‘คนหนองคาย’ นับหมื่นร่วมฟังปราศรัยใหญ่เพื่อไทย ‘แกนนำพรรค-สส.’ เปิดเวทีโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง ‘นายก อบจ. - ส.อบจ.หนองคาย’ ชูความสำคัญ ‘ท้องถิ่น’ เชื่อมโยงนโยบาย ‘รัฐบาล’ ยกระดับคุณภาพชีวิต - พัฒนาเมืองหนองคาย
นายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.หนองคาย หมายเลข 2 พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย  ณ ลานวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดน นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย , นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และ สส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย อาทิ น.ส.ชนก จันทาทอง , นายเอกธนัช อินทร์รอด และ นายกฤษดา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  และอดีต ส.ส.หนองคาย ร่วมเวทีปราศรัย โดยพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดหนองคายร่วมรับฟังการปราศรัยและให้กำลังใจนับหมื่นคน 

โดยในการปราศรัย น.ส.ชนก ได้แนะนำผู้สมัคร ส.อบจ.หนองคาย ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย แล้วแนะนำ นายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.หนองคาย หมายเลข 2 ในนามพรรคเพื่อไทย พร้อมปราศรัยแนะนำตัว นำเสนอนโยบาย และการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดหนองคาย จากนั้นแกนนำพรรคเพื่อไทยได้สลับกันชึ้นปราศรัยสนับสนุนผู้สมัครนายก อบจ. และ ส.อบจ. พรรคเพื่อไทย โดยได้นำเสนอนโยบายของผู้สมัครทีมหนองคาย และผลงานของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ทั้งโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคจนมาถึง 30 บาทรักษาทุกที่ , การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่จะทำให้เห็นผลภายในปีนี้ , การลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน , , โครงการเติมเงิน 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศษฐกิจ และการเร่งแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมทั้งชี้ให้เห็นความสำคัญของจังหวัดหนองคาย เมืองชายแดนที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง จีน – ลาว ที่ในอนาคตจะเชื่อมไปถึงสหภาพยุโรป ซึ่งการบริหารงานท้องถิ่นมีความสำคัญในการเชื่อมโยงนโยบายรัฐบาลส่วนกลาง สานต่อความร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อผลักดันให้นโยบายต่างๆ สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างได้ผล พร้อมกันนี้ยังได้ขอให้ชาวหนองคาย เลือก ส.ส.หนองคาย ทั้ง 3 เขต เพื่อจะได้ทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีประชาชนชาวหนองคาย 

ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยพร้อมด้วยนายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นางสาวชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางลงพื้นที่ จ.หนองคาย ร่วมเวทีปราศรัยการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย โดยมี สส.หนองคาย ได้แก่ นางสาวชนก จันทาทอง ส.ส. เขต 2 พรรคเพื่อไทย นายเอกธนัช อินทร์รอด ส.ส. เขต 3 พรรคเพื่อไทย และนายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ อดีต สส. หนองคาย เขต 1 ร่วมด้วย

สำหรับพื้นที่ จ.หนองคาย พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครร่วมลงสนามนายก อบจ.  คือนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก เบอร์ 2 นักธุรกิจรุ่นใหม่ ฝีมือดี ที่แม้จะเป็นหน้าใหม่ของวงการการเมือง แต่ก็ได้รับการการันตีจากทางพรรคเพื่อไทย ว่าจะสามารถเข้ามาทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สานต่อนโยบายพรรคที่เชื่อมโยงกับนโยบายรัฐบาลในการช่วยยกระดับเมืองหนองคายให้เป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ 

นางสาวจิราพร กล่าวว่า รัฐบาลทำนโยบายภาพใหญ่ ที่กระจายประโยชน์สู่ทุกจังหวัดทั่วไทย แต่ละจังหวัดจะพัฒนาหรือเจริญล้ำหน้ากันแค่ไหน ส่วนหนึ่งมาจากการพัฒนาท้องถิ่น ในส่วนของ จ.หนองคาย เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ เป็นเมืองการค้าชายแดนที่สำคัญ มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เป็นมหาประตูสู่อินโดจีน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา รัฐบาลของท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีวิสัยทัศน์ในการวางระบบคมนาคมของประเทศ สร้างรถไฟความเร็วสูง เชื่อมจากจีน ลาว ต่อมายังไทย โดยพาดผ่านพื้นที่จังหวัดหนองคาย เคยตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ใช้ภายในปี 2020 หรือ พ.ศ. 2563 รถไฟความเร็วสูงยุครัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์จึงเป็นความหวังของผู้ประกอบการ นักธุรกิจ เป็นความฝันของพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศที่จะได้ใช้ประโยชน์จากรถไฟความเร็วสูงนี้ 

“ครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล มาสานต่อโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน เพื่อเชื่อมโยงเอาความเจริญ เอาความมั่งคั่งกลับมาให้พี่น้องชาวหนองคาย และพี่น้องชาวไทย กระทรวงคมนาคม ยืนยันแล้วว่า รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่จะเชื่อมจากกรุงเทพ-หนองคาย-ลาว-จีน จะเสร็จในปี 2573 ซึ่งจะทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากมายที่ จ.หนองคาย  และจะทำให้ จ.หนองคาย ไม่ใช่จังหวัดเมืองรองอีกต่อไป จะกลายเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์สำคัญ เป็นประตูมังกรที่เชื่อมสู่อินโดจีน” นางสาวจิราพร กล่าว 

พรรคเพื่อไทยมองว่า จ.หนองคาย เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาเพื่อรองรับการค้าและการท่องเที่ยว ดังนั้น อบจ.หนองคาย ต้องบริหารงานท้องถิ่นโดยเชื่อมประสานกับรัฐบาลแบบไร้ร้อยต่อ จะทำให้หนองคายสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ เป็นจังหวัดแห่งโอกาสของชาวหนองคายทุกคน