"จุลพงศ์"ฝากการบ้าน 3 ข้อสังเกต ก่อนเดินหน้า"สถานบันเทิงครบวงจร" แนะกำหนดสัดส่วน"กาสิโน"ไว้ในกฎหมายให้ชัด หยัน"นายกฯ"นั่งปธ.นโยบาย เป็นเรื่องน่าตลก-มีแต่ไทยที่ทำ
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ที่รัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) แถลงถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกากำลังเร่งจัดทำร่าง พ.ร.บ.เพื่อกลับมาเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎร ทาง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เองก็ได้ออกมาให้ความเห็น ถึงสัดส่วนพื้นที่กาสิโนว่าจะไม่มีการกำหนดสัดส่วนในร่างกฎหมายนี้ และหัวหน้าพรรครัฐบาลบางพรรคเองก็ออกมาบอกว่าควรกำหนดสัดส่วน
นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะไม่กำหนดสัดส่วนพื้นที่กาสิโนต่อพื้นที่ทั้งหมดในกฎหมายฉบับนี้ และยังเห็นว่ากฎหมายฉบับนี้ควรกำหนดและจำกัดจำนวนกาสิโนที่จะเปิดในช่วงแรก คนในรัฐบาลมักยกตัวอย่างกาสิโนของสิงคโปร์ขึ้นมาอ้างอิง ซึ่งกาสิโนในสิงคโปร์นั้นได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายควบคุมกาสิโน หรือ Cazino Control Act และนอกจากจะมีคำจำกัดความของกาสิโน ยังมีการให้คำจำกัดความของคำว่ารีสอร์ทครบวงจร หรือ Integrated resort ที่หมายถึงโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ศูนย์รวมความบันเทิงอื่นๆ ซึ่งตามกฎหมายของสิงคโปร์ฉบับนี้ไม่ได้กำหนดสัดส่วนพื้นที่กาสิโนในพื้นที่ทั้งหมด เพราะตามกฎหมายของสิงคโปร์ ถือว่ารีสอร์ท เป็นส่วนหนึ่งของกาสิโนเท่านั้น ซึ่งประเทศไทยกำลังร่างกฎหมายเพื่อให้มีกาสิโนในลักษณะกลับหัวกับสิงคโปร์ คือการร่างเป็น พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร แล้วเอาการอนุญาตให้ทำธุรกิจกาสิโนมาใส่ไว้เป็นส่วนหนึ่งของสถานบันเทิงครบวงจร
นายจุลพงศ์ กล่าวอีกว่า ตนขอตั้งข้อสังเกต 3 ประการ ไปยังรัฐบาล และคณะกรรมการกฤษฎีกา คือ 1.หากปล่อยให้คณะกรรมการนโยบาย ไปกำหนดสัดส่วนพื้นที่กาสิโนต่อพื้นที่สถานบันเทิงครบวงจรโดยไม่มีการกำหนดสัดส่วนที่แน่นอนไว้ และต่อมามีนักลงทุนต่างชาติเสนอให้มีพื้นที่กาสิโนเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจขัดกับหลักการที่มีกฎหมายฉบับนี้ไว้ เพื่อมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวและไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องพนัน 2.แม้กาสิโนในสิงคโปร์จะไม่กำหนดสัดส่วนพื้นที่คาสิโนต่อพื้นที่ทั้งหมด แต่ในกฎหมายควบคุมเขามีการควบคุมจำนวนคาสิโนในประเทศคือให้เปิดได้ไม่เกิน 2 แห่งไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2573 แต่ในร่างกฎหมายของเรากลับไม่มีกำหนดและได้ให้อำนาจกับคณะกรรมการนโยบายไปตัดสินใจว่าจะเปิดคาสิโนกี่แห่งและที่ไหนบ้าง ซึ่งเป็นการให้อำนาจคณะกรรมการมากเกินไป และ 3.องค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายจำเป็น ต้องมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เป็นประธาน และกรรมการชุดนี้หรือไม่
นายจุลพงศ์ กล่าวด้วยว่า หากเทียบเคียง กับกฎหมายคาสิโนของสิงคโปร์จะพบว่า องค์กรที่ควบคุมการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้คือ Gambling Regulatory Authority of Singgapore ซึ่งไม่ได้มีนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เป็นประธานแต่อย่างใด ดังนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องน่าตลกที่นายกรัฐมนตรี มานั่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายประกอบธุรกิจสถานบันเทิง เรื่องแบบนี้คงมีแต่ประเทศไทย
"หากรัฐบาลจะยังคงผลักดันเรื่องนี้ ควรกำหนดสัดส่วนพื้นที่คาสิโนต่อพื้นที่ทั้งหมดไว้ในตัว พ.ร.บ.เพื่อรักษาหลักการของกฎหมายการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ว่าไม่ใช่กฎหมายเกี่ยวกับการพนันและในระยะเริ่มแรกควรควบคุมจำนวนกาสิโนทั้งประเทศ 3 เรื่องนี้ผมขอตั้งเป็นข้อสังเกตและท้วงติงไว้" นายจุลพงศ์ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี