"มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน"ล่า 5 หมื่นชื่อ ไม่เอา"กาสิโน"ต้องทำประชามติ รณรงค์หยุด พ.ร.บ.ซ่อนแอบ ซุก"กาสิโน"ใต้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สถานบันเทิงครบวงจร ไม่ตรงปก-ตีเช็คเปล่า-เอื้อทุนใหญ่-ไม่เห็นหัวประชาชน เสี่ยงกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจโลก
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน และองค์กรภาคีเครือข่าย 200 องค์กร ร่วมกับกลุ่มประชาชนหลากหลายอาชีพ และนักศึกษา ตั้งโต๊ะแถลงข่าวภายใต้หัวข้อ "ประชาชนเดินหน้าล่า 5 หมื่นรายชื่อ ไม่เอากาสิโน ต้องประชามติ" โดยมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น
รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล คณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวถึงประเด็นความสำคัญของการทำประชามติกับการเปิดกาสิโน โดยรัฐบาลใช้อบายมุขมาผลักดันนโยบายเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งประเทศจีน และประเทศฟิลิปปินส์ ก็ไม่เอากาสิโน จากที่เดิมก่อนหน้านี้แม้ว่าประเทศจีน จะมีประชาชนไปเล่นการพนันในประเทศอื่น ซึ่งทำให้เม็ดเงินจากประเทศจีนหายไปเป็นจำนวนมากอย่างมหาศาล แต่สีจิ้นผิงมีนโยบายประกาศว่า กาสิโนไม่ถูกกฎหมาย จึงเห็นได้ว่าการมีกาสิโนจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องมีการทำประชามติ ซึ่งรัฐบาลบอกเองว่าเป็นรัฐบาลประชาธิป ไตย จึงจำเป็นต้องมีการทำประชามติเหมือนกับนานาอารยประเทศ
อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งล่าสุดปี 2566 ไม่มีพรรคการเมืองใดชูนโยบายว่าจะเอาการพนันใต้ดินให้ขึ้นมาบนดินให้ถูกกฎหมาย แต่ปัจจุบันกลับนำเอากาสิโนเข้ามาเป็นนโยบายรัฐบาล ถือว่าไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่ลงคะแนนเสียงเลือกเข้ามา อีกทั้ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กำหนดไว้ในมาตรา 57 ว่าทุกพรรคการเมือง ไม่ได้มีการพูดถึงนโยบายเรื่องนี้ไว้ในการหาเสียง แต่กลับมาใช้นโยบายที่นอกเหนือการรายงานไว้ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่กกต.ต้องพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร และนโยบายกาสิโนก็เป็นนโยบายที่ผิดกฎหมาย
คุณณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ หรือ จ๊ะเอ๋ อ๊อกซิเจนคนจน หนึ่งในประชาชนผู้ไม่เห็นด้วยกับนโยบายการเปิดกาสิโน กล่าวถึงความต้องการที่ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยและไม่ต้องการกาสิโน ตนเป็นประชาชนคนหนึ่งที่ไม่มีความรู้ แต่เมื่อมองแล้วรู้สึกว่าประเทศนี้ นักการเมืองหาเสียง แถลงนโยบายต่างๆ โดยไม่มีใครบอกว่าจะเอาการพนันถูกกฎหมายเข้ามา อยากถามว่า ได้ถามประชาชนสักคำไหมว่าการพนันสิ่งผิดกฎหมายประชาชนอยากได้หรือไม่ ตนอยากถามว่าการทำประชาวิจารณ์มันคืออะไร แต่กลับมาบอกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทำประชามติ ถือเป็นคำพูดที่เหยียบประชาชน เพราะประเทศนี้ก็เป็นของประชาชน ยืนยันย้ำไม่ต้องการ การพนันที่มอมเมา ต่อไปในอนาคตอะไรจะเกิดขึ้นกับเด็กๆ ประเทศไทยไม่ใช่ของนักการเมือง สิ่งที่พัฒนาในประเทศมีตั้งเยอะแยะคุณสามารถทำได้แต่อันนี้ไม่สมควรตนจึงไม่เห็นด้วย คนที่จะมีประชามติให้ประชาชนออกมามีส่วนร่วมว่าจะเอาหรือไม่
ด้าน นายธนกร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวถึง การทำประชามติที่เปิดช่องทางให้สังคมได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น เนื่องจากประเด็นดังกล่าวนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่ส่งผลกระทบต่อลูกหลานในอนาคต เพราะกฎหมายฉบับนี้ที่กำลังพิจารณากันอยู่ เป็นการเปิดโอกาสให้มีสถานบันเทิงอย่างครบวงจร เปิดให้มีการเล่นการพนันขนาดใหญ่และพนันอย่างเต็มรูปแบบ โดยมูลนิธิรณรงค์หยุดพนันเป็นผู้ริเริ่ม ในการเล่ารายชื่อเพื่อส่งต่อรัฐบาลในการทำประชามติ โดยผู้มีสิทธิ์เข้าชื่อในการทำประชามติ ไม่น้อยกว่า 5 หมื่นรายขื่อเพื่อเสนอให้รัฐบาลควรต้องมีการจัดทำประชามติ โดยผ่าน 5 ขั้นตอน ไปจนถึงคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดวันลงประชามติ ภายใต้ระยะเวลาการดำเนินการที่กำหนดซึ่งต้องไม่เกิน 120 วัน ซึ่งถือเป็นเรื่องความชอบธรรมที่ประชาชนประกาศชัดเจนดำเนินการตามขั้นตอน
ส่วนเรื่องการตั้งหัวเรื่องการขอทำประชามตินั้น ต้องเกิดความรัดกุม ป้องกันความกำกวมอันอาจจะก่อให้เกิดความไหลเลื่อนของความหมายเป็นอย่างอื่นได้ จึงตั้งหัวเรื่องประชามติว่า "ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่กับการเพิ่มแหล่งพนันในสังคมโดยนโยบายรัฐบาล" ซึ่งครอบคลุมได้ทั้งกาสิโน พนันออนไลน์ หรืออื่นๆ สุดแท้แต่ที่ผู้กำหนดนโยบายอาจมีความปรารถนาจะใช้อำนาจทางการเมืองผลักดันให้เกิดในอนาคต เพราะการพนันเป็นสิ่งที่พึงถูกจำกัดและควบคุมโดยนโยบายของรัฐ การจะเพิ่มแหล่งพนันโดยใช้นโยบายรัฐบาลเป็นเครื่องมือ ไม่ว่าจะโดยการบัญญัติกฎหมายฉบับใหม่ การแก้กฎหมายฉบับเดิม หรือการออกเป็นกฎหมายระดับรอง
ทั้งนี้ ก่อนการแถลงข่าว มีการแสดงเชิงสัญลักษณ์ "ยักษ์แปลงกาย" เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงนโยบายที่หละหลวมกฎหมายมีช่องว่าง ที่ล้วนเป็นผลกระทบที่จะมีขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี