‘กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ’เรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจงปมร้อนขายไฟ‘ประเทศเพื่อนบ้าน’โยงเอื้อ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ ด้าน‘กฟภ.’รับระงับไปเลยไม่ได้ ต้องประสานผ่าน‘กต.’ คำนึงถึงสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เตรียมนำเรื่องชง‘ครม.’ เคาะ‘ต้องตัดไฟทั้งหมด หรือทีละจุด’
23 มกราคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน(ปชน.) ในฐานะประธานกมธ.ฯ เป็นประธานการประชุมพิจารณาศึกษา และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการฟอกเงิน การใช้บัญชีม้าในกระบวนการยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับอาชญากรรม ที่มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ แก๊งคอลเซ็นเตอร์รวมถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายไฟฟ้าบริเวณชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยใช้ตัวแทนจากที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล ได้แก่ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.แม่สาย
การประชุมในครั้งนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่าผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะเป็นผู้ที่ชี้แจงแทน ซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทยไม่สามารถเดินทางมาเข้าร่วมประชุมได้เนื่องจากติดภารกิจที่ต่างจังหวัด ขณะที่หน่วยงานอื่นก็ได้ส่งเพียงตัวแทนมาชี้แจงเท่านั้น
ด้านนายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรค ประชาชน ในฐานะเลขานุการกมธ.ฯ กล่าวว่า หากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใช้อำนาจในการยุติการขายจนกว่าจะได้ข้อเท็จจริง สามารถใช้ได้หรือไม่ เป็นการยากมากเลย หรือที่จะต้องไปถามหน่วยงานอื่นว่าใช้ได้หรือไม่ หากใช้อำนาจในการยุติบริษัทที่อาจจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หน่วยงานใดที่จะมาเอาผิดท่าน หากกังวลเรื่องการกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นจะกระทบในเรื่องใดบ้าง และจะได้คำตอบจากกระทรวงการต่างประเทศเมื่อไร
ขณะที่ ตัวแทน กฟภ. ชี้แจงว่า วงจรการนำไฟฟ้าจะนำเข้าไปส่งในพื้นที่เลย เรารู้เพียงโครงสร้างแต่ไม่ทราบว่าโครงสร้างดังกล่าวนั้นนำไปส่งที่ใดบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมไป ส่วนกระบวนการขายไฟฟ้านั้นต้องดำเนินการผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ ส่งต่อไปยังสถานทูตประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหากจะระงับการขายไฟจะต้องดำเนินการย้อนกลับ และกระทรวงการต่างประเทศได้เน้นย้ำให้ดำเนินการโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย และเราเป็นหน่วยงานที่ไม่สามารถวิเคราะห์ในเรื่องนี้ได้โดยตรงว่าหากยุติจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างและขณะนี้ได้ ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ แต่เป็นในเชิงนโยบาย ซึ่งจะต้องมีการนำเข้าคณะรัฐมนตรี ผ่านกระทรวงมหาดไทยที่จะต้องเป็นคนนำเรื่องเข้าไป ยืนยันว่าเราทำอย่างครบถ้วนแต่ต้องรอการพิจารณาและความเห็นชอบบางอย่างจาก ครม.เพื่อนำมาดำเนินการให้ตรงจุดต่อไป
“วันที่ 29 ม.ค.นี้ ที่การไฟฟ้าฯจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าบอร์ดใหญ่ แล้วจะมีการสรุปว่าการดำเนินการจะอย่างไร จากนั้นจะได้มีการนำเข้า ครม. พิจารณาว่าจะให้ตัดไม่ให้ใช้ไฟเลย หรือตัดทีละจุด ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ จากการที่ประสานไปกับทางกระทรวงการต่างประเทศ ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ ส่วนส่งไปเมื่อไหร่นั้น จะขอส่งเป็นเอกสารกลับมาอีกครั้ง ขอย้ำว่าจะทำเรื่องส่งไปยังครม. เพื่อให้ ครม.พิจารณา แล้วจะดำเนินการตามที่มีการเสนอไปให้” ตัวแทนกฟภ. กล่าว
ด้านนายไผท สิทธิสุนทร ผู้อำนวยการกองกิจการชายแดน และประเทศเพื่อนบ้าน ในฐานะตัวแทนของสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่า หากการไฟฟ้าตัดสินใจที่จะนำเข้าสู่ครม. และครม.ต้องส่งมาที่ สมช. ซึ่งสมช.จะนำเรียนเป็นเรื่องของความมั่นคง แต่ก็อยากได้การคอนเฟิร์มจากหน่วยความมั่นคงว่าจะกระทบความมั่นคงหรือไม่เฉพาะเรื่องไฟฟ้าที่จ่ายไป ทาง สมช. ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนแต่จะนำไปหารือกับผู้บริหาร สมช. และจะต้องมีการเชิญสำนักข่าวกองแห่งชาติ หน่วยข่าวของทหาร หน่วยข่าวกรองของทหารสันติบาล กระทรวงกลาโหม เข้าประชุมร่วมกับ สมช.
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายที่ประชุมยังเสนอแนะให้มีการเชิญ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ หน่วยข่าวของทหารหน่วยข่าวกรองของทหารสันติบาล เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการ เพื่อพิจารณาหาข้อสรุปถึงการขายไฟไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ว่าส่งผลต่อความมั่นคงอย่างไร
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี