อดีตรองนายกอบจ.เปิดหน้าชน
ตอกกลับ‘แม้ว’
ไม่รู้งูเห่าคืออะไร-ศรีสะเกษเดือด
โค้งสุดท้าย‘ทักษิณ’ลุยหาเสียง
เชียงราย-ลำพูน-เชียงใหม่
อดีตรองนายกอบจ.ศรีสะเกษ ตอกกลับ “ทักษิณ” ยัน “ตระกูลจึง” ไม่รู้งูเห่าคืออะไร ระบุเลือกตั้งท้องถิ่นคนนอกไม่ควรเข้าไปยุ่ง “เอกนัฏ” เมินโดนตั้งค่าหัว 300 ล้านบาท ย้ายพ้นเก้าอี้รมว.อุตสาหกรรม ลุยงานขับเคลื่อนตามนโยบายต่อไป พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจปลื้มรทสช.อันดับ1 ได้เงินอุดหนุนมากที่สุดปี68
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2568-นายอภิศักดิ์ แซ่จึง อดีตรองนายก อบจ.ศรีสะเกษ โพสต์เฟซบุ๊ก“อภิศักดิ์ แซ่จึง” ระบุว่า อากงเปงยู แซ่จึงและอาม่าหมุ่ยเชียะ แซ่โค้ว เป็นต้นตระกูลของพวกผมที่เดินทางมาจากประเทศจีนและมาตั้งรกรากอยู่ที่อำเภอราษีไศลพวกเราตระกูลจึงเล่นการเมืองมาด้วยระยะเวลานานและสร้างคุณประโยชน์ให้กับชุมชนสังคมที่เราอยู่เราไม่ได้มีผลประโยชน์แอบแฝงในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองเรายึดผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก แม้ว่าจะโดนกระทบกระทั่งอย่างไรเราก็ไม่หวั่นเราทุกคนยึดมั่นในคำสั่งสอนของอากงอาม่าว่าให้เป็นคนซื่อสัตย์สุจริตตอบแทนสังคม สิ่งที่ทุกท่านเห็นปรากฏแก่สายตาท่านจะได้รับรู้ถึงความตั้งใจปฏิบัติในหน้าที่ตำแหน่ง
‘อภิศักดิ์’โต้’แม้ว’ไม่รู้งูเห่าคืออะไร
พวกเราตระกูลจึงไม่รู้ว่าอะไรคืองูเห่าอะไรคือการที่ต้องอยู่ใต้อำนาจของคนใดคนหนึ่งเราคิดว่าเราเลือกทางเดินที่ถูกต้องเสียงของประชาชนเป็นการตัดสินใจว่าเราควรที่จะอยู่ในเส้นทางการเมืองต่อไปหรือไม่ ขอกราบวิงวอนทุกท่านได้ใช้วิจารณญาณในการรับฟัง การเมืองท้องถิ่นเป็นการตัดสินใจของคนท้องถิ่นองค์กรปกครองท้องถิ่นต้องเป็นอิสระในการบริหารงานมีนโยบายมีความคิดเห็นของตัวเองเพื่อที่จะตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนสังคม นโยบายของรัฐบาลเป็นการตอบโจทย์ภาพรวมของประเทศไม่เฉพาะเจาะจงที่ใดที่หนึ่งในขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องวิเคราะห์ปัญหาของตนเองและหาทางแก้ไขภายใต้งบประมาณจำกัดและข้อจำกัดมากมาย
ดังนั้นการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษในครั้งนี้ควรเป็นการตัดสินใจของชาวจังหวัดศรีสะเกษเองโดยไม่มีการชี้นำจากบุคคลภายนอกที่ไม่มีส่วนได้เสียของชาวจังหวัดศรีสะเกษ ปล.อนาคตของพวกเราฝากไว้ในการเลือกตั้งในครั้งนี้.
การโพสต์เฟสบุ๊คของนายอภิศักดิ์ เกิดขึ้นภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ไปปราศรัยที่ศรีษะเกษช่วยลูกทีมชิงนายกฯอบจ โดยนายทักษิณประกาศไล่หนูตีงูเห่า2 ตัว
‘เอกนัฎ’ย้ำค่าหัว300ล้านบาท
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีมีกระแสข่าวการตั้งค่าหัว 300ล้านบาท เพื่อโยกย้ายตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ว่า ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ ตนได้อ่านเองทุกข้อความ ในกระทรวงอุตสาหกรรม มีทีมการเมืองที่หนักแน่นเข้มแข็ง และต้องขอขอบคุณข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ช่วยกันขับเคลื่อนงานตามนโยบายอย่างมุ่งมั่น ทั้งการ รื้อ อุตสาหกรรมเถื่อนที่ทำผิดกฏหมาย ลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ผลิตของด้อยคุณภาพ ทำธุรกิจอย่างไร้ความรับผิดชอบ ทำร้ายชีวิตคนและเศรษฐกิจประเทศ การลด มลภาวะ ออกมาตรการลดการเผาอ้อย การติดตั้งอุปกรณ์ CEMS เพื่อมอนิเตอร์และลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ การปลดล็อค ข้อจำกัดทางกฎหมาย ขั้นตอนที่เป็นภาระกับผู้ประกอบการ เริ่มต้นด้วยการยกเลิกการขออนุญาตโรงงาน (รง.4) สำหรับการติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อป ตามต่อด้วยพระราชบัญญัติ (พรบ.)โซล่าร์และพรบ.โรงงาน และเร่ง สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ เพิ่มมูลค่า จัดระบบให้ สะดวก สะอาด โปร่งใส ด้วยกติกาที่มีมาตรฐาน ร่างพรบ.จัดการกากอุตสาหกรรมใหม่ ตั้งกองทุนอุตสาหกรรมยั่งยืน ช่วยธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs ปรับตัวสู่ความยั่งยืน
เดินหน้าขับเคลื่อนงานต่อ
“ผมขอขอบคุณสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติทุกๆคนที่ช่วยกันขับเคลื่อนงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ จนคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง จัดอันดับพรรคการเมืองที่ได้รับเงินอุดหนุนมากที่สุดปี 2568 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้รับเงินอุดหนุนจากกองทุนพัฒนาการเมืองมากที่สุดอันดับ 1 เป็นเงิน17.9ล้าน คำนวณจากสาขา สมาชิกและการให้ผ่านภาษี“ นายเอกนัฏ กล่าว
‘คารม’ดีดปาก‘โรม’พูดพาดพิง‘อนุทิน’
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์และการปฎิรูประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ออกมาพาดพิงกระทรวงมหาดไทยเพิกเฉย ไม่งดจ่ายไฟฟ้าให้กับบริษัทคู่สัญญาในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้แก๊งคอลเซนเตอร์ใช้เป็นแบตสำรองให้กับขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ว่า ข้อเท็จจริง เรื่องนี้ หากได้ศึกษารายละเอียดจริง ๆ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ไม่เคยเพิกเฉย ซึ่งเมื่อวันที่ 24ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการ กฟภ. ครั้งที่ 1/2568 ในวาระประชุม มีประเด็นที่ชัดเจนว่า กฟภ.ไม่อาจงดจ่ายไฟฟ้าโดยพลการได้ เพราะมีผลกระทบต่อคู่สัญญา การงดจ่ายไฟฟ้าต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง ไม่ใช่อำนาจของกระทรวงมหาดไทยโดยตรง ทั้งนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เตรียมนำเสนอเพื่อขอแนวทางในการปฎิบัติในการงดการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับประเทศใกล้เคียงที่เกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ ต่อ ครม. ในเร็วๆ นี้
นายคารม กล่าวต่อว่า การที่นายรังสิมันต์ มาพูดให้สัมภาษณ์ และพูดในเวทีหาเสียง อบจ. กล่าวหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เพิกเฉยต่อการดำเนินการของ กฟภ. ตนเองในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ต้องขอเรียนว่านายรังสิมันต์ ซึ่งเป็นถึงประธานกมธ.ฯ จะต้องระมัดระวังการพูดให้มาก การพูดให้สัมภาษณ์กับสื่อและบนเวทีปราศรัยไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เป็นประธานกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ น่าจะรู้ว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความมั่นคงแนวชายแดน การพูดในลักษณะดังกล่าว ทำให้นายอนุทิน เสียหาย ขอเตือนให้ระมัดระวัง แนะนำให้ศึกษาข้อกฎหมายและเรื่องอื่น ที่เขาทำสัญญาไว้ให้ดี การขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านนั้นกฟภ. ทำตามมติคณะรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 2539 ที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งขาติเสนอ นายอนุทิน ไม่เคยนิ่งดูดาย หรือเพิกเฉยกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และทำตามนโยบายของรัฐบาลทุกอย่าง ปัญหาของแก็งคอลเซนเตอร์ เป็นเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและสร้างความเสียหายกับประเทศอย่างมาก สิ่งไหนที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ นายอนุทิน จะดำเนินการทันที เช่น การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 นายอนุทิน ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งแก้ไขปัญหาทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี