‘กมธ.มั่นคงแห่งรัฐ’รับเรื่องร้องเรียน‘แก๊งคอลเซนเตอร์’หลอกสูญกว่า 3 ล้านบาท ‘รังสิมันต์’จี้ผู้มีอำนาจจัดการ อย่าให้มีความเสียหายมากไปกว่านี้ มองไทยจัดการเองได้ เพราะมีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ร่วมมือจีนเป็นเรื่องดี
28 มกราคม 2568 ที่รัฐภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือร้องเรียนจากนายพงษ์ประพันธ์ นิตยารัมภ์พงศ์ พร้อมด้วยประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากแก๊งคอลเซนเตอร์ โดนหลอกว่ามีคดีโดยมีตำรวจปลอมแล้วหลอกให้โอนเงิน ซึ่งเรื่องนี้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า จึงต้องมาขอให้กมธ.ฯ ช่วยเหลือ ตอนนี้พวกตนได้รวบรวมหลักฐานต่างๆเพื่อฟ้องหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งหลายที่ทำงานไม่รอบคอบ ทำให้มีผู้เสียหายวันละพันคน
ด้านนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนรับทราบข่าวในทำนองเดียวกัน ซึ่งเกิดขึ้นเยอะมาก ความเสียหายต่อประชาชนโดยรวมทั่วประเทศต่อปีข้อมูลของทางการอยู่ที่หลัก 7 -8 หมื่นล้านบาท ซึ่งตนเชื่อว่าตัวเลขจริงอาจจะทะลุแสนล้านบาท อย่างในกรณีของนายพงษ์ประพันธ์มีความเสียหาย 3.2 ล้านบาท ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นภัยคุกคามที่สำคัญของประเทศและประชาชน เราไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยกับเรื่องนี้ได้อีกต่อไป และคงจะต้องทำเรื่องนี้เพื่อให้จบปัญหาภัยคุกคามนี้ได้แล้ว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คงมีหลายภาคส่วนที่เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าเป็นธนาคารที่จะต้องเข้ามามีมาตรการในการป้องกัน และเรื่องนี้เราคุยกันในสภาหลายครั้ง โดยถามถึงความรับผิดชอบการจัดการเกี่ยวกับระบบการเงินการธนาคาร เป็นไปได้อย่างไรที่บัญชีม้า สามารถโอนเงินจากบัญชีอื่นๆ ได้ ซึ่งตนคิดว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนไม่มากก็น้อย เป็นผลโดยตรงจากระบบธนาคารของเราอ่อนแอ ปล่อยให้มิจฉาชีพใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้ แม้กระทั่งเรื่องซิมเราทราบว่าปัจจุบันมีซิมม้ามากมาย แต่เราไม่ได้เห็นรูปธรรมชัดเจนในการปราบปรามซิมม้า และนำไปสู่การลงโทษผู้กระทำผิด มีการดำเนินการมากน้อยแค่ไหน เราไม่หน่วยงานรัฐตื่นตัวในเรื่องนี้อย่างจริงจัง
“ไม่ว่าเราจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ตราบใดที่ประชาชนยังได้รับความเสียหายแบบนี้ เม็ดเงินของประชาชนไหลออก เกิดอาชญากรรมแบบนี้ ไม่ใช่แค่ทำลายชีวิตประชาชน แต่ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศและการท่องเที่ยว ดังนั้น ตนคิดว่านี่คือวาระของประเทศไทย ที่เราจำเป็นต้องจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งเรื่องแก๊งคอลเซนเตอร์ถือเป็นหนึ่งในวาระสำคัญของกมธ. และพยายามดำเนินการเรื่องนี้ถึงต้นตอ วันนี้ประเทศไทยรู้ว่าแก๊งคอลเซนเตอร์อยู่ที่ไหน ซึ่งมีการค้ามนุษย์ด้วยเหลือแค่การลงมือปราบปรามสาวถึงตัวการ”นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่าตอนนี้ตำรวจร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคงจีนเพื่อปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ คิดว่าจะสามารถจัดการได้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าประเทศไทยโดยลำพังสามารถจัดการได้ แต่ถ้ามีความร่วมมือกับประเทศจีน ก็น่าจะมีความชัดเจนเพิ่มขึ้น ซึ่งตนเห็นถึงความตั้งใจของทางจีน ในการที่จะปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ตนคิดว่าเรื่องนี้จะช่วยทำให้ทั้ง 2 ประเทศมีความตั้งใจที่จะปราบปราม ซึ่งหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่คงต้องดูว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดผลในการปฏิบัติหรือไม่
“ยืนยันว่าแก๊งคอลเซนเตอร์ ไม่ได้ตั้งอยู่โดดๆเพราะเขาคือมนุษย์ที่ต้องกินต้องใช้ มีทั้งความบันเทิง อาหารปัจจัย 4 สิ่งเหล่านี้ก็มาจากประเทศไทย เมื่อเป็นแบบนี้หลายภาคส่วนในประเทศสามารถจัดการได้เลย แต่ไม่เข้าใจว่าหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงรออะไรอยู่ จึงคิดว่าเราเริ่มตัดไฟมีส่วนในการที่จะทำให้เรื่องนี้คลี่คลายมากขึ้น แต่ก็ไม่พอจะต้องมีมาตรการอื่นๆมาร่วมด้วยเพื่อให้แก๊งคอลเซนเตอร์อ่อนแอลง อย่างไรก็ตามวันที่ 16-17 ก.พ.นี้ กมธ.ฯ จะลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามเรื่องนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี