ไม่ใช่บ่อนเสรี
นายกฯแจงหวังดูดนักท่องเที่ยว
‘จตุพร’เชื่อคนต้านลามไล่รบ.
นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ย้ำเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่บ่อนเสรี เชื่อสร้างรายได้จ้างงานดึงดูดนักท่องเที่ยว ระบุเป็นเรื่องดีเปิดฟังความเห็นประชาชน “จตุพร” ฟันธง ชาวบ้านตื่นต้านกาสิโน ลามไล่ “ทักษิณ”
เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่สนามบินสุวรรณภูมิ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีคน ไปชูป้ายคัดค้านเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ระหว่างที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯไปปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดศรีสะเกษ ว่า เราไม่ได้เปิดบ่อนเสรี แต่เป็นการสร้างที่ท่องเที่ยวใหม่ด้วย Man made ซึ่งกาสิโนเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ทั้งหมดซึ่งเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อทำให้ประเทศไทยเกิดรายได้ใหม่ๆเพิ่มเติม เพราะรายได้เก่าไม่เพียงพอ ทำให้จีดีพีของเราโต รวมถึงจะทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และการประกอบอาชีพใหม่นี่คือสิ่งสำคัญ ซึ่งการที่ว่าจะไม่เอาสิ่งนั้นสิ่งนี้ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลเข้าใจที่จะต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ว่าสิ่งที่ประชาชนเข้าใจนั้นรัฐบาลตอบว่าอย่างไร เราต้องช่วยๆกันอธิบาย
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำประชามติเพราะหลายพรรคการเมืองก็เห็นด้วยว่าต้องทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของประชาชน นายกฯ กล่าวว่า การรับฟังความคิดเห็นเป็นก็เรื่องสำคัญ ก็ไม่แปลกที่จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็น
เรื่องเรื่องบ่อนคนตามไล่แม้ว
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์โดยเชื่อว่า ปรากฏการณ์ชาวบ้านถือป้ายต่อต้านกาสิโน และทักษิณ ชินวัตร จะลุกลามขยายไปทั่วพื้นที่หาเสียงนายก อบจ.และถ้ารุนแรงขึ้นอาจมีป้ายไล่ให้ออกจากประเทศก็น่าจะเป็นไปได้ใน พ.ศ.นี้
“การที่ชาวบ้านศรีสะเกษไปถือป้ายต่อต้านบ่อนกาสิโนนั้น จำปากผมไว้แล้วจะเจอทยอยต่อต้านในแต่ละจังหวัด พร้อมจะมีป้ายมาเลี้ยงหลานกี่โมงถามทักษิณ อีกทั้งการไล่ทักษิณออกไปใน พ.ศ.นี้จะดังมากขึ้นตามลำดับ”
อีกทั้งทักษิณ ปราศรัยบนเวทีถึงการไล่ผีตีงูเห่า พร้อมกับขยับกล่าวหาเรื่องสั่งการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และข้าราชการ ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยย่อมอยู่นิ่งไม่ได้เมื่อถูกทักษิณฟาดฟันบนเวทีหาเสียง และโอกาสจะเกิดตะลุมบอนทางการเมืองในพื้นที่หาเสียงนายก อบจ.ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลยิ่งจะแรงขึ้น
แก้ปัญหาบ่อนไม่เคยสำเร็จ
ส่วนการตั้งบ่อนกาสิโนนั้น นายจตุพร กล่าวว่า บ้านเมืองไม่ใช่สมบัติของทักษิณและครอบครัว หรือเป็นของใครทั้งนั้น เพราะประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของล้วนมีสิทธิ์กำหนดอนาคตันได้ แม้ไทยมีปัญหาเศรษฐกิจ แต่การแก้ด้วยสร้างบ่อนกาสิโนมันไม่เคยสำเร็จ สิ่งสำคัญ ร.5 ทรงให้ยกเลิกเพื่อไม่ให้ผีการพนันเข้าสิงคนไทยและทำลายชาติบ้านเมือง แต่ทักษิณ กลับเร่งรีบจะสร้างบ่อนกาสิโนให้ได้โดยอ้างเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่พุพังจวนพินาศ
อีกทั้งกล่าวว่า แม้ทักษิณนำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มาบังพื้นที่บ่อนกาสิโนว่า มีไม่เกินแสนตารางเมตร แต่พื้นที่เช่นนั้นไม่ได้เล็กน้อย และเป็นพื้นบ่อนที่ถูกสร้างขึ้นมานำความฉิบหายมาทำลายบ้านเมืองได้อย่างกว้างขวาง
อบายมุขเต็มบ้านเมือง
นอกจากนี้ รัฐบาลและทักษิณ อ้างถึงมาตรการควบคุมด้วยการเสียเงิน 5 พันบาทเพื่อเข่าไปเล่นการพนัน และกำหนดอายุคนเข้าบ่อนได้นั้น ถ้าคนอายุต่ำกว่ากำหนดแล้วใช้โทรศัพท์คนอื่นก็เข้าบ่อนได้สบายอยู่แล้ว ดังนั้น ในทางปฏิบัติไม่สามารถป้องกันการพนันออนไลน์ได้เลย
“คนคิดที่จะสร้างแหล่งอบายมุขเต็มบ้านเต็มเมืองนั้น ผมไม่เชื่อว่า คนคิดจะใช้ความฉลาดเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะพฤติกรรมของรัฐบาลปัจจุบัน หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ปราบการพนันออนไลน์ ดังนั้นการให้พนันออนไลน์ดำรงอยู่แต่ปราบเพียงพิธีการย่อมตั้งข้อสงสัยเลยว่า เพื่อรอให้บ่อนกาสิโนตั้งเสร็จ แล้วลากพนันออนไลน์มเป็นเมืองขึ้นสังกัดบ่อนกาสิโนที่กำลังจะตั้ง”
การพนันไม่มีความโปร่งใส
ส่วนการประมูลโดยอ้างว่า มีความโปร่งใส แต่ถ้ามีคุณสมบัติครบตามกำหนดไว้ก็อาจตั้งบ่อนกาสิโนได้ทุกราย เหมือนการประมูลช่องทีวีดิจิทัล ซึ่งบางรายได้ถึง 3 ช่อง ส่วนการทำไม่ไหวจนฉิบหายก็เอาไว้ไปตัดสินกันข้างหน้า ดังนั้น อย่ามาอวดความโปร่งใสในการประมูลตั้งบ่อนกาสิโน เพราะการพนันมันไม่มีความโปร่งใสใดๆ ทั้งสิ้น
นายจตุพร กล่าวว่า รายได้หลักบ่อนกาสิโนจะไม่ได้มาจากต่างประเทศตามที่รัฐบาลอ้างไว้ แต่จะมาจากการสูบเลือดเนื้อคนในชาติ ดังนั้น เงินคนไทยจะไหลผ่านการเล่นพนันออนไลน์ที่สังกัดบ่อนกาสิโนรายใหญ่ แล้วส่งออกนอกประเทศ และมีบางส่วนนำมาใช้ภายในประเทศ
เป็นแหล่งฉ้อฉลทุจริต
นอกจากนี้บ่อนกาสิโนยังจะเป็นแหล่งฟอกเงินของพวกฉ้อฉล ทุจริต ไปแกล้งเล่นการพนันเพื่อฟอกให้เป็นเงินขาว ยิ่งทำให้การตรวจสอบเส้นทางการเงินยากขึ้นไปอีก ดังนั้น บ่อนกาสิโนจะนำพาไปสู่ความฉิบหายของบ้านเมือง
ส่วนการแจกเงิน 10,000 บาทในเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เงิน 10,000 บาท มาจากงบประมาณขาดดุลและรัฐบาลต้องกู้มา ซึ่งประชาชนต้องแบกหนี้ชดใช้คืนถึง 3 เท่าของยอดเงินกู้
พร้อมทั้งกล่าวถึงบ้านเพื่อคนไทยว่า ต้องสร้างในที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ยังไม่มีเงื่อนเวลาการเช่าที่ดินของรัฐเกินกว่า 30 ปี ดังนั้น การเช่าบ้านเพื่อคนไทยถึง 99 ปีจึงต้องออกกฎหมายใหม่มาเปิดทางให้ทำได้
อย่างไรก็ตาม บ้านเพื่อคนไทยเชื่อว่า จะเกิดขึ้นหลังโครงการบ่อนกาสิโนอย่างแน่นอน ดังนั้น การโหมให้ประชาชนตื่นตัวในบ้านเพื่อคนไทยจึงเป็นความรู้สึกในเชิงจิตวิทยาเท่านั้น โดยยังไม่รู้ว่า จะลงมือทำเมื่อใด เพราะต้องผ่านการแก้กฎหมายให้เช่าที่ราชการ 99 ปีได้ก่อน และยังเป็นจิตวิทยาเหมือนการประกาศจะปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นจิตวิทยาที่ทักษิณและรัฐบาลเร่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นผลงานไปหาเสียงนายก อบจ.
คัดค้านบ่อนให้ถึงที่สุด
นายจตุพร กล่าวว่า ที่ต้องคัดค้านการตั้งบ่อนกาสิโน เพราะเงินบาปจากโครงการนี้จะละเลงทำลายทั้งคนและประเทศชาติ อีกทั้งประชาธิปไตยปัจจุบันคือ การใช้เงินซื้อเสียงเพื่อให้ได้อำนาจ แล้วใช้อำนาจไปหาเงินอย่างรวดเร็วจากบ่อนกาสิโน ส่วนประเทศชาติฉิบหาย ดังนั้น พี่น้องต้องคิดถึงอนาคตบ้านเมือง
“หรือประเทศเดินมาถึงจุดความโชคร้ายภายในชาติ หรือประเทศมีชะตาหลีกเลี่ยงการกระทำของบางคนไม่ได้ หรือประเทศต้องตกในหล่มไม่สามารถหลุดพ้นไปได้ หรือประเทศมีเวรกรรมอะไรกับคนบางคนที่ไม่เคยรู้จบกันสักครั้ง ดังนั้นปรากฏการณ์ของบ่อนกาสิโน จะเป็นคำตอบของทุกเรื่องราวได้ทั้งหมด
พร้อมทั้งกล่าวว่า กรณีตรวจสอบชั้น 14 กับการยื่นคำร้องของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ให้ศาลนำตัวทักษิณไปติดคุก และบ่อนกาสิโน จะไปบรรจบพร้อมกันหรือในเวลาไล่เลี่ยกัน ดังนั้น จะเป็นการชี้ชะตากรรมของบ้านเมืองอีกรอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี