ไม่มีอะลุ่มอล่วย! ‘มท.1’ ยกคณะลงพื้นที่เชียงใหม่ คุย ‘ผู้ว่าฯภาคเหนือ’ กำชับเข้มกม.ห้ามเผาเด็ดขาด ลั่นปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว
วันที่ 27 มกราคม 2568 ที่สหกรณ์การเกษตรแม่แจ่มจำกัด อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือ ได้เดินทางมาพบปะกับชาวบ้าน และเกษตรกร เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5
นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า การเดินทางมาครั้งนี้ ตนไม่ได้มาคนเดียว แต่ได้นำทั้งผู้บริหารผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการในภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงทหารฝ่ายความมั่นคงลงมาอยู่กับพี่น้องประชาชน เพื่อที่จะบอกว่าเรื่องของฝุ่นควันกลายเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลกำลังเร่งจัดการ ปัญหานี้มาจากฝีมือมนุษย์เป็นสำคัญ และเป็นสิ่งที่เราช่วยกันได้ ปัจจุบัน วิถีทางการเกษตรเปลี่ยนไปมีการปลูกพืชล้มลุกและใช้การเผาแทนการไถกลบเพื่อให้ปลูกได้เร็วขึ้น ปลูกได้มากขึ้น แต่ผลกระทบ จากพฤติกรรมเช่นนี้หนักหนาสาหัสมาก ทำลายสุขภาพทั้งคนในพื้นที่และคนนอกพื้นที่ การท่องเที่ยวแย่ เศรษฐกิจแย่ ทุกวันนี้ประเทศไทย ต้องประสบกับภัยพิบัติตลอดปี พอต้นปีก็เป็นเรื่องของฝุ่นควัน จากนั้นก็ภัยแล้ง ตามมาด้วยน้ำท่วม จบที่ภายหนาว และเริ่มปีใหม่ด้วยปัญหาฝุ่นควันอีกครั้ง เราจะยอมรับให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ มีการถมเงินมากมายเพื่อเข้าไปเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ แต่ตอนนี้ต้องคิดถึงเรื่องการป้องกันแล้ว ที่ทำได้เลย คือบังคับใช้กฎหมาย ตอนนี้ ตนเอาจริง
“ทั้งส่วนกลางและข้าราชการส่วนท้องถิ่น ท่านต่างก็มีกฎหมายอยู่ในมือ ถึงเวลาที่ท่านต้องใช้มันแล้ว พี่น้องประชาชนและเกษตรกรท่านต้องเข้าใจว่าตอนนี้เราต้องเอาจริงเอาจังเพราะเป็นปัญหาระดับประเทศ ไม่สามารถอะลุ่มอล่วยได้เราต้องเข้าใจสถานการณ์ร่วมกัน และแก้ปัญหาไปด้วยกัน” นายอนุทิน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี