"กมธ.พัฒนาการเมืองฯ"เรียกถกหน่วยงานเกี่ยวข้องยกเลิก"หลักสูตร บ.ย.ส." หวั่นเอื้อระบบอุปถัมภ์ แต่กลับไร้คนมาชี้แจง จ่อเรียกเข้าหารือใหม่เร็วที่สุด
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงก่อนเข้าประชุม กมธ.ฯ ว่า วาระการประชุมวันนี้คือการศึกษาและพิจารณาข้อเสนอยกเลิกหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรม (บ.ย.ส.) ของศาลยุติธรรมเพื่อป้องกันระบบอุปถัมภ์ ซึ่งผู้พิพากษาที่เสนอให้ศาลยุติธรรมยกเลิกหลักสูตร บ.ย.ส.และกำหนดไม่ให้ผู้พิพากษาไปร่วมหลักสูตรอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกันอย่าง ว.ป.อ.โดยมีข้อกังวลว่า หลักสูตรดังกล่าวในการส่งเสริมระบบอุปถัมภ์ที่ไปกระทบต่อความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ของผู้พิพากษา และอาจมีการใช้งบประมาณที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงอาจไม่มีประโยชน์ที่ชัดเจนเพียงพอ
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า วันนี้จึงมีการเชิญผู้เสนอมาร่วมชี้แจงในวันนี้ และเชิญผู้ที่รับผิดชอบหลักสูตรมาด้วย รวมไปถึง ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ , ผศ.ดร.เข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง ได้มีการเสนอความเห็นในประเด็นนี้ ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าผู้เข้าร่วมประชุมจะมาทุกคน แต่รายชื่อของตัวแทน บ.ย.ส.ที่ได้ส่งมาเมื่อวันที่ 21 มกราคม กลับส่งหนังสือแจ้งมาเมื่อช่วงเช้าว่า ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้แล้ว ซึ่งวาระในวันนี้คงพูดคุยกับผู้เสนอเป็นหลักเกี่ยวกับข้อกังวล และข้อสงสัยเพื่อเชิญตัวแทน บ.ย.ส.มาชี้แจง
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรามีการพิจารณาก่อนหน้านี้เคยมีการเชิญตัวแทนของหลักสูตรอื่นๆ มาชี้แจง ซึ่งเวลานั้น ตัวแทนของหลักสูตรอื่นๆ ก็มาชี้แจง แต่ตัวแทนของ บ.ย.ส.ก็ไม่ได้มา โดยหากหลักสูตรเหล่านี้ ถ้านำไปสู่ระบอบอุปถัมภ์ ตนคิดว่าจะส่งผลเสียต่อประเทศได้ และต้องยอมรับว่าปัญหาอันดับต้นๆ ของไทยคือเรื่องระบอบอุปถัมภ์ที่กระทบต่อประชาธิปไตย และการพัฒนาเศรษฐกิจ เราเชื่อว่าเศรษฐกิจเราพัฒนาได้ โอกาสต่างๆ ของความสามารถ ความพยายาม ไม่ใช่บนพื้นฐานว่าใครรู้จักกับใคร และจะเป็นการส่งเสริมให้คนพัฒนา Know How มากกว่า Know Who และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ มากกว่าการทำความรู้จักกับกลุ่มคนที่มีอำนาจ
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า ในมุมของการพัฒนาการเมือง ตนคิดว่าถ้าเราอยากให้การเมืองเข้มแข็ง กฎหมายทุกอย่างจะต้องถูกบังคับใช้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ต้องรู้สึกเสียเปรียบกับใคร เพียงเพราะรู้จักใคร ไม่ว่าจะผ่านการคัดเลือกผู้เข้าเรียนมาจากตำแหน่งหน้าที่ ก็มีความเสี่ยงที่อาจมีการเอื้อประโยชน์ให้กัน หากวัฒนธรรมเหล่านี้ ยิ่งส่งเสริมความเป็นรุ่น ความเป็นพี่น้อง ที่อาจไปกระทบต่อการปฎิบัติหน้าที่ของแต่ละคน ก็เป็นความเสี่ยง ดังนั้น วันนี้ก็มาต่อยอดปีที่แล้ว และขอบคุณผู้พิพากษาทั้งสองคนที่ยกประเด็นนี้ขึ้นมา การมีเสียงสะท้อน และวิจารณ์องค์กรเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลง และการเชิญมาชี้แจงในครั้งถัดไปจะพยายามทำให้รวดเร็วที่สุด
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า หากย้อนไปดูบันทึกการประชุมปีที่แล้ว จะเห็นว่าแม้ว่าทางผู้รับผิดชอบหลักสูตร จะพยายามชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของหลักสูตรดังกล่าว แต่ กมธ.เราได้สะท้อนข้อเสนอไปว่า อาจจะไม่ยกเลิก และยังคงอยู่ แต่มีแนวทางการแก้ไขอย่างไรบ้าง เพื่อให้เพิ่มความโปร่งใส และลดความเสี่ยง และเราเคยทำข้อเสนอไปแล้วว่าหากไม่ยกเลิก จะมีการดำเนินการอย่างไร แต่เดี๋ยวขอมารับฟังข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากการประชุมในวันนี้ ท้ายที่สุดการตัดสินใจคงอยู่ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบ และจะพยายามสื่อสารข้อเสนอให้รอบด้าน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี