‘กมธ.มั่นคงแห่งรัฐ’เตรียมล้วงขั้นตอนพิสูจน์สัญชาติ‘แรงงานข้ามชาติ’ส่อมีโยงทุจริต ข้องใจหนัก‘มหาดไทย’ไม่ตัดไฟ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’เสียที กังขาเจอตอ-ขัดประโยชน์หรือไม่ หยันนโยบาย ‘ซีลชายแดน2ชั้น’ใช้เทคโนโลยี-เงินเยอะถ้ายังทำเดิมๆก็ไม่ต่างอะไร
30 มกราคม 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงประชุม กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ในวันนี้ว่า จะมีการหารือเรื่องแรงงานข้ามชาติ เนื่องจากตนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ อย่างที่เห็นกันว่าคนเมียนมาอยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก มีทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายส่วนคนเมียนมาในประเภทที่ดีอยู่แล้ว ก็ดีในเรื่องของการจัดการที่จะต้องมาเสียภาษี และการจัดการในเรื่องของระบบสุขภาพต่างๆ ขณะนี้เราพบว่าอาจมีการทุจริตในแรงงานข้ามชาติที่ถูกกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งตนหวังว่าจะไม่มีการทุจริตตามที่เป็นกระแส ส่วนช่องทางที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริต คือขั้นตอนของการพิสูจน์สัญชาติ โดยขั้นตอนดังกล่าวเป็นขั้นตอนที่แต่ละส่วนไม่มีความจำเป็น เพราะแรงงานเหล่านี้อยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งประมาณการว่ามีถึง2,000,000 คน
“ดังนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มขั้นตอน หรือมีขั้นตอนที่นำไปสู่การเสียเงินมากมาย เพราะสุดท้ายหากเสียเงินมากมายจะกลับไปสู่ที่นายจ้างที่จะต้องแบกรับในส่วนนี้ ฉะนั้นต้องไปดูในรายละเอียดว่าขั้นตอนที่จะมีหนังสือสำคัญประจำตัว หรือ เซอร์ทิฟิเคต ออฟ ไอเดนทิตี้(ซีไอ) ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร เนื่องจากมีข่าวหนาหูว่าอาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชั่นได้” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่นำชื่อประเทศไทยไปแอบอ้าง มองว่าเป็นการกระทบกับประเทศไทยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มันกระทบอยู่แล้ว ตนคิดว่าคนไทยจำนวนมาก ต้องยอมรับว่าเราสูญเสียเม็ดเงิน ที่ไหลออกจากประเทศเยอะแยะมากมาย หลายครอบครัวฆ่าตัวตาย และหลายคนต้องสูญเสียทรัพย์สินที่สะสมมา แทบจะหมดตัวแม้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมายอมรับว่าเกือบเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นตนคิดว่าวันนี้ภัยจะแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นภัยที่ร้ายแรง และส่งผลกระทบต่อประเทศทั่วโลก
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนมองว่า วันนี้เศรษฐกิจไทย ภาคส่วนที่สำคัญคือการท่องเที่ยว หากการที่ชาวต่างชาติมองว่า การมาเที่ยวประเทศไทยไม่ปลอดภัย เพราะอาจจะเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเป็นเหยื่อของแก๊งค้ามนุษย์ซึ่งเรื่องนี้ทำร้ายประเทศไทยอย่างมาก สิ่งที่ตนพูดมานั้นตนไม่ได้คิดไปเอง แต่มันเกิดขึ้นแล้ว ผ่านการยกเลิกของทัวร์จีนต่าง ๆ ที่จะมาเที่ยวในประเทศไทย ฉะนั้นจึงมีความชัดเจนว่า ปัญหาการคอลเซ็นเตอร์เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย และสามารถดำเนินการแก้ไขให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ่อนแอลงได้ ทั้งการตัดไฟฟ้า ตัดอินเตอร์เน็ต แล้วตัดสาธารณูปโภคต่าง ๆ โดยที่ไม่ต้องรอให้ใคร มาสั่งการสามารถดำเนินการได้ทันที
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า โดยเฉพาะการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สามารถดำเนินการได้เนื่องจากมีคู่สัญญา ที่มีข้อหนึ่งระบุว่า หากมีการกระทบกับความมั่นคง กฟภ. สามารถดำเนินการตัดไฟได้ทันที แต่ตนไม่เข้าใจ ว่าทำไม นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ออกมาระบุให้กฟภ. ส่งหนังสือมาให้ตน 1 ฉบับ เดี๋ยวนายอนุทินจะตัดไฟให้ แต่ในความเป็นจริงกระทรวงมหาดไทย เป็นหนึ่งในกระทรวงด้านความมั่นคง ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีการพูดคุยกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยเลือกดังกล่าวมีการพูดคุยกันอย่างมีการพูดคุยอย่างเป็นกิจลักษณะอยู่แล้วทั้งนี้ กฟภ. ตัวแทนของกระทรวงมหาดไทย ที่มาประชุมรวมกับคณะกมธ.ความมั่นคงฯ เป็นระยะๆนั้น ก็เห็นและรับทราบว่าข้อมูลหลายหลายอย่างที่บ่งชี้ว่า ประเทศไทยเป็นแบตเตอรี่ให้กับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์
“ผมขอตั้งคำถามว่า ทำไมต้องให้หน่วยงานอื่น มาสั่งงานก่อน ผมมองว่าไม่สมเหตุสมผล หากมีกฎหมายกำหนดให้กระทำเช่นนั้น ผมก็เข้าใจ แต่กลับกันไม่มีกฎหมายใดที่กำหนดว่ากระทรวงมหาดไทยจะต้องไปฟังหน่วยงานอื่นก่อนย้ำว่าวันนี้กระทรวงมหาดไทยสามารถสั่งให้ กฟภ. ดำเนินการตัดไฟได้ทันที ซึ่งสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่ทำไมยังไม่ดำเนินการ” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามอีกว่ามีข้อห่วงใยหรือไม่ หลังจากที่มีการใช้ทรัพยากรของประเทศไทย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มี และมันใช้ทรัพยากรของประเทศไทยแน่นอน ซึ่งปัจจุบันนี้หลายเมืองตามแนวชายแดน มีทุนเทาที่ประกอบด้วย จีนเทาและไทยเทาผสมกัน โดยการที่ทุนเทาทั้งสองชนชาติมารวมตัวกัน และสร้างปัญหาให้กับประเทศไทยอย่างมหาศาล และการที่ไม่สามารถตัดไฟได้นั้น เป็นเพราะว่าเมื่อตัดไฟไปแล้วจะกระทบต่อผู้มีอำนาจในประเทศไทยใช่หรือไม่ สุดท้ายที่ตัดไฟไม่ได้เพราะเจอตอใช่หรือไม่ และเป็นการทำลายผลประโยชน์ของบุคคลอื่นใช่หรือไม่
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นอกจากนี้ตนได้รับรายงานมาว่าชาวบ้านในพื้นที่ ว่าไม่ได้ใช้ไฟอะไรมากมาย แต่ความเป็นจริงที่มีการใช้ไฟเป็นจำนวนมากคือคาสิโนเมียวดี คอมเพล็กซ์ ที่เป็นของตำรวจนายหนึ่ง โดยเป็นยศพลตำรวจตรี ดังนั้นตนไม่สามารถเข้าใจได้ว่าการทำงานของกฟภ. ในเรื่องของการขายไฟ อาจมีโอกาสในการสนับสนุนในลักษณะของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในการกระทำความผิดที่เป็นยาเสพติด ซึ่งทั้งสองอย่างเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย และรัฐมนตรีจะมีมาบอกว่าไม่ทราบไม่ได้ และจะเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และทำตัวไม่ต่างกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และแก๊งยาเสพติด
เมื่อถามต่อว่าเรื่องดังกล่าวมีการพัวพันกับนายตำรวจใหญ่จะมีการดำเนินการอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ทางกมธ.ฯทำได้ในเรื่องของการหาข้อมูลและการศึกษา ซึ่งตนให้เวลากับรัฐบาล ในการจัดการ และอีกนิดเดียวตนจะเป็น ครม. หรือผู้สั่งการอยู่แล้ว ซึ่งมันไม่ควรเป็นเช่นนั้น ปัจจุบันเรารวบรวมข้อมูล และให้เวลารัฐบาลในการทำงานแต่คำชี้แจงของรัฐบาลหลายอย่าง ที่ไม่ดำเนินการนั้น มันไม่สมเหตุสมผล ยืนยันว่าตนไม่นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ และพยายามรวบรวมหลักฐาน และเอกสารทั้งหมดเอาไว้
เมื่อถามอีกว่าดังกล่าวสามารถใช้กลไกของสภาฯ ได้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กลไกของสภาฯ ปัจจุบันก็ยังดำเนินการอยู่ ส่วนจะมีกลไกลอื่นเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ก็ขอให้รอติดตาม ตนไม่นิ่งนอนใจในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
เมื่อถามถึงการที่รัฐบาลประกาศศึกษานโยบายซีลชายแดนสองชั้น มองว่าเป็นเพียงการประกาศออกไป จะเป็นรูปธรรมได้จริงหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ปัจจุบันการซีลชายแดน ต้องอาศัยอำนาจใช้คนเทคโนโลยีและต้องใช้เงินหากมีแต่คำสั่งและเงินเท่าเดิม คนเท่าเดิมเทคโนโลยีเหมือนเดิมอำนาจเหมือนเดิมก็ไม่ต่างอะไรจากเดิม ขณะนี้ตนยังไม่รู้ และยังไม่อยากไปว่ารัฐบาลเยอะ เพราะเขาจะต้องทราบมาตรการการซีลชายแดน
นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ตนเคยลงไปสำรวจชายแดน ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ตามชายแดนโดยไปสำรวจเกี่ยวกับเรื่องกองกำลังสหรัฐว้า หรือกองกำลังว้าแดง (ยูดับบิ้วเอสเอ) ไม่ได้มีอะไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญจากรัฐบาล ดังนั้นหากรัฐบาลต้องการจะซีลชายแดน ต้องมีเงินมีทรัพยากร อำนาจ และคน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การซีลชายแดนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี