"ภูมิธรรม"ถกจีบีซี หนุนบทบาท"มาเลเซีย"ประธานอาเซียน ย้ำกรอบความร่วมมือทุกมิติ ผนึกกำลังรับท้าทายภูมิภาคจากนโยบาย"โดนัลด์ ทรัมป์"
29 ก.ค.2568 ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกลาโหม กล่าวว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้การต้อนรับ Dato' Seri Haji Mohamed Khaled bin Nordin (ดาโต๊ะ ซรี ฮาจิ โมฮาเม็ด คาเล็ด บิน นอร์ดิน) รมว.กลาโหม มาเลเซีย พร้อมนำตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย - มาเลเซีย
โดย นายภูมิธรรม ได้ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและมาเลเซีย ในโอกาสครบรอบ 68 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต โดยมีพัฒนาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง และขอขอบคุณทางมาเลเซีย ที่ได้ให้การต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ในการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ เมื่อ16 ธันวาคม 67 ณ เมืองปูตราจายา ซึ่งผลของการหารือจากการเดินทางในครั้งนั้น กำลังถูกผลักดันอย่างจริงจัง โดยหน่วยงานรัฐทุกภาคส่วน เพื่อให้ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศมีความแน่นแฟ้นและไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ อีกหนึ่งผลลัพท์จากการเยือนของนายกรัฐมนตรีในครั้งนั้น คือการที่มาเลเซียที่พร้อมจะดำรงการสนับสนุนความร่วมมือในการเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเป้าหมายหลักร่วมกันคือเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยขอแสดงความชื่นชมอย่างจริงใจที่ ฝ่ายมาเลเซียแสดงออกถึงจุดยืนที่ชัดเจนในทุกโอกาสว่าไม่ประสงค์จะยกระดับปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นประเด็นระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ผลการเยือนดังกล่าวของนายกรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหมได้นำมากำหนดเป็นหัวข้อสำคัญในการประชุม GBC ในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมต่อไป โดยเฉพาะการเสริมสร้างความร่วมมือที่สามารถแก้ไขปัญหาสถานการณ์ด้านอุทกภัยในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงและขยายตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทั้งสองประเทศได้
วันเดียวกัน ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 56 ว่า ไม่ได้มีการพูดถึงบุคคลสองสัญชาติ แต่เป็นการประชุมในเรื่องความร่วมมือของสองประเทศในหลายประเด็น
ทั้งประเด็นปัจจัยภายนอกที่มีผล เกี่ยวข้องกับอาเซียน โดยเฉพาะกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีประเด็นปัญหาท้าทายและต้องหารือร่วมกันต่อไป เพื่อรับมือกับสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้น เพราะการขยับตัวของสหรัฐอเมริกา มีผลต่ออาเซียน
ส่วนกรณี ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีนโยบายตัดเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลของผู้อพยพในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงศูนย์พักพิงตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาทั้ง 9 ศูนย์ นายภูมิธรรม ย้ำว่าสิ่งไหนที่เป็นเรื่องของการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ก็จะต้องมีการหารือกันเพื่อแก้ปัญหาต่อไป
ทั้งนี้ทั้งไทยและมาเลเซีย ยังต้องการให้ภูมิภาคนี้เกิดสันติภาพ-ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง ทั้งนี้อาเซียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะขั้วมหาอำนาจใด และมีคววามเป็นกลาง หากมีการพูดคุยปัญหาขัดแย้งก็ต้องยึดหลักสันติวิธีใช้ความอดทนอดกลั้นในการแก้ไขปัญหา
พร้อมกันนี้ยังหารือ ความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหม เพราะทั้งสองประเทศมีชายแดนติดกัน ก็จะต้องหารือแก้ไขปัญหาต่างๆร่วมกัน เช่น เรื่องการปิดชายแดนของทางประเทศมาเลเซีย เพราะไทยมองว่าเรื่องของการปิดชายแดนอาจจะกระทบกับนักเรียนที่ต้องเดินทางข้ามไปมาแบบเช้าไปเย็นกลับ ซึ่งทางประเทศมาเลเซียก็เข้าใจและเห็นใจ โดยจะนำกลับไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ
นอกจากนี้ยังได้พูดถึงกรณีที่มาเลเซียเป็นประธานอาเซียน และประธานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอาเซียน หรือ ADMM ซึ่งไทยยินดีและสนับสนุนให้มาเลเซียเป็นประธานอาเซียน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆในอาเซียน ถือเป็นความร่วมมือกันของอาเซียนทั้งหมด
ทั้งนี้ยังได้ขอบคุณประเทศมาเลเซีย ที่มีจุดยืนชัดเจน ในการสนับสนุนสันติภาพในสามจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อทำให้พรมแดนทั้งสองประเทศมีความสงบ ซึ่งก็จะมีการพูดคุยกันต่อไป โดยในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้าจะมีการประชุมที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย เพิ่มเติม
สำหรับปัญหาเรื่องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ 2 ประเทศ จะต้องพูดคุยกัน ถือเป็นความตั้งใจและความร่วมมือเพื่อให้เกิดสันติสุข
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี