มติ 'ตัดไฟฟ้า-เนต-น้ำมัน' 5จุดแก๊งคอลฯ
'สมช.'ลงดาบ!
ดีเดย์ 9 โมงเช้า 5 กุมภาพันธ์
ชี้กระทบความมั่นคงปท.
ดูดเงินปชช. 8.6 หมื่นล้าน
แจ้งความแล้ว 5.5 แสนคดี
“นายกฯอิ๊งค์” ยันจัดการเด็ดขาดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลั่นต้องดูแลคนไทยก่อน ตัดไฟได้เลยถ้าทุกอย่างชัด “ภูมิธรรม” ทุบโต๊ะสั่ง“กฟภ.”ตัดไฟ“เมืองแก๊งคอลฯ” ฮึ่มเกียร์ว่างเจอยืมตัวช่วยราชการ ยกระเบียบ กฟภ.มีอำนาจตัดไฟได้เลย ไม่จำเป็นต้องเข้าครม. ด้าน“อนุทิน” แจงต้องรอคำสั่ง“ภูมิธรรม” ยันพร้อมทำตามทันที ระบุไม่ใช่เรื่องใหม่เคยตัดมาแล้ว 3 จุด ขณะที่ สมช.ประชุมก่อนใช้มาตรการเข้ม
เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงอำนาจสั่งตัดไฟในเมืองชายแดนเมียนมา ภายหลังจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พบเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า เรื่องไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบรุนแรง การขายไฟฟ้าให้เมียนมาเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2535-2537 ซึ่งเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ออกมา 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ ให้ขายไฟให้เมียนมา ต่อมาให้ขายไฟได้ตามแนวชายแดน โดยไม่จำเป็นต้องเข้า ครม.และให้ดำเนินการได้ตามแนวทางปฏิบัติที่แท้จริง ดังนั้นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) มีอำนาจตามระเบียบของ กฟภ.โดยเฉพาะในข้อ 51.1 และ 51.2 กฟภ.งดจ่ายไฟฟ้าได้หากพิจารณาเห็นว่าการจ่ายไฟฟ้ากระทบความมั่นคงของชาติ
ตัดไฟได้ทันที ไม่ต้องเข้าครม.
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับผลกระทบที่เกิดต่อความสงบเรียบร้อยภายในประเทศขณะนี้ ตนเห็นว่ามันมีปัญหา วัดจากข้อมูลของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นปัญหากระทบต่อประชาชนขณะนี้ ข้อมูลจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ได้รับรายงานมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า มิ.ย.65-มิ.ย.67 คนไทยตกเป็นเหยื่อกว่า 5 แสนคน สร้างความเสียหายกว่า 6 หมื่นล้านบาท วันนี้ตนจะสั่งการไปยัง สมช.ให้แจ้ง กฟภ.เรื่องนี้รุนแรง จะต้องไปดำเนินการให้ตัดไฟทันที ไม่ใช่มารอโยกไปมาเหมือนที่เกิดขึ้นและกำลังเป็นปัญหา ให้แจ้ง กฟภ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บังคับหน่วยส่วนไหนหรือผู้รับผิดชอบหน่วยไหน หากไม่ปฏิบัติให้เกิดผลโดยทันที ตนจะยืมตัวมาช่วยราชการ ขอให้ปฏิบัติทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ยืนยันว่าการตัดไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องเข้า ครม.
เมื่อถามอีกว่า เมืองเมียวดีซื้อไฟจากเราถึง 90% ถ้าตัดจะดับทั้งหมด นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขาต้องควบคุมคนของเขา เพราะอยู่ในพื้นที่ของเขาเอง หากปล่อยให้พื้นที่เหล่านั้นสร้างปัญหาให้กับประเทศเขาก็ต้องรับผิดชอบด้วย และต้องการจัดการทันทีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้จบ หากไม่จบก็ต้องรับผล เราไม่ใช่แม่พระใจดี ส่งขายไฟให้และทำอะไรแบบนั้นแล้วเรายังนิ่งเฉยอยู่หรือ
‘อนุทิน’ย้ำพร้อมตัดไฟถ้ามีคำสั่ง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี นายภูมิธรรมระบุสามารถออกสั่งตัดไฟในชายแดนเมียนมาได้เลย ว่า รอทาง สมช. ชี้แจงดีที่สุด เนื่องจากเมื่อวาน (3 ก.พ.68) ได้มีการประชุมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทุกหน่วยงานที่ไปประชุม มีความเห็นตรงกันว่าจะให้ทางสมช. รวบรวมข้อมูลทั้งหมดและนำเสนอนายภูมิธรรม ในฐานะประธาน สมช. ฉะนั้นหากมีข้อสั่งการอย่างไรมาก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม แต่ไม่ใช่ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะไปหยุดจ่ายไฟเองได้ทันที ซึ่งไม่ใช่อย่างแน่นอน หากนายภูมิธรรมเซ็นคำสั่ง เราก็พร้อมที่จะตัดไฟในทันที เพราะถือเป็นการสั่งการที่มีกฎหมายรองรับ
ส่วนกรณีที่ สมช. บอกว่าจะต้องมีหลักฐานต่างๆ ก่อนตัดไฟนั้น นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า สมช. เรียกประชุมและมีข้อสรุปออกมาเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกัน คนที่ไปประชุมก็ได้รายงานกลับมาให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว ส่วนจะตัดในพื้นที่ใดนั้น ให้เป็นไปตามรายงาน แต่วันนี้ยังไม่มีคำสั่งอะไรมา และยังไม่มีการชี้จุดเลยว่าแหล่งที่ทำผิดกฎหมายที่ใช้ไฟจากประเทศไทย เกิดผลเสียหาย และกระทบกับประเทศไทยอยู่ตรงจุดไหนบ้าง ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาเคยตัดไฟฟ้าไปแล้ว 3 แห่ง เพราะฉะนั้นการตัดไฟฟ้าจากประเทศไทยที่พิสูจน์ทราบได้ชัดและมีการแจ้งมาอย่างถูกต้อง ได้ดำเนินการไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่ และหากจะมีการตัดไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจะต้องมีการแจ้งมาอย่างถูกต้อง
จีนมอบคลิปศูนย์กลางแก๊งคอลฯ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ของนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ชายแดน จ.ตาก ว่า ทางจีนได้ทำหนังสือมายังสถานทูตจีน แล้วส่งมาที่กระทรวงยุติธรรม โดยถือโอกาสมาเยี่ยมคารวะ และมาพูดคุยถึงความร่วมมือเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงการฉ้อโกงทางออนไลน์ และทราบว่าจะไปพบหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย อาทิ ปปง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ป.ป.ส. นอกจากนี้ นายหลิว ยังให้ข้อมูลเป็นคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการกระทำผิดของประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นศูนย์กลางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งได้ส่งเรื่องให้ดีเอสไอและ ป.ป.ส. ไปขยายผล โดยเห็นว่ามาตรการทางกฎหมายที่ไทยมีอยู่ จะมี พ.ร.บ.ความร่วมมือการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ โดยอาจต้องดึงอัยการสูงสุดเข้ามาร่วม เพราะเป็นเหตุเกิดนอกราชอาณาจักร เข้าข่าย พ.ร.บ.อาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ว่าต้นทาง ปลายทาง หรือทางผ่าน สามารถดำเนินคดีได้ โดยเฉพาะเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดกับจีน ฮ่องกง โดยประเทศไทยเป็นทางผ่าน
‘นายกฯอิ๊งค์’ลั่นถ้าชัดเจนก็ตัดได้เลย
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม. ว่า ที่ประชุมได้สั่งการให้ นายภูมิธรรม เรียกประชุม สมช. ด่วน เพื่อพิจารณามาตรการต่างๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อถามว่า จุดยืนเรื่องการตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เป็นปัญหาโยนกันไปมาในตอนนี้ ระหว่างกระทรวงมหาดไทย กับ สมช.นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ที่ตนพูดใน ครม.ก็ไม่มีความลังเลว่าถ้าสุดท้ายแล้วเราดูเรื่องชายแดนชัดเจนก็ตัดไฟได้เลย และเรื่องของน้ำมันก็ไม่ต้องส่ง เพราะถึงอย่างไรเราต้องโอบอุ้มและดูแลคนของเราก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อคนไทยและภาพลักษณ์ของประเทศมากมาย ตรงนี้ถ้าเราเห็นใจและเรียงลำดับไม่ถูกต้องจะเกิดปัญหายาวนานและต่อเนื่อง สิ่งที่ประเทศไทยเจอหนักหน่วงกับเรื่องนี้ ฉะนั้น ต้องเป็นมาตรการที่เข้มข้น และถึงเวลาแล้วที่ต้องเรียกคุยกันและจัดการเลย
เมื่อถามว่า ในสัญญาขายไฟฟ้า เราสามารถตัดไฟได้ทันทีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า “ได้ทันทีคะ” เมื่อถามว่า ต้องเอาผิดผู้ที่อยู่เบื้องหลังตรงนี้อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน ไม่สามารถปล่อยไปได้ เพราะเรื่องนี้เราจริงจัง และเป็นเรื่องระดับชาติที่ทุกประเทศกังวล ถ้าเราจับได้แล้วไม่ดำเนินการเราก็จะเสียความน่าเชื่อถือ
ไม่กังวลว่าจะเจอตอหรือไม่
เมื่อถามย้ำว่า กังวลจะเจอตอหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ไม่กังวล” เมื่อถามว่า นายภูมิธรรมได้สั่งการ สมช.ให้แจ้งไปยัง กฟภ. เพื่อตัดไปแก๊งคอลเซ็นเตอร์ น.ส.แพทองธาร ได้หันไปทางนายภูมิธรรม ที่ระบุว่า “สั่งการแล้ว และจะรีบประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงตามบัญชานายกฯ”
เมื่อถามว่า ได้ขีดเส้นหรือไม่ว่าจะตัดไฟวันไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ให้ลงไปวันนี้” ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ น.ส.แพทองธาร ใช้นิ้วชี้ลงไปที่โพเดียมแถลงข่าว และพูดว่า วันนี้ได้เลยคะ ถ้าคุยแล้วมันชัดเจนแล้ว ก็วันนี้เลยคะ
ให้“ภูมิธรรม”ตัดสินใจได้ทันที
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม. นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการกรณีเรื่องของปัญหาที่มีอยู่ในเรื่องการตัดน้ำ หรือไฟ ไปยังประเทศเพื่อนบ้านของไทยว่า การกำกับเรื่องมาตรการการตัดน้ำตัดไฟในพื้นที่ชายแดนของ สมช. หากมีข้อมูลของการกระทำผิด ขอให้ นายภูมิธรรม เรียกประชุมกับทาง สมช. เพื่อพิจารณาในมาตรการต่อไปอย่างชัดเจน โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ และความปลอดภัยของประชาชนคนไทย และประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ หากต้องตัดก็ให้ดำเนินการ
ผช.รมว.มั่นคงฯจีนหารือ‘ภูมิธรรม’
เมื่อเวลา 14.50 น. นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมด้วย นายอู๋ จื้ออู่ อัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย พร้อมคณะ เดินทางมาที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อร่วมพูดคุยกับ พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัศมี เลขานุการ รมว.กลาโหม, พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ปรึกษา รมว.กลาโหม และ พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมหารือกันเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์บริเวณแนวชายแดนไทยเมียนมา หลังจากนั้น นายหลิว จงอี ได้พูดคุยกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นการส่วนตัว
‘ภูมิธรรม’ถก สมช. เคาะตัดไฟ
ต่อมา เวลา 17.00 น. นายภูมิธรรม ได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. วาระเร่งด่วน ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพิจารณาจะตัดไฟบริเวณชายแดนเมียนมา ซึ่งเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี