แต่กับตนซึ่งรู้จักนายทักษิณ เห็นแววตาที่แสดงถึงความกังวลและขี้ขลาด เพราะเขาย่อมเห็นว่าสถานการณ์ข้างหน้ากำลังจะจบลงอย่างไร ดังนั้นก็ต้องสำแดงให้เห็นเกินความเป็นจริง เหมือนอยู่ในโลกสมมติ คือในความเป็นจริง สิ่งที่นายทักษิณ พูดนั้นเกินคำว่าประชาธิปไตยไปแล้ว แต่เป็นรอยต่อของสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เพราะมีอำนาจเหนือกว่านายกรัฐมนตรี การพูดสั่งการในแต่ละเรื่องสะท้อนให้เห็นว่า การที่จะแสดงว่าตนเองมีอำนาจมาเพราะอะไร แล้วก็ให้กลไกแวดล้อมพูดในสิ่งทีพิสูจน์ไม่ได้ แต่ นายทักษิณ ย่อมรู้ว่า พรรคร่วมรัฐบาล นักการเมืองคุมยากที่สุด ก็ต้องแสดงความเหนือกว่า รวมถึงต้องพูดให้กำกวม ก้ำกึ่งและดุดัน ซึ่งกลไกราชการก็เคยเจอ
‘ตุ่’ซัด’แม้ว’คิดนโยบายทำลายประเทศ
อย่างสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วันหนึ่งไม่สามารถสั่งข้าราชการได้แม้แต่หน่วยงานเดียว แล้วจะนับอะไรกับนักการเมือง เพรานักการเมืองก็คิดเป็นตอนๆ อยู่แล้ว ก็เหมือนกับ นายทักษิณ จึงต้องแสดงความแข็งแรงและแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่ในความเห็นของตน นายทักษิณ ถือไพ่แค่แต้มเดียว แต่ทำเหมือนกับมีไพ่เต็มมือหรือถือไพ่ 9แต้มเหนือกว่าคนอื่น คือพยายามจะเกทับแต่จริงๆ ไม่ใช่ ถ้าไปไม่ตกใจตามเดี๋ยวนายทักษิณเขาก็รู้ตัวเอง แต่หากไปตกใจกลัวแล้ววิตกกังวล แบบนี้ก็จะสู้ไม่ได้
“คุณทักษิณในวันที่เขามีอำนาจมากกว่านี้เยอะ แต่ละคำที่เขาพูดบนเวทีปราศรัยในขณะนี้เขายังไม่กล้าพูดเลย วันนี้เอาอะไรมาใหญ่ 144 เสียง เพราะฉะนั้นเขาก็จะพ่วงกับสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ตลอดระยะเวลา กับสิ่งที่กำลังจะกระทำ ดังนั้นผมมองเห็นว่า ความเป็นจริงรอบนี้เขามีโอกาสที่เข้ามา แต่บังเอิญว่า ไม่ได้ใช้โอกาสนี้ ทำลายโอกาสด้วยการไม่ต้องการติดคุกสักวัน แล้วก็มาเสนอนโยบายแต่ละเรื่องมันเป็นการทำลายชาติบ้านเมืองทั้งสิ้น ไม่ว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บ่อนกาสิโน แล้วต่อมาก็พ่วงการพนันออนไลน์” นายจตุพร กล่าว
แฉMOUไม่คืบ-หันหนุนบ่อนกาสิโน
นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า ยังไม่นับเรื่องบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐไทยกับรัฐบาลกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ซึ่งจัดทำขึ้นในปี 2544 หรือ MOU44 การให้ต่างชาติใช้ที่ดิน 99 ปี ระบบขนส่งทางรางที่ยกพื้นที่ข้างรางให้เอกชน หรือเรื่องระบบเงินตรา ที่จะนำร่องใน จ.ภูเก็ต ตนคิดว่าหากหน่วยงานที่รับผิดชอบมองไม่เห็นปัญหา บ้านเมืองเราก็อยู่ในสถานการณ์ที่น่ากังวล
ซึ่งนายทักษิณต้องการเล่นใหญ่ กล่าวคือ หากชนะก็ได้ แต่หากแพ้ก็จะรู้ว่าสิ่งที่ตามหลังคืออะไร ดังนั้นนายทักษิณ จึงวางเดิมพันไว้สูง เสี่ยงวัดกันไปเลย หากได้กาสิโน ได้การพนันออนไลน์ก็คือได้เต็มๆ หรือการแบ่งพื้นที่ 50-50 ระหว่างไทยกับกัมพูชาทั้งที่ยังไม่ปักปันเขตแดน พอเห็นกระแสต้านมากๆ ก็เงียบไว้ก่อน มาเอากาสิโนก่อน ไม่ได้สนใจอนาคตของชาติบ้านเมือง
ขายฝันบ้านเพื่อคนไทย-ของเก่าค้างอื้อ
ขณะเดียวกัน ยังมาขายฝันเรื่องบ้านเพื่อคนไทย ซึ่งจริงๆ ก็คือบ้านเอื้ออาทรภาค2 แต่ครั้งนี้มาใช้ที่ของหลวง เพื่อจะใช้เลข 99ปี เหมือนกับที่จะให้ต่างชาติใช้ที่ดิน แต่บ้านเอื้ออาทรทุกวันนี้ก็ยังร้างเต็มไปหมด คนไทยต้องตั้งหลักให้ดี คือเรื่องนี้เป็นการขายฝัน แต่เรื่องที่จะเอาจริงๆ คือกาสิโนกับการพนันออนไลน์ เพราะมีมูลค่าไม่ต่างจากแหล่งพลังงานไทย-กัมพูชา อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่เลิกยากที่สุด
อย่างในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีการเลิกทาสพร้อมกับเลิกบ่อนการพนัน ต้องใช้เวลากว่าจะเลิกได้สำเร็จ จากนั้นสมัยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐบาลอนุญาตให้มีบ่อนถูกกฎหมาย แต่เปิดได้ไม่นานก็ต้องเลิกเพราะมีปัญหาคนฆ่าตัวตาย เป็นหนี้สินสิ้นเนื้อประดาตัว ครอบครัวแตกแยก แต่มาวันนี้ก็พยายามจะคิดอ่านใหม่ เขาก็รู้ว่ากาสิโนในนามเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
เปิดกาสิโนบังหน้า-มุ่งพนันออนไลน์
“โลกมันเปลี่ยน ดูข้างบ้านฝั่งกัมพูชาคนไปน้อยแล้ว ฝั่งพม่าคนก็ไปน้อย ถ้าบ่อนมันสร้างความเจริญจริง เหตุใด 2 ประเทศนี้คนต้องแห่มาทำงานในประเทศไทย แม้กระทั่งในลาว เก็นติ้งมาเลเซียนี่เวลานี้ก็ไม่ได้คึกคักอะไรเหมือนเดิม เพราะมันมาอยู่ในการพนันออนไลน์หมด แต่ว่าเวลาเปิดตัวนั้นไปเปิดตัวเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แล้วก็บ่อนกาสิโนอยู่ในนั้น แต่ท้ายที่สุดหลักคือบ่อนการพนันออนไลน์ เพื่อจะมาสังกัดบ่อนกาสิโนที่ทำ” นายจตุพร ระบุ
ซัดต้นตอนำสู่ทำผิดกม.หลายรูปแบบ
นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่า ตอนแรกก็บอกป้องกันไม่ให้คนไทยเข้าไป หากคนไทยจะเข้า9hกำหนดอายุ ต้องจ่ายค่าเข้าครั้งละ 5,000บาท หากเป็นการพนันออนไลน์ ลูกเล็กเด็กแดงก็เข้าไปหมด แล้วคนไทยเล่นการพนันก็หน้ามืด ยิ่งพนันออนไลน์แทงได้ 24ชั่วโมง เวลาเสียพนันก็นำไปสู่การทำผิดกฎหมาย ลักวิ่งชิงปล้น ขายยาเสพติด ค้าประเวณี เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไปดูทุกที่ก็มีแบบนี้ ลองไปดูได้ที่ฟิลิปปินส์ว่าเขาพังอย่างไร หรือที่รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เขามีรายงานการศึกษาหมด
กมธ.ปกครองถกพนันออนไลน์-กาสิโน
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทองในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎรเปิดเผยว่า การประชุมกรรมาธิการการปกครอง (กมธ.)วันนี้มีการพิจารณาสองประเด็นคือ เรื่องพนันออนไลน์และร่างกม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยเชิญหน่วยงานทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และสำนักงานกฤษฎีกาเข้ามาให้ข้อมูล เพราะเกี่ยวกับการแก้กฎหมายรองรับพนันออนไลน์ รวมถึงเชิญสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาให้ข้อมูลการเตรียมความพร้อมว่าจะมีมาตรการควบคุมและป้องกันอย่างไร
ส่วนเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นแนวนโยบายรัฐบาล และผ่านมติครม.เรียบร้อย เตรียมเข้าสภาฯ กมธ.ติดตามแนวทางเสนอกฎหมายว่าจะเขียนออกมาลักษณะใด หลังมีกระแสตีกลับไปรอบแรกทั้งภาคสังคมและภาคการเมือง ทั้งนี้ ตนเห็นว่า เราคงไม่สามารถพุ่งประเด็นไปในเรื่องรายได้เพียงอย่างเดียวได้ ต้องมาพร้อมกับมาตรการควบคุม เพื่อไม่ให้เป็นการมอมเมาประชาชนในประเทศโดยเฉพาะเยาวชน นอกจากแก้กฎกระทรวงแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการควบคุมอย่างไร
ห่วงกม.การพนันที่ใช้อยู่ตามไม่ทัน
นายกรวีร์กล่าวอีกว่า เรื่องพนันออนไลน์ เป็นเรื่องใหม่ กฎหมาย พ.ร.บ.การพนันตามไม่ทัน การจะไปบังคับใช้กฎหมายควบคุมสื่อพนันออนไลน์ยังไม่มี เป็นสิ่งที่กรรมาธิการกังวล ซึ่งในคณะอนุกรรมาธิการจัดระเบียบสังคมก็พิจารณาเรื่องนี้เช่นกัน` ตนคิดว่าเป็นความกังวลที่อยากเห็นภาพการควบคุมบังคับใช้กฎหมายกับสิ่งผิดกฎหมาย แต่ว่าไม่สามารถมีกฎหมายที่ทันสมัยพอ เพื่อไปควบคุมสิ่งเหล่านั้น การออกกฎกระทรวง เรามองเรื่องการควบคุมความสงบในสังคม และป้องกันการมอมเมาที่ทำให้เสียหายต่อสังคม ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องดูแลเป็นพิเศษ
ดึงหวยขึ้นบนดินต้องปราบใต้ดินหมด
ส่วนการนำเรื่องใต้ดินขึ้นมาบนดินจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ เป็นโจทย์ที่ท้าทายรัฐบาล หากตัดสินใจเอาสิ่งใต้ดินขึ้นมาบนดิน ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่า การที่เอาขึ้นมาและสิ่งที่อยู่ใต้ดินนั้นหมดไปจริงหรือไม่ ไม่อยากเห็นภาพที่ยังมีหวยแต่ก็ยังมีหวยใต้ดินอยู่ ถ้าเราจะทำต้องมั่นใจว่าสิ่งที่อยู่ใต้ดินจะปราบปรามป้องกันเพื่อให้หมดไปด้วย จึงต้องมีมาตรการที่เข้มข้นมากพอมาควบคุม ไม่ให้ประเทศเสียหาย
แก้กม.รองหนุนเปิดต้องเข้มบังคับใช้
หลังประชุม นายกรวีร์แถลงว่า ประเด็นเว็บพนันออนไลน์มีปัญหาคือ มีการเปิดและตามจับปิดเว็บทำได้ยาก เนื่องจากเมื่อปิดไปแล้วไปตั้งใหม่ได้เร็ว กมธ.จึงฝากกระทรวงดิจิทัลฯที่รับแก้กฎกระทรวงหรือพระราชกำหนด จัดการกรณีพบเว็บไซต์พนันออนไลน์จะทำให้ปิดเว็บหรือแก้ปัญหาได้โดยเร็ว ขณะที่ตัวแทนกระทรวงมหาดไทยแจ้งกมธ.ว่าตั้งคณะทำงานขึ้นมาหาแนวทางศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องพนันออนไลน์ ถ้ามติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ชัดเจนว่าจะทำพนันออนไลน์ให้ถูกกฎหมาย จะหาแนวทางรองรับและเสนอกลับไปให้ครม.พิจารณา
นายกรวีร์กล่าวต่อว่า กมธ.แสดงความเป็นห่วง2ประเด็นคือ การแก้กฎหมายรอง ไม่ว่าจะเป็นกฎกระทรวงให้ขออนุญาตการเปิดพนันออนไลน์ได้ ควรต้องมาพร้อมการควบคุมป้องกัน เราไม่อยากเห็นหากเปิดให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมายจริง ไม่อยากเห็นเว็บเถื่อนหรือการพนันผิดกฎหมายเต็มประเทศไปหมด อยากให้จับกุมกวาดล้างและบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด
จนท.รัฐรับตั้งกาสิโนไม่ช่วยแก้พนัน
ส่วนเรื่องร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรนั้น นายกรวีร์กล่าวว่า เนื้อหากฎหมายยังไม่ชัดเจน ต้องรอให้สรุปออกมา พร้อมกำหนดคณะกรรมการตามกฎหมายกำหนดรายละเอียดต่อไป ทั้งนี้ สิ่งที่ กมธ.สอบถาม และเป็นกังวลเกี่ยวกับประชาชนคือ อยากแก้ปัญหาการพนัน จะมั่นใจอย่างไรว่าเมื่อมีพนันออนไลน์แล้ว ปัญหาพนันอื่นจะลดลง จะมั่นใจได้อย่างไรว่าเมื่อมีเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ปัญหาการพนันต่างๆในประเทศจะลดลงไปด้วย ซึ่งทุกหน่วยงานที่มาตอบเหมือนกันหมดว่าไม่คิดว่าจะแก้ปัญหาเรื่องการพนันในปัจจุบันได้ ต้องไปบังคับใช้กฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าการดึงผู้ประกอบการเว็บพนันออนไลน์นอกระบบเข้าระบบเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด เพราะผู้ประกอบการเสียผลประโยชน์ นายกรวีร์กล่าวยอมรับว่า ทุกวันนี้มีเว็บพนันที่ผิดกฎหมายทั้งหมด แต่มุมรัฐบาลเห็นว่าเมื่อนำเรื่องนี้เข้ามาเพื่อควบคุมและสร้างรายได้ให้ประเทศ หมายความว่าคนเหล่านี้ต้องมาขึ้นทะเบียนขออนุญาตให้ถูกต้อง ส่วนรายละเอียดการยื่นขอ กระทรวงมหาดไทยยังไม่มีรายละเอียดให้ อย่างไรก็ตาม กมธ.กังวลว่าปัญหาเดิมก็ไม่หมด ปัญหาใหม่ก็ตามมาด้วยหรือไม่ จึงต้องคอยดูต่อไปว่ากฎหมายหรือกฎกระทรวงที่จะออกมาบังคับใช้จะเป็นอย่างไร
เหน็บแรงตั้งชื่อกม.กาสิโนไปเลย
ถามถึงคำนิยามของคำว่า “สถาบันเทิงครบวงจร” ในร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอนเพล็กซ์ ให้ความสำคัญกับการเปิดกาโนสิเป็นลำดับแรก จะขัดเจตนากฎหมายที่ต้องการสร้างแหล่งท่องเที่ยว นายกรวีร์กล่าวว่า กมธ.พูดคุยเรื่องนี้เช่นกัน ยังแซวกันว่าทำไมไม่ตั้งชื่อว่าร่างพ.ร.บ.กาสิโนไปเลย ซึ่งกระทรวงการคลังชี้แจงว่าสิ่งที่ยกร่างมาอิงจากผลการศึกษาของสภาฯที่เคยศึกษาและมีข้อแนะนำมา พวกตนเห็นว่าหากจะทำควรตอบโจทย์ไม่อยากให้รัฐบาลมองประโยชน์เพียงด้านเดียว หรือมองมิติด้านเศรษฐกิจที่กระตุ้นการท่องเที่ยว เพราะไม่ทราบสิ่งที่รัฐบาลคาดหวังจะได้ตามเป้าหมายหรือไม่ กมธ.ยังฝากให้รัฐบาลคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมที่จะตามมาด้วย
เก็บต๋งเพิ่มรายได้จากค่าใบอนุญาต
นายกรวีร์กล่าวด้วยว่า กมธ.ยังซักถามกรมสรรพากร กระทรวงการคลังเรื่องรายได้เข้าแผ่นดิน ได้รับคำชี้แจงว่า รายได้รัฐไม่ใช่ว่าจะได้จากเพียงค่าธรรมเนียมขอใบอนุญาต(license) แต่เมื่อผู้ประกอบการมีรายได้ต้องเสียภาษีซึ่งมีกฎหมายรองรับอยู่แล้วว่าต้องเสียภาษีให้รัฐ กมธ.ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงไม่เสนอเก็บค่าต๋ง (Gamimg Tax) มีคนเล่นจำนวนเท่าใด รัฐก็จะได้ผลประโยชน์จากจุดนี้ คิดว่าหลังร่างพ.ร.บ.ออกมาบังคับใช้ ก็จะมีรายละเอียดการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐเพิ่มเติมออกจากกระทรวงการคลัง แต่กระทรวงการคลังยืนยันรายได้รัฐ ไม่ใช่ได้มาจากเพียงค่าใบอนุญาตเท่านั้น
เทพไทย้ำกาสิโนต้องจบที่ประชามติ
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์แสดงความเห็นประเด็นที่รัฐบาลพยายามผลักดันเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ หัวข้อ”ยึดหลักประชาธิปไตย ต้องทำประชามติ”ว่า ตนเคยเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรหรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการป้องกันแก้ปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร มาก่อน ได้รับฟังทั้งข้อดีข้อเสียของบ่อนกาสิโน ทำให้ลังเลไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า ควรจะมีการสร้างบ่อนกาสิโนหรือไม่ จึงขอเสนอให้รัฐบาลจัดทำประชามติ ถามความเห็นของประชาชนทั้งประเทศดีกว่า เพื่อรองรับผลกระทบเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมยกเหตุผลโดยสรุปคือ ในคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา มีเพียงนโยบายเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destination) เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้าสถานบันเทิงครบวงจร นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลก ไม่ได้ระบุเรื่องการสร้างบ่อน ที่สำคัญการเปิดบ่อนเป็นเรื่องสำคัญระดับชาติ คนไทยทั้งประเทศต้องมีส่วนร่วมตัดสินใจ
“ที่สำคัญจะได้พิสูจน์คำกล่าวของนายทักษิณว่า เสียงส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีกาสิโน มีแต่เสียงส่วนน้อยที่คัดค้าน ทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลอง จริงหรือไม่ และเพื่อยืนยันความคิดของนายทักษิณ ชินวัตรที่ต้องการสร้างบ่อนกาสิโนว่าถูกคัดค้านจากพวกมือถือสากปากถือศีลถูกต้องหรือไม่ ถ้านายทักษิณมั่นใจว่า นโยบายเปิดบ่อนกาสิโน จะได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนแน่นอน ทำไมไม่กล้าทำประชามติ จะได้มีข้อยุติไม่ต้องถกเถียงกันต่อไป”นายเทพไทกล่าว
‘สมชัย’ซัดแรง’กาสิโน’แหล่งอโคจร
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)แสดงความเห็นเรื่องกาสิโนว่า กาสิโน บ่อน ซ่อง โรงฝิ่น ร้านเสพกัญชา ล้วนแต่เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างทั้งสิ้น มีจุดหมายปลายทางที่คนจำนวนหนึ่ง ที่ลุ่มหลงการพนัน กามารมณ์ ยาเสพติด อยากเข้าไปหา แต่เป็นแหล่งอโคจรที่ไม่ควรใกล้ชิด เราได้รายได้จากสิ่งนี้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ ตราบใดก็ตามที่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งยั่วยวนและผิดกฎหมายในบางประเทศ จึงเป็นสิ่งที่มีส่วนดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามา แต่สิ่งได้นั้นคุ้มเสียหรือไม่ เป็นคำถามใหญ่ที่ต้องตอบแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น man made destination ในนโยบายของรัฐบาล จึงควรเป็นสิ่งสวยงาม ดีงามที่มนุษย์รังสรรค์ เป็นแลนด์มาร์คที่ทำให้คนทั้งโลกอยากมาเยือน เช่น อยากไปฝรั่งเศสเพื่อถ่ายภาพกับหอไอเฟล และชมพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ “Man made ควรทำในสิ่งที่ดีไม่ควรmade ในสิ่งชั่ว ยกเว้นจิตใจคุณจะเป็นอย่างนั้น” นายสมชัย ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี