ก.แรงงานรอรับ
5แรงงานชาวไทย
กลับจากอิสราเอล
เล็งจ่ายเยียวยาเพิ่ม
“พิพัฒน์” รมว.แรงงาน เตรียมรับ5 แรงงานไทย กลับจากอิสราเอลจ่อหารือเยียวยาเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำหรับแรงงานไทยที่ได้รับการปล่อยตัวจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอลนั้น ขณะนี้ ทั้ง 5 คนอยู่ระหว่างการกักตัวเพื่อตรวจสุขภาพก่อนจะเดินทางกลับมาไทย ซึ่งมาถึงไทยก็ไม่ต้องกักตัวเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานจะติดตามเรื่องค่าเยียวยาจากทางรัฐบาลอิสราเอลให้กับแรงงาน ส่วนเมื่อกลับมาถึงไทยแล้ว ทางกระทรวงฯ ก็น่าจะมีการหารือเพื่อเยียวยาในส่วนของประเทศไทยต่อไป ทั้งนี้ ตนยังไม่ทราบกำหนดการเดินทางกลับของแรงงานทั้ง 5คน แต่ทางกระทรวงฯ ก็เตรียมความพร้อมในการไปต้อนรับที่สนามบิน
ขณะเดียวกัน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมจังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นพื้นที่ภูมิลำเนาของแรงงานไทยทั้ง 5คน ลงพื้นที่ร่วมกับคณะส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัด เยี่ยมให้กำลังใจ แสดงความห่วงใยแก่ครอบครัวของแรงงานไทย พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จากสำนักประกันสังคม หากแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ มีความประสงค์เข้าสู่ระบบประกันสังคม ก็สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา40 ซึ่งจะได้รับการคุ้มครองสูงสุดถึง 5กรณี ได้แก่ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย กรณีชราภาพและกรณีสงเคราะห์ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม พร้อมให้การดูแลแรงงานทุกกลุ่มให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีหลักประกันทางสังคมที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นแรงงานที่อยู่ในประเทศไทย หรือที่ออกไปทำงานต่างแดนก็ตาม
สำหรับ 5คนไทยให้สัมภาษณ์หลังได้รับการปล่อยตัว โดย นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา เปิดเผยว่า รู้สึกดีมากที่ได้มานั่งตรงนี้ สุขภาพรวมๆ ตอนนี้ถือว่าดี ตนเองบ้านอยู่บุรีรัมย์ ได้คุยกับที่บ้านเขาดีใจที่ได้ออกมาอย่างปลอดภัย ออกมาแล้วทานอาหารปกติ ได้กินอาหารไทยมื้อแรก อร่อยมาก เมื่อคืนได้กิน ไก่ ส้มตำ ซูชิ ก็ดีใจ “ที่ผ่านมากินอาหารบ้านเขา เช่น แป้ง ซีส ถั่วที่กินกัน ถามว่าอิ่มไหม พออยู่ได้ ลำบากมากกับเรื่องความเป็นอยู่ แต่มาถึงวันนี้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เหมือนได้ชีวิตใหม่ รู้สึกดีใจมาก ขอแค่ได้มีชีวิตออกมาผมโอเคแล้ว”
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า มีความหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีคนมาช่วยได้ออกมาปลอดภัย ตลอดเวลาตนเองคิดถึงหน้าลูกไว้ก่อน คิดถึงลูก คิดถึงครอบครัวมาก สิ่งที่เป็นกำลังใจคืออยากเจอลูกสาว อายุ 15 ปี อยากกลับบ้านไปเจอตัวจริง เพราะไม่ได้เจอลูกมากว่า 7 ปีแล้ว ตั้งแต่ลูกสาวอายุ 7 ขวบ
ด้าน นายบรรณวัชร แซ่ท้าว ก็รู้สึกเช่นเดียวกันว่า ดีใจมาก ในขณะตกเป็นตัวประกัน ก็ไม่ได้อยู่ดี แต่สุขภาพไม่ได้แย่มาก ก็พอกินได้ และแน่นอนว่าอยากกลับบ้าน “เราจากบ้านมานาน คิดถึงครอบครัว ได้ออกมาแล้วในใจโล่งขึ้นเยอะ สบายใจมาก อยู่ที่นู่นไม่รู้จะได้กลับมาบ้านจริงไหม คิดอยู่ตลอดว่าเวลาเขาออกมา เขาจะทำอะไรเราไหม แต่เขาปลอบใจเรา ว่าไม่ทำอะไรเรา เป็นห่วงเราบ้าง ถามว่าจะกินอาหารเขาได้ไหม ซึ่งเราก็ต้องกินเพื่อให้อยู่ได้ พวกเขาอยู่ด้วยกัน3คน จึงพอจะได้พูดคุยเป็นกำลังใจกันได้ และช่วยกันเป็นกำลังใจว่าสักวันหนึ่งเราจะได้กลับบ้านอย่างแน่นอน’
นายพงษ์ศักดิ์ เล่าว่า ตนอยู่คนละแคมป์กับนายบรรณวัชร แต่ขึ้นรถคันเดียวกัน เขาจะแยกไปอยู่คนละที่ ตลอดเวลา 1 ปี ไม่เคยเจอกัน ไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงดาว เราไม่รู้สถานการณืข้างนอกเลย มีแค่แสงลอดผ่านกระจกเข้ามา อยุ่ในสภาพห้องสี่เหลี่ยม ทางกลุ่มฮามาสจะอาหารมาให้ ส่วนการน้ำ 4 - 5 วันให้อาบครั้งหนึ่ง ก็พอจะอยู่ได้
นายวัชระ ศรีอ้วน ก็ดีใจที่ได้ออกมา ตลอดเวลามีความหวังว่าต้องได้ออกไป คิดว่าทุกคนต้องมาช่วยเหลือเรา ตนเองมีลูกสาวเป็นกำลังใจ อยากออกมาหาพ่อแม่ กลับบ้านไปอยากเจอลูกสาวและครอบครัวอยากมีเวลาพักผ่อนกับครอบครัว
ทั้งนี้ ตัวประกันทั้ง 5 คน ยอมรับว่า ตลอดเวลาที่ถูกควบคุมตัวก็พยายามดูแลตัวเอง ทานอาหารที่ถูกจัดมาให้ทำให้ไม่ซูบผอม และดีใจที่ได้ทานอาหารไทยและหวังจะได้กลับไปทานอาหารที่บ้านกับครอบครัว
ขณะที่ นายสุรศักดิ์ ลำเนา ก็ดีใจที่ได้โทรศัพท์คุยกับพ่อแม่แล้ว ตนรอวันนี้มานาน พยายามนอนไม่คิดอะไรมาก ตนเองไม่มีภรรยา ไม่มีลูก อาจเป็นข้อดีข้อหนึ่ง “ผมไม่ท้อ มั่นใจว่าต้องมีความพยายามช่วยให้ได้ ถ้าเราไม่ขัดขืน ทำตามคำสั่ง ก็ไม่เป็นอะไร ก็ปกติคุยกันพอรู้เรื่อง ไม่ได้ท้อ ส่วนตัวคิดว่ากำลังใจเป็นเรื่องสำคัญคิดเรื่องดีๆ อะไรที่พอมีกำลังใจก็คิดไป”นายสมศักดิ์ กล่าว
นายเสถียร สุวรรณคำ ก็ดีใจที่จะได้กลับประเทศไทย ตลอดกว่า 1ปี เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก และมีเวลาที่ท้อบ้าง แต่พวกเราก็คุยกัน คิดว่าคงได้ออกมาสักวันหนึ่ง”ถ้าถามว่า อยากกินอะไรมากที่สุดตอนนี้ น่าจะเป็นพวกลาบ ต้มแซ่บ ซอยจุ๊ อะไรแบบนี้ครับ” นายเสถียร และนายสุรศักดิ์ ตอบมาพร้อมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี