‘เอกนัฏ’แฉมีไอ้โม่งจ้องย้ายรมต.
ค่าหัว200-300ล.
ปมเข้มแก้ปัญหาภาคอุตฯ-ลดเผาอ้อย
‘ทักษิณ’หาเสียงศรีสะเกษ24ม.ค.
29-30ม.ค.ขึ้นเชียงราย-เชียงใหม่
“เอกนัฏ”ตอบกระทู้ “ธีระชัย แสนแก้ว” ปิดรง.น้ำตาลอุดรฯไม่เลือกปฏิบัติแฉกลางสภามีการวางค่าตัวไว้ 200-300 ล้าน เพื่อย้ายรัฐมนตรี ลั่นไม่กลัวเพราะมีหน้าที่รักษาประโยชน์ส่วนรวม แจงผลสอบรับซื้ออ้อยเผา 40% เป็นนโยบายรัฐบาลมุ่งลดปัญหาฝุ่นพิษ ไร้เส้นแบ่งระหว่างพรรค
เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดของนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทยเรื่องการปิดโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี จ.อุดรธานี ถามนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรมว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เนื่องจากพื้นที่ที่พบว่ามีรับซื้ออ้อยเผาสูงกว่าจ.อุดรธานี ไม่พบการสั่งปิดโรงงานเพราะรับซื้ออ้อยเผาเกิน25%
“ขิง”`แฉกลางสภาลงขัน2-300ล.ย้ายรมต.
ด้านนายเอกนัฏได้ลุกขึ้นชี้แจง โดยยืนยันว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติแน่นอน และตั้งแต่ตนทำหน้าที่รมว.อุตสาหกรรม ไม่ใช่นั่งเฉยๆในห้องแอร์ แต่ลงพื้นที่ตรวจจับและจัดระบบใหม่ในภาคอุตสาหกรรม ปัญหากากอุตสาหกรรม สินค้าด้อยคุณภาพนำเข้าประเทศ ตนสั่งปิดและจับดำเนินคดีเด็ดขาด ส่วนกรณีที่มีการวางค่าตัวไว้ว่ามีเงิน 200-300 ล้านบาท เพื่อย้ายรัฐมนตรี ตนไม่กลัวเพราะตนมีหน้าที่ต้องการรักษาประโยชน์ของส่วนรวม ทั้งนี้การช่วยเหลืออ้อยสด 120 บาท เสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 แต่ขณะนี้ครม.ยังไม่มีมติ อย่างไรก็ดีแนวทางที่จะดำเนินการนั้นต้องการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้ของที่เหลือของอ้อย เช่น ใบ ชานอ้อย ไปผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่าย เพื่อให้เกษตรกรตัดใบส่งขายให้โรงงานหากกำหนดราคาที่เป็นธรรม โรงงานจะได้ และเกษตรกรมีรายได้เสริม โดยการวางระบบดังกล่าวจะทำให้ทันก่อนฤดูกาลหน้าที่จะเปิดหีบอ้อย
โต้ปิดรง.น้ำตาลที่อุดรฯเลือกปฎิบัติ
“การปิดโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี เป็นภารกิจของรัฐบาล ช่วยลดฝุ่นPM 2.5 ที่เป็นปัญหาระดับประเทศ โดยการแก้ปัญหาดังกล่าวไม่มีเส้นแบ่งระหว่างพรรคการเมืองหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใด แต่เป็นภารกิจที่นายกฯให้ความสำคัญ ทั้งนี้เป็นความตั้งใจของผมที่ต้องการให้ลดการเผาอ้อย โดยล่าสุดพบอัตราการเผาอยู่ที่ 11% ที่ถือว่าต่ำที่สุดบางทีการตัดสินใจไม่ง่ายแต่ต้องช่วยกัน โดยแก้ปัญหามีต้นทุนที่ต้องจ่าย สำหรับโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานีที่ถูกปิด อุตสาหกรรมจังหวัดเข้าตรวจสอบพบว่ามีการรับซื้ออ้อยสูงสุดปริมาณ 4แสนตัน พบเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ซื้ออ้อยเผา40% ถือว่าสูงสุด”นายเอกนัฏ ชี้แจง
นายเอกนัฏยังกล่าวถึงมาตรการปีนี้ชัดเจนตั้งแต่เดือนตุลาคม2567 ได้แจ้งในการประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย มีโรงงานและเกษตรกร เมื่อเดือนตุลาคม 2567 มีการขอความร่วมมืองดการเผาเกินวันละ 25% และให้โรงงานรับซื้ออ้อยเผาเกิน 25%โดยมีมติครม.ที่ส่งมาถึงตน ขอให้กระทรวงเพิ่มมาตรการงดรับอ้อยเผาสิ้นเชิง สำหรับปัญหาการไม่รับซื้ออ้อยเผาที่จ.อุดรธานี ตนช่วยแก้ปัญหาและทราบว่ามีการเคลียร์อ้อยที่ค้างการรับซื้อทั้งหมดแล้ว ส่วนที่พบว่ามีอ้อยเน่านั้นจะมีมาตรการเยียวยาต่อไป
แม้วหาเสียงอบจ.เชียงราย-เชียงใหม่
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) จังหวัดเชียงราย ที่จะมีการเลือกตั้งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจัดคิวลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงคือ นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย ของพรรคเพื่อไทย ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภาวันที่ 29 มกราคมโดยจะขึ้นเวทีปราศรัย 3 เวทีภายในวันเดียวเนื่องจากนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยเห็นว่าจังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่สำคัญในยุทธศาสตร์การเมืองภาคเหนือของพรรคเพื่อไทยจึงต้องการชัยชนะในศึกเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงรายให้ได้ เพื่อนำไปต่อยอดการเมืองระดับชาติ แม้จะเป็นภาคเหนือ ที่เป็นฐานเสียงสำคัญของนายทักษิณและพรรคเพื่อไทย จากนั้น วันที่30 มกราคม นายทักษิณจะเดินทางไปช่วยหาเสียงที่จังหวัดเชียงใหม่บ้านเกิดตระกูลชินวัตร อยู่ระหว่างเตรียมการว่าจะปิดปราศรัยใหญ่ที่จุดใดของเชียงใหม่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีการแข่งขันเข้มข้นระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนที่ส่งคนลงสมัครในนามพรรคอย่างเป็นทางการ
ศุกร์นี้แม้วบุกศรีษะเกษช่วยวิวัฒน์ชัย
นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวการหาเสียง ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ของนายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ซึ่งนายทักษิณ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงวันที่ 24มกราคม ตามกำหนดการ เวลา 08.30 - 09.40 น.นายทักษิณ เดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสายการบินไทยแอร์เชีย FD3378 ไปสนามบินอุบลราชธานี และออกเดินทางไปสนามที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ จากนั้น เวลา 09.30 - 11.30 น. นายทักษิณขึ้นเวทีปราศรัยที่แรกช่วยนายวิวัฒน์ชัยหาเสียง คาดว่าจะมีประชาชนร่วมฟังไม่ต่ำกว่าหมื่นคนและเวลา 14.00 - 15.00 น. นายทักษิณ เดินทางไปหอประชุมสโมสรฟุตบอลศรีษะเกษ อ.เมืองพบปะ พูดคุยกับนักกีฬา เยาวชน และผู้สนใจกีฬาฟุตบอล “เล่าประสบการณ์จากแมนซิตี้ ถึงศรีษะเกษ“ และเวลา 15.30 น. - 17.30 น. จะขึ้นเวทีปราศรัย ณ สนามฟุตบอล (บ้านสวน สส.ธเนศ)
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการจัดเวทีปราศรัยหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ มีตำรวจ สภ.กันทรลักษ์นำแผงเหล็กกั้นมาเรียงกั้นไว้ คาดว่านำมารักษาความปลอดภัยให้นายทักษิณ หลังถูกสาวอดีตเสื้อแดงปาถุงขยะขณะปราศรัย ที่ ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.พยัคฆภูมิ จ.มหาสารคาม
ภาค5ระดมตร.หมื่นคุมเลือกอบจ.8จว.
ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ. 5 เปิดเผยถึงการเลือกตั้งนายก อบจ.8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนว่า ได้ให้ความร่วมมือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. )ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 นาย ประจำหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย และใช้กำลังดูแลความสงบเรียบร้อยเลือกตั้งดังกล่าวกว่า 30,000 นายเพื่อเฝ้าระวังการทุจริต สืบสวนสอบสวน ติดตามบุคคลต้องสงสัย มีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง มีประวัติอาชญากรรม เพื่อป้องกันความรุนแรง ก่อความไม่สงบ หรือป่วนเลือกตั้งดังกล่าวตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรัฐบาลนอกจากนี้ยังมีชุดสืบสวนและหาข่าวทำผิดเลือกตั้ง อบจ.เพื่อป้องกันทุจริต ร่วมกับ กกต. ส่วนที่นายทักษิณจะมาช่วยนายพิชัย เลิศพงษ์อดิศร หรือสว.ก๊อง อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ ผู้สมัครนายก หมายเลข 2 กลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่หาเสียง วันที่ 29-30 มกราคมได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยป้องกันเหตุรุนแรง ความวุ่นวาย หรือป่วนปราศรัยหาเสียงทุกเวทีแล้วซึ่งไม่ได้ดำเนินการเฉพาะนายทักษิณเท่านั้น แต่ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยผู้สมัครและผู้ช่วยหาเสียงทุกพรรคการเมืองด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี