จับตาสมช.ถกความมั่นคง3ก.พ.

ตัดไฟเมียนมา

รวมข้อมูลชง‘กฟภ.’ไปพิจารณา

โพลล์ชี้ปชช.กว่า80%หนุน

ลดอาชญากรรมข้ามชาติได้

เลขาฯสมช.นัดถก 3 กุมภาพันธ์ รวมข้อมูลความมั่นคงส่งให้กฟภ.พิจารณาตัดไฟชายแดนเมียนมา ด้านซูเปอร์โพลเผยปชช. 81.1%เห็นด้วยตัดไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้าน ลดอาชญากรรมข้ามชาติ ปราบ “ยาเสพติด-ค้ามนุษย์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์”

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ พิจารณาระงับการจ่ายไฟพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ที่ต้องสงสัยว่าอาจเป็นฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลา 08.30 น.ตนจะเป็นประธานประชุมร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องที่สมช. เพื่อประมวลข้อมูลด้านความมั่นคงก่อนจะส่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) พิจารณาดำเนินการและหารือกับคู่สัญญา ซึ่งการส่งข้อมูลให้ กฟภ.เป็นไปตามที่กระทรวงมหาดไทยทำหนังสือสอบถามความคิดเห็น สำหรับผู้ที่จะร่วมประชุมวันที่ 3 กุมภาพันธ์มี 7-8 หน่วยงาน อาทิ กองทัพ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศและกฟภ.ขอย้ำว่า การดำเนินการต่างๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย

ด้านนายชาญวิชย์อริยวรนันต์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เปิดเผย ผลสำรวจเรื่องประชาชนคิดอย่างไรต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีการตัดไฟฟ้าประเทศเพื่อนบ้าน แก้อาชญากรรมข้ามชาติ โดยสอบถามประชาชน 1,143 คนระหว่างวันที่ 31 มกราคม-1 กุมภาพันธ์ พบว่า ร้อยละ 81.1 ประชาชนเห็นด้วย ถึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง ในการตัดไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อลดอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งกระบวนการยา การค้ามนุษย์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขณะที่ร้อยละ 18.9 ส่วนเรื่องความเห็นต่อการจัดระเบียบชายแดนของนายอนุทินพบว่า ร้อยละ 85.7 เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง ส่วนร้อยละ 14.3 ระบุไม่เห็นด้วยถึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ ร้อยละ 55.3 เชื่อว่ามาตรการตัดไฟจะช่วยลดอาชญากรรมข้ามชาติได้ผลดีมีประสิทธิภาพสกัดสิ่งผิดกฎหมาย 152.8 เห็นว่าควรเพิ่มมาตรการอื่น ร่วมกับจัดอาชญากรรมข้ามชาติ เช่นมาตรการทางกฎหมาย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศโจมตีเครือข่ายออนไลน์ขบวนการค้ายาเสพติดเสพติด ค้ามนุษย์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีระบบแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่รัฐของไทย และประชาชนคนไทยตามแนวชายแดน

ขณะที่ร้อยละ 44.4 ต้องการให้รัฐบาลสามัคคีกัน ใช้มาตรการเด็ดเด็ดขาด แก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติมากกว่าการขัดกัน ส่วนร้อยละ 43.9 เห็นว่าควรจัดตั้งหน่วยงานพิเศษ ตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ต้องสงสัย และดำเนินการเฉพาะจุด และร้อยละ 13.7 ระบุว่ากังวลต่อการตัดไฟฟ้าจะกระทบต่อประชาชนคนไทยทั่วไปในพื้นที่ชายแดน ภาคธุรกิจชาวบ้านทั่วไป