โค้งสุดท้ายหาเสียงเลือกตั้งอบจ.“ทักษิณ”ลุยช่วยหาเสียง“ลำพูน-เชียงใหม่”ทิ้งทวน มั่นใจ พท.ได้เกินครึ่งจากที่ส่ง ลั่น“ผมเป็นคนไทย” คุณสมบัติ“ผู้ช่วยหาเสียง”ถูกต้อง ตะเพิดพวก“นักร้อง”จ้องตีความไปทำมาหากินจะได้เจริญ ลั่นไม่กังวลหลัง“ป.ป.ช.”เรียก“เสรีพิศุทธ์”
เป็นพยานคดีป่วย“ชั้น 14” อย่าสนเรื่องจุกจิกเอาเวลาไปทำงานให้บ้านเมืองดีกว่าโวเลือกตั้งครั้งหน้า“เพื่อไทย”กลับเป็นอันดับหนึ่ง ได้ที่นั่งเกิน 200 เสียง เหน็บครั้งนี้มีพรรคร่วมเยอะทำงานได้ช้าโค้งสุดท้าย การหาเสียงศึกการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(นายก อบจ.)และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.)ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

เมื่อเวลา09.00 น.วันที่ 30 ม.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นวันที่สองในหาช่วยหาเสียงได้เดินทางมาไหว้พระธาตุหริภุญชัย อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีนายสมชาย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วย สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ร่วมด้วย ทันทีที่นายทักษิณพร้อมคณะมาถึงได้มีชาวบ้านและชาวเขาที่แต่งกายด้วยชุดชาติพันธุ์ยองและไทลื้อมารอต้อนรับ โดยทักทายนายทักษิณว่ายังหล่ออยู่เลย นายทักษิณ ก็ตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า“ผม75แล้วนะ”

‘ทักษิณ’แวะไหว้พระธาตุหริภุญชัย

จากนั้นนายทักษิณได้เข้าไปภายในอุโบสถ เพื่อกราบสักการะพระประธานและนมัสการพระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน โดยเจ้าคณะฯสอบถามนายทักษิณว่าสุขภาพดีขึ้นแล้วหรือยัง นายทักษิณได้ตอบว่า “ดีแล้ว แต่เพิ่งรู้ตัวว่าเฒ่า ตอนนั่งลงกราบพระ” เจ้าคณะฯกล่าวว่าไม่เฒ่าหรอก ส่วนอาตมาอายุ 69ปี จากนั้นทางเจ้าคณะได้ของบประมาณในการจัดซ่อมวัดในจังหวัดรวมถึงหอพักของเด็กที่ยังไม่ได้สัญชาติ

ทั้งนี้ ทางเจ้าคณะฯได้มอบพระรอดซึ่งมีพุทธคุณในด้านแคล้วคลาดปราศจากภัยอันตราย มีเสน่ห์ เมตตามหานิยมให้กับนายทักษิณ และคณะด้วยจากนั้นนายทักษิณได้กราบพระธาตุเป็นอันเสร็จพิธีก่อนเดินทักทายพี่น้องประชาชนที่มารอต้อนรับทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับนายทักษิณได้ตีฆ้อง 3 ครั้งเพื่อเป็นการสักการะพระธาตุซึ่งมีความเชื่อว่าการตีฆ้องจะเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา

โวเลือกอบจ.ได้เกินครึ่งจากที่ส่ง

เวลา09.20น.ที่วัดพระพระธาตุหริภุญชัย อ.เมืองจ.ลำพูน นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงการหาเสียงโค้งสุดท้ายศึกการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(นายก อบจ.)ภาพรวมเป็นอย่างไรว่า ดูดี พรรคเพื่อไทยน่าจะได้เกินครึ่งของที่ส่งส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นจะส่งผลการเลือกตั้งใหญ่หรือไม่ นายทักษิณระบุว่า พรรคเพื่อไทยต้องทำฐานตัวเองให้แข็งขึ้น โดยเฉพาะฐานรากที่เคยแข็งแล้วอาจจะหายไปช่วงตนไม่อยู่ ก็ต้องทำให้กลับมาเป็นเรื่องปกติของการแข่งขันทางการเมือง

ลั่นคุณสมบัติ‘ผู้ช่วยหาเสียง’ถูกต้อง

เมื่อถามย้ำว่ามีการตรวจสอบคุณสมบัติของท่านว่าจะไม่สามารถเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ นายทักษิณ กล่าวว่า“ผมเป็นคนไทย ผมมีสิทธิ์ในความเป็นคนไทยและคุณสมบัติไม่น่ามีปัญหาอะไร ผมคุณสมบัติถูกต้อง”

นายทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า หลายคนมองว่าอาจจะทำให้ผู้สมัครได้ใบแดงนั้น ส่วนตัวมองว่าอย่าไปตีความ ประเทศจะไปอย่างไรหายใจก็ตีความ ประเทศต้องอยู่ด้วยกัน วัตถุประสงค์ทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า อย่าไปใส่ใจอะไร คนที่คิดจะตีความคิดทั้งวัน หาเรื่องทั้งวัน งานการไม่มีทำ ไปทำมาหากินเถอะจะได้เจริญ”

เมื่อถามถึงที่นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาตั้งคำถามถึงเหมาะสมที่พรรคเพื่อไทย ส่งนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ เพราะอาจยังมีข้อครหาเกี่ยวข้องกับคดีบอสนายทักษิณ กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องหน้าที่การงาน

เมิน‘ทีมส้ม’ลุยหน้าดำคร่ำเครียด

ส่วนการลงพื้นที่หาเสียงของแกนนำพรรคประชาชนอย่างหน้าดำคร่ำเครียดทำให้มีความกังวลหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดา การเมืองก็เหมือนกีฬา เมื่อแข่งขันแล้วจบแล้วต้องทำงานร่วมกันเป็นเรื่องปกติ ส่วนกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้าออกมาระบุว่าไม่จำเป็นต้องขอมือไม้เพราะก่อนหน้านี้ก็มีคนของพรรคเพื่อไทยในอบจ.ทำไมไม่ทำนายทักษิณตอบว่าก็แล้วแต่ซึ่งการหาเสียงต้องจูงใจให้ประชาชนเห็นด้วย เห็นคล้อย เป็นเรื่องธรรมดา ก็การที่ต้องการมือไม้นั้น นี่คือรัฐบาลต้องการทำงานให้หยั่งลึกไปถึง ระดับชาวบ้าน การที่มีท้องถิ่นมาช่วยเป็นเรื่องที่ดี จริงๆแล้วพรรคก้าวไกตอนนั้นก็ประกาศว่าจะบุกท้องถิ่นอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เขาคิดมาตั้งแต่ตอนนั้น แต่วันนี้เขาถอยแล้ว เรื่องท้องถิ่น เป็นเรื่องที่ใกล้ชิดกับประชาชน หากเชื่อมโยงระดับรัฐบาลกลางได้จะทำเห็นปัญหาและการแก้ปัญหาของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ

แดง‘กินส้ม’กิมมิคทางการเมือง

ส่วนวลีที่ว่าถ้าอยากได้แบบเดิมให้เลือกแบบเดิม ถ้าคิดว่าแบบใหม่ดีกว่าก็ควรเลือกคนใหม่มองอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่าถ้าแบบเดิมยังดีอยู่ก็ยิ่งต้องเลือกแบบเดิมแต่แบบใหม่ยังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรเหมือนไปตายเอาดาบหน้า อะไรที่ดีอยู่แล้วก็ควรยึดต่อไป อะไรที่ไม่ดีก็เปลี่ยน เป็นเรื่องปกติ ไม่ดีก็ต้องเปลี่ยน ดีอยู่แล้วก็เลือกต่อ

ส่วนการปราศรัยบนเวทีที่บอกว่าตรุษจีนต้องใส่เสื้อแดง กินส้ม คายส้ม ทำให้นส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้าระบุว่า“ส้มมีประโยชน์ต่อสุขภาพประชาชน ไม่เหมือนสตรอเบอร์รี่ที่บอกหวานฉ่ำ แต่พอซื้อไปแล้วเปรี้ยว“ นายทักษิณ ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า เป็นกิมมิคทางการเมือง อย่าซีเรียสกับมัน

ไม่ห่วงชั้น14 อย่าสนใจเรื่องจุกจิก

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าเป็นห่วงคดีในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) หรือไม่ หลังพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวสหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ถูกเรียกไปเป็นพยานเรื่องอาการป่วยของท่านนายทักษิณ ตอบว่า “ไม่มีอะไรต้องกังวล อย่าไปสนใจเรื่องจุกจิกทำงานให้บ้านเมืองดีกว่า”

บุกลำพูนช่วย‘อนุสรณ์’หาเสียง

จากนั้น เวลา 09.40น.นายทักษิณ เดินทางไปที่สำนักงานผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)อนุสรณ์ วงศ์วรรณ เพื่อช่วยนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ ผู้สมัครนายกอบจ.ลำพูน พรรคเพื่อไทยหาเสียง ทันทีมาถึงมีประชาชนมารอให้การต้อนรับและฟังการปราศรัยจนเต็มพื้นที่

นายทักษิณกล่าวว่าสวัสดีพี่น้องชาวลำพูน ตนยังพูดคำเมืองได้อยู่ พูดยอง(ภาษาท้องถิ่น)ก็พอได้ ดีใจมากที่วันนี้ได้มาลำพูน มาครั้งสุดท้ายเมื่อปี2548หรือเมื่อ 20 ปีที่แล้ว พี่น้องชาวลำพูนหลายคนที่มาทักตน ตนจำหน้าได้ แต่หน้าตาก็แก่กันไปเยอะ สมัยที่ตนเป็นละอ่อนได้ไปป่าซางบ่อยเพราะสันกำแพงกับป่าซางเป็นเมืองที่ทอผ้าและป่าซางจะทำผ้านวมตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นเด็กอายุ 11-12 ปี ราคาผ้านวมตอนนั้น 195 บาทซื้อผ้าฝ้ายป่าซางไปขายที่สันกำแพงและเอาผ้าไหมที่สันกำแพงมาขายที่ป่าซาง

ผุดไอเดียลำพูนเป็นแฝดเชียงใหม่

“วันนี้เห็นลำพูนเจริญขึ้นกว่าแต่ก่อน ตนดูแล้วมีคนอยู่สองกลุ่มคือ แม่บ้านกลุ่มค้าขายกับกลุ่มเกษตรกรรม แม่บ้าน แต่เราจะต้องทำให้ลำพูนเป็นเมืองแฝดกับเชียงใหม่ เพราะหากลำพูนกับเชียงใหม่สามารถประชาสัมพันธ์ร่วมกันในเรื่องของวัฒนธรรมด้วยกันได้นั้น ก็จะทำให้เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น”นายทักษิณ ย้ำ

และว่ายังจำทางเลียบรถไฟลำพูนเชียงใหม่ได้หรือไม่ สมัยที่ตนเป็นนายกฯ ได้สั่งให้ทำฝั่งหนึ่ง แต่ตอนนี้อีกฝั่งยังไม่เสร็จ ตนก็คิดว่าต้องทำต่อเพื่อจะสามารถแก้ปัญหาการจราจรเชื่อมเชียงใหม่ลำพูนให้ได้ดีขึ้น และคิดว่าจะทำอย่างไรให้เชียงใหม่กับลำพูนเชื่อมเป็นเมืองแฝดกันให้ได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคมนาคม การจัดสรรงบประมาณ หรือแม้กระทั่งการสร้างแหล่งเที่ยวทางวัฒนธรรมร่วมกัน

ปลุกส่งเสริมท้องถิ่นกับรัฐบาล

นายทักษิณกล่าวด้วยว่า การบริหารประเทศมีความจำเป็นที่จะต้องให้รัฐบาลกลางได้เชื่อมกับท้องถิ่นให้ได้ ไม่เช่นนั้นงบประมาณจะลงไม่ถึงประชาชน ฉะนั้น วันนี้ที่ตนออกมาเดินสายเพื่อจัดส่งเสริมการเมืองท้องถิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางอบจ.แม้บางคนบอกว่ามือไม้ไม่เกี่ยว ไม่เกี่ยว ไม่ได้ แต่มือไม้ตรงนี้จะทำให้ประชาชนใช้งานรัฐบาลได้เต็มที่ เมื่อมาที่นี่ตนก็อยากขอให้นายอนุสรณ์เป็นนายกอบจ.ลำพูนอีกครั้งเพื่อจะได้ช่วยกันทำงานเพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำและมาขอให้เลือกนายอนุสรณ์เป็นนายกอบจ.อีกสมัยรวมถึงสจ.ใช้คนบ้านเราดีที่สุดเพราะสามารถพูดคำเมืองได้ ตนอยากแก้ปัญหาให้ประเทศเพราะไม่ได้อยู่มานาน17ปีมีหลายเรื่องจะปรับปรุงให้ดีขึ้น ออกไป17ปีกลับมาแล้วก็ยังแย่เหมือนเก่า

“เมื่อสักครู่ไปไหว้พระธาตุหริภุญชัยก็บอกว่าผมจากไป 17 ปีอย่าเพิ่งรีบเอาผมไปนะ ผมอยากรับใช้พี่น้องประชาชนเพื่อชดใช้เวลาที่หายไป พี่น้องอยากใช้ผมหรือไม่ ถ้าอยากใช้ ต้องขอมือไม้ให้ผม ขออบจ.และสจ.ให้ผมด้วย จะได้ช่วยสะท้อนปัญหาให้กันได้ ทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุขและมีโอกาสที่รัฐบาลส่วนกลางส่งมาผ่านนายกอบจ ขอให้เอาพรรคเดียวกันจะได้ใช้งานได้เต็มที่” นายทักษิณ กล่าว

โวได้เกิน200เสียง มั่นใจพท.อันดับ1

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่าเลือกตั้งครั้งหน้าก็ขอให้เลือกเพื่อไทยให้หมด ตนไปที่ไหนก็บอกว่าจะเอาให้เพื่อไทยกลับคืนมาเกิน 200 เสียง เพราะคราวที่แล้วได้น้อยไปหน่อย มีพรรคร่วมรัฐบาลเยอะทำงานได้ แต่ช้า คราวหน้าให้มีพรรคร่วมน้อยๆเอาเพื่อไทยเยอะๆรับรองว่าทำงานแล้วจะรวยเหมือนสมัยพรรคไทยรักไทย มันใหญ่ ทำงานได้เร็ว เพราะรัฐมนตรีอยู่ด้วยกัน อยู่สังกัดเดียวกันหมด ไม่มีเลศนัย เล่ห์เหลี่ยม

“มั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะกลับมาที่หนึ่งให้ได้ และได้ให้ถึง 200 กว่า ให้เลือกอบจ.ไว้ทำงานร่วมกันสองปี แล้วอีกสองปี เลือกตั้งใหญ่เราจะแก้ปัญหาประชาชนได้หมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด เรื่องเลียบทางรถไฟ และรัฐบาลจะพยายามเพิ่มรายได้ให้ประชาชนลดค่าใช้จ่าย ลดค่าน้ำมัน ลดค่าไฟฟ้า ทุกอย่างจะถูกปรับปรุง อะไรที่เอาเปรียบพี่น้องประชาชนจะถูกแก้ รวมถึงจะเปิดให้มีการค้าเสรี ไม่ให้มีเสือนอนกิน ฉะนั้น จึงขอให้ช่วยกันเลือกนายอบจ.และสจ.ให้เป็นมือไม้ให้ผม”นายทักษิณ กล่าว

ลงเดินลุยหาเสียงตลาดวโรรส

ต่อมา เวลา10.30น.นายทักษิณเดินทางมาที่ตลาดวโรรสหรือกาดหลวง จ.เชียงใหม่ ท่ามกลางการจัดเทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์นครเชียงใหม่ ทันทีที่มาถึง นายทักษิณได้ปรี่เข้าไปหานางอรุณศรี พวงพฤกษา หรือป้าศรี อายุ 84 ปี ที่รู้จักคุ้นเคยกันมานานเป็นบุคคลที่นายทักษิณต้องแวะมาหาทุกครั้งที่เดินทางมาที่กาดหลวงซึ่งได้พูดคุยกัน ป้าศรีบอกว่าได้นำภาพนายทักษิณตั้งแต่ที่มาหาตอนออกจากโรงพยาบาลแรกๆซึ่งเหลือเพียงภาพเดียวเพราะภาพอื่นถูกน้ำท่วมหมด นายทักษิณได้เซ็นชื่อในรูปดังกล่าว จากนั้นป้าศรี ได้มอบส้ม 5 ลูกพร้อมกับอวยพรนายทักษิณ ป้าศรีได้ถามนายทักษิณว่าจะปิ๊กมาอีกเมื่อไร นายทักษิณย้ำว่าเดี๋ยวจะกลับมารอให้หมดช่วงเทศกาลหาเสียงเลือกตั้งก่อน ขณะที่ป้าศรีบอกว่าอยากกินข้าวกับท่านสักมื้อ ซึ่งนายทักษิณ ก็รับปาก

เสียงตะโกนเชียร์ให้กำลังใจกระหึ่ม

จากนั้นนายทักษิณ ได้เดินหาเสียงในกาดหลวง ซึ่งมีบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนในตลาดส่งเสียงเรียกเพื่อขอถ่ายรูปและเซลฟี่กันเป็นจำนวนมาก พร้อมทักทายนายทักษิณ ว่า “ปิ๊กบ้านมาแล้วเน้อ”

ระหว่างเดินนายทักษิณได้ชี้ให้ทีมงานซื้ออาหารที่อยากทานกลับไปด้วย ก่อนร่วมถ่ายรูปหมู่ที่ถนนช้างม่อยโดยมีชาวบ้านตะโกนขึ้นว่า“ขอเสียงคนฮักทักษิณหน่อย”ซึ่งมีประชาชนรอต้อนรับและมอบดอกกุหลาบเพื่อเป็นการให้กำลังใจตลอดสองข้างทางที่นายทักษิณเดินพร้อมตะโกนว่า“เรารักทักษิณ เรารักทักษิณ”

ปชน.แซว‘เชียงใหม่ไม่ใช่ของใคร’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในขณะขบวนรถของนายทักษิณเลื่อนผ่านจากกาดหลวงไปยังร้านอาหาร“ข้าวซอยลำดวน”ปรากฏว่าได้เจอขบวนหาเสียงของนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่พรรคประชาชน ซึ่งได้โบกมือทักทายขบวนรถนายทักษิณและชูหมายเลขผู้สมัครก่อนมีเสียงปราศรัยของผู้ช่วยหาเสียงว่า“เชียงใหม่ไม่ใช่ของใคร” พร้อมแซวขบวนรถสื่อมวลชนว่า“สวัสดีสำนักข่าว มาทำข่าวเราบ้างนะ”

กกต.พร้อมการเลือกตั้งอบจ.

ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 4อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งสมาชิกสภาและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ประชุมรับฟังข้อมูลการเลือกตั้งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการเลือกตั้งที่เกี่ยวข้องในการนำเสนอรายงานผลการดำเนินงานและข้อมูลการเลือกตั้งรวมถึงให้ข้อแนะนำในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ประธาน กกต.ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจและอยู่ภายใต้กฎหมายที่กำหนด พร้อมทั้งให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับแนวทางในการทำงานเชิงรุกร่วมกับภาคีเครือข่ายเช่นดีเจประชาธิปไตย ศส.ปชต.และชุดเคลื่อนที่เร็วในการลงพื้นที่ป้องปรามและหาข่าวเกี่ยวกับการกระทำความผิดในการเลือกตั้ง โดยกำชับให้ขยายองค์ความรู้ให้ทุกภาคส่วนและประชาชนได้รับรู้ รับทราบและเข้าใจเกี่ยวกับการคุ้มครองพยาน การกันพยานและการให้เงินรางวัลตามที่ระเบียบฯกำหนด ถือเป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้ประชาชนมีความมั่นใจในการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดในการเลือกตั้ง

จับตาเข้มปราจีนบุรีตั้งจุดสกัด

วันเดียวกัน นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เดินทางไปร่วมสังเกตการณ์การอบรมกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง(กปน.)ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาและนายกอบจ.และส.อบจ.ปราจีนบุรีที่หอประชุมอำเภอศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี

ในช่วงเย็น เลขาธิการ กกต.จะนำคณะบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตั้งจุดสกัดตรวจค้นป้องปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งที่หน้าสภ.ประจันตคามและจะเดินทางไปที่อำเภอศรีมโหสถ เพื่อบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตั้งจุดสกัดตรวจค้นป้องปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งหน้า สภ.ศรีมโหสถ

‘อนุทิน’เชื่อ‘ชาดา’ไม่ซบ‘ธรรมนัส’

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวถึงกรณีที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส. อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ร่วมมือกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา แกนนําพรรคกล้าธรรมลงพื้นที่หาเสียงเพื่อสนับสนุนนายอับดุลลักษณ์ สะอิ ผู้สมัครนายกอบจ.นราธิวาสที่แข่งกับแชมป์เก่านายกูเซ็ง ยาวอหะซันว่า เรื่องนี้ตนเองไม่ทราบเพราะนายชาดาไม่ได้แจ้งตน แต่เชื่อว่าคงเป็นพวกกัน หรือญาติกันและนายชาดาก็ไม่ได้ลงไปในนามพรรคภูมิใจไทย และมั่นใจว่านายชาดา เป็นผู้ใหญ่ของพรรค จะอยู่พรรคภูมิใจไทย จะไม่ซบ ร.อ.ธรรมนัสเช่นเดียวกันกับน.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทยที่อยู่กับตนเองและทำงานได้เป็นอย่างดี น่ารัก มีผลงาน

ขอบคุณ‘อภิสิทธิ์’เมตตาหาเสียงอบจ.พัทลุง

เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯที่ลงพื้นที่ไปช่วยนายสาโรจน์ สามารถ ผู้สมัครนายก อบจ.พัทลุงที่มีความใกล้ชิดกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน แกนนำพรรคภูมิใจไทยจะถือว่านายอภิสิทธิ์เปลี่ยนมาอยู่สีน้ำเงินแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินทำหน้าแปลกใจและตอบว่าช่วงนี้ไม่ได้ติดตามข่าวเลย เพราะว่าตนวางตัวเป็นกลางกับการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงทุกคนก็มีหน้าที่ มีสิทธิที่จะแสดงบทบาททางการเมืองของตัวเอง แต่ถ้านายอภิสิทธิ์เมตตา เครือข่ายของนายพิพัฒน์ก็ถือเป็นความกรุณาของท่าน เมื่อถามอีกว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่นายอภิสิทธิ์จะย้ายมาอยู่เครือข่ายสีน้ำเงินนายอนุทินตอบว่าเป็นเรื่องที่ไกลไปที่จะพูดเรื่องนั้น