ยังมีมนต์ขลัง-ยกเป็น‘จอมยุทธ์’
‘หนู’อวย‘แม้ว’
ศึกอบจ.จบ/มองข้ามช็อตเลือกตั้งใหญ่
‘อิ๊งค์’สั่งพท.ถอดบทเรียน
เตรียมรับศึกเลือกตั้งปี’70
“นายกฯอิ๊งค์”ตื่นเต้นเตรียมบินเยือนจีนคุย “สี จิ้นผิง” เผย“ทักษิณ” กลับจากมาเลย์แล้วหลังพบ“อันวาร์”เข้ารายงานตัวศาลภายใน 3 วัน“อิ๊งค์” ร่วมประชุมสส.เพื่อไทยลุยถอดบทเรียนสนามนายกอบจ.“แพ้-ชนะเพราะอะไรเตรียมเรียกผู้สมัครนายกอบจ.ทั้ง“ชนะ-แพ้”เข้าหารือแลกเปลี่ยนเพื่อเตรียมรับศึกเลือกตั้งใหญ่ปี’70“สุริยะ-จิราพร”ต่างยัน“ทักษิณ” ยังไม่สิ้นมนต์ขลังหลายจังหวัพท.ล้มแชมป์เชื่อไม่กระทบเลือกตั้งใหญ่‘อนุทิน”บอกศึกอบจ.จบแล้วขอมองไปเลือกตั้งปี70อวย‘ทักษิณ’ยังขลังยกเป็น‘จอมยุทธ์’ใครดูแคลนมีแต่หายนะ‘ปกรณ์วุฒิ’เผย7ก.พ.ดินเนอร์‘พรรคร่วมฝ่ายค้าน‘ถกยื่น‘ซักฟอกรบ.’
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์2568 ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศสอบถามถึงความรู้สึกที่จะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 5 - 8 ก.พ.นี้ นายกฯ กล่าวว่า ตื่นเต้นมากๆ คิดว่าจะเป็นทริปที่ดีทริปหนึ่ง เมื่อถามว่าการเดินทางในครั้งนี้จะไปหารือในประเด็นใดบ้าง นายกฯกล่าวว่า จะคุยหลายประเด็นกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้เตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
‘อิ๊งค์’เผย‘ทักษิณ’กลับจากมาเลย์แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เสร็จสิ้น น.ส.แพทองธารเปิดเผยเพียงสั้นๆว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ เดินทางกลับมาแล้วจากประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยจะต้องเข้ามารายงานตัวต่อศาลอาญาภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางกลับ โดยในวันเดียวกันนี้นายทักษิณยังไม่เดินทางเข้ารายงานตัว ภายหลังศาลอาญาอนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อเดินทางไปประเทศมาเลเซียเข้าพบนายอันวาร์อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนปีนี้เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าวันศุกร์ที่ 7 ก.พ.เวลา 10.30 น.นายทักษิณ เป็นประธานจดทะเบียนสมรสระหว่างนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯและนายสุไพรพล ช่วยชู ที่สำนักงานเขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
‘อิ๊งค์’ประชุมสส.พท.ถอดบทเรียนอบจ.
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสส.พรรคเพื่อไทยช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ว่าตนจะเข้าร่วมประชุม สส.พรรคเพื่อไทยโดยในที่ประชุมจะได้พูดกันถึงผลการเลือกตั้ง อบจ.ที่ผ่านมา เพราะเป็นเรื่องสำคัญ
“ต้องดูว่าเราชนะเพราะอะไร ไม่ชนะเพราะอะไร คงได้รับฟังคนในพรรคด้วยว่าระหว่างหาเสียงเจออะไรบ้าง อยากได้อะไรที่สนับสนุนเพิ่มขึ้นบ้าง อันนี้ต้องทำงานร่วมกันกับพรรค”น.ส.แพทองธาร ระบุ
เมื่อถามว่าเหมือนนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ช่วยหาเสียง จะไม่พอใจผลการเลือกตั้ง น.ส.แพทองธาร ย้อนถามสื่อว่า “เหรอ ไม่นะ ผู้ช่วยหาเสียงให้สัมภาษณ์หรือ”ผู้สื่อข่าวถึงถามว่า เหมือนอยากได้มากกว่านี้ ผลที่ออกมาไม่ตรงเป้า น.ส.แพทองธาร จึงกระเซ้ากลับมาว่า “ก็อยากได้ทั้ง 16 นั่นแหละ”
อิ๊งค์ร่วมถกสส.คุยผลเลือกอบจ.
เวลา15.00น.ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมประชุม ส.ส.และบุคลากรทางการเมืองประจำสัปดาห์ โดยมีรัฐมนตรี แกนนำพรรค สส.พรรค คณะกรรมการบริหารพรรคพท.เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดย น.ส.แพทองธารกล่าวในที่ประชุมกับว่าสวัสดีสมาชิกพรรควันนี้มีเรื่องที่ต้องประชุมหลายเรื่อง โดยเฉพาะจะมาคุยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ผ่านมา
ขอบคุณส.ส.-ทีมงานช่วยหาเสียง
จากนั้น เวลา 16.00น. นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทยแถลงผลการประชุมสส.พรรคประจำสัปดาห์ว่าที่ประชุมได้มีการพูดถึงวาระต่างๆที่จะเข้าพิจารณาในที่ประชุมสภาในวันที่5-6 ก.พ.นี้ โดยเรื่องหลักๆที่พูดคุยกันจะเป็นเรื่องการเลือกตั้งนายกอบจ.เมื่อวันที่1กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
“โดยนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ได้ให้ความสนใจในเรื่องการเลือกตั้งว่าพรรคเพื่อไทยได้มาทั้งหมด 10 เก้าอี้และได้มีการพูดคุยกันว่ามีความคาดหวังบางจังหวัดว่าควรจะได้แต่พลาดไป จังหวัดที่เป็นพื้นที่แย่งชิงบางพื้นที่ก็ประสบความสำเร็จ โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณส.ส.และทีมงานทุกคน ที่ช่วยกันหาเสียงจนทำให้การเลือกตั้งผ่านพ้นไปด้วยดี”โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
เตรียมพร้อมรับเลือกตั้งใหญ่ปี70
นายดนุพร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ทางพรรคมีความคิดว่าจะเชิญผู้ที่ลงนายกอบจ.ทุกจังหวัดมาพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีที่ทำการพรรคเพื่อไทยโดยจะเชิญเป็นรายจังหวัดทั้งจังหวัดที่ได้รับการเลือกตั้งและจังหวัดที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง โดยท่านนายกฯ อยากรับทราบปัญหาที่แท้จริงว่าทำไมบางจังหวัดเราถึงแพ้การเลือกตั้ง และบางจังหวัดเราชนะเพราะว่าเรื่องอะไรบ้าง เพื่อที่จะเก็บข้อมูลต่างๆเป็นการเตรียมความพร้อมในการที่จะเลือกตั้งใหญ่ในปี 2570 จึงอยากได้ข้อมูลในเรื่องนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้น
เรียกผู้สมัครอบจ.ชนะ-แพ้หารือ
“โดยท่านนายกรัฐมนตรีมีกำหนดไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการในวันที่5 -8 กุมภาพันธ์ นี้และหลังจากกลับจากการเยือนประเทศจีนแล้วจะได้นัดหมายให้ทุกจังหวัดที่ชนะหรือแพ้สลับสับเปลี่ยนมาพูดคุยกับท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อมานั่งแลกเปลี่ยนกันถึงปัจจัยต่างๆว่าเกิดขึ้นจากอะไรและการที่จะได้ส.ส.ในปี 2570นั้น คิดว่าเราควรจะมีนโยบายอะไรหรือต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง วันนี้ก็ได้รับการตอบรับจากสส.เป็นอย่างดี ในการแบ่งกลุ่มที่จะเชิญผู้สมัครนายกอบจ.แต่ละจังหวัดมาพบกับท่านนายกรัฐมนตรีต่อไป”โฆษกพรรคเพื่อไทย ย้ำทิ้งท้าย
‘สุริยะ’ปัด‘ทักษิณ’เสื่อมมนต์ขลัง
ก่อนหน้านี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นไปตามเป้าหรือไม่ ว่า“ผมคิดว่าเราส่ง16ได้มา10ถือเป็นเรื่องที่พึงพอใจ”เมื่อถามว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านายทักษิณ ชินวัตร มนต์เสื่อมแล้วใช่หรือไม่นายสุริยะตอบว่าไม่เกี่ยวข้องเพราะเป็นเรื่องของการเมืองท้องถิ่น ตนขอย้ำว่าบ้านใหญ่ยังมีความสำคัญอยู่
ยันผลอบจ.ไม่มีกระทบสนามใหญ่
ส่วนจะประเมินถึงสาเหตุที่บางพื้นที่ไม่ได้หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่าคิดว่าเป็นบทพิสูจน์ว่าการเมืองท้องถิ่นบ้านใหญ่ยังมีอิทธิพลอยู่แต่พอการเมืองระดับชาติระดับสส.ก็เป็นอีกบริบท ตนขอยืนยันว่าการแข่งขันในระดับอบจ.ไม่มีผลต่อการเมืองสนามใหญ่ และการเลือกตั้งครั้งหน้า
ส่วนเรื่องที่พรรคเพื่อไทยต้องทำงานหนักเรามีการประเมินตัวเองตลอดเวลา และสส.ก็ทำงานในพื้นที่ตลอด พร้อมทั้งนำปัญหาต่างๆในพื้นที่มาประสานกับรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหา และผลักดันนโยบายให้เป็นไปตามเป้าหมายส่วนพรรคเพื่อไทยจะปรับรูปแบบการทำงานเพื่อไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่นายสุริยะ กล่าวว่า ทุกสัปดาห์พรรคจะมีการประชุมด้านยุทธศาสตร์ แกนนำจะมีการประเมินผลอยู่ตลอดเพื่อนำไปปรับปรุง
‘จิราพร’ยัน‘แม้ว’ไม่สิ้นมนต์ขลัง
น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงภาพรวมผลการเลือกตั้งนายกอบจ.โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯสิ้นมนต์ขลังไม่สามารถนำเข้ามาได้ทั้งหมดที่ลงไปช่วยหาเสียง ว่า ส่วนตัวคิดว่านายทักษิณไม่ได้เสื่อมมนต์ขลัง โดยนายทักษิณลงไปช่วยหาเสียง 9 จังหวัด และหลายจังหวัดเป็นพื้นที่พรรคเพื่อไทยท้าชิงและบางจังหวัดไม่มี อบจ.พรรคเพื่อไทย มา 20 กว่าปี ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยสามารถล้มแชมป์เอาชนะได้หลายแห่ง เช่นหนองคาย ,มหาสารคาม และนครพนม ต่างไม่มีพรรคเพื่อไทยเป็นอบจ.ถือเป็นครั้งแรกที่เราได้มา
ย้ำกำลังใจยังดีอยู่ลุยถอดบทเรียน
เมื่อถามที่มีบางจังหวัดที่นายทักษิณไปช่วยแต่น่าเสียดายเช่นจ.เชียงรายจะทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยเสียกำลังใจหรือไม่ น.ส.จิราพรกล่าวว่าทุกคนก็คงต้องตั้งใจทำงานช่วยเหลือประชาชนต่อไป เพราะเรายังคงมีสส.ในพื้นที่ที่ดูแลประชาชนอย่างตลอด ทั้งนี้เราก็ต้องเอาข้อมูลมาเป็นบทเรียน สิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจากอะไร ซึ่งจ.เชียงราย ก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่เราท้าชิง แต่ถึงอย่างไรทุกคนก็ยังมีกำลังใจดีอยู่
‘อนุทิน’ย้ำเลือกอบจ.จบแล้ว/มองไปปี70
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการประเมินการเลือกตั้งนายกอบจ.ว่าจะมีผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตหรือไม่ว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรตอนนี้ทุกอย่างจบแล้วต้องมองไปข้างหน้า แข่งขันกันเสร็จก็กลับมาทำงานทำประโยชน์ให้บ้านเมืองด้วยกันต่อไป
“อย่าแยกสีแยกฝ่าย เวลาเลือกตั้งก็เลือกตั้งกันไปเดี๋ยวปี2570 ก็มาแข่งกันใหม่ ผลออกมาเป็นอย่างไร ตัวเลขเป็นอย่างไร จะรวมกันอย่างไร ใครเป็นรัฐบาล ใครเป็นฝ่ายค้านก็มีรูปแบบของมันอยู่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลาทุก2 ปี 3 ปี 4 ปี ซึ่งทุกพรรคการเมืองต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา”นายอนุทิน ย้ำ
อวย‘แม้ว’จอมยุทธ์-ไม่สิ้นมนต์ขลัง
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิจารณ์หลังผลการเลือกตั้งออกมาว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีสิ้นมนต์ขลังแล้ว นายอนุทินกล่าวว่า“ไม่มีหรอกสิ้นมนต์ขลัง จอมยุทธ์ก็คือจอมยุทธ์ ใครลองไปว่าท่านสิ้นมนต์ขลังดู คงจะประสบความหายนะอย่างยิ่ง อย่างที่ไม่เคยคาดการณ์หรือประมาณอะไรได้ ไม่มีหรอกครับ ยิ่งน่ากลัว“
ไม่โกรธ’ไล่หนูตีงูเห่า’ลีลาหาเสียง
เมื่อถามว่าจากวลี“ไล่หนูตีงูเห่า” จนถึง“การเมืองท้องถิ่นอย่าให้คนนอกเข้ามายุ่ง” เรื่องนี้ได้คุยหรือเคลียร์กันหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าไม่ต้องเคลียร์อะไร เป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้าจะโกรธก็ตั้งแต่สมัยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว ที่ประกาศไล่หนูตีงูเห่า พอถึงเวลาก็ร่วมรัฐบาลกัน ท่านก็เชิญไปกินช็อคมิ้นต์ที่ตึกโอเอไอ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยเก่า ทุกอย่างอย่าไปคิดมากไม่เช่นนั้นจะทำอะไรไม่ได้ ถึงเวลาหาเสียงเลือกตั้งก็ใส่กันไป เป็นบทบาทลีลาในการหาเสียง ทำให้ตัวเองประสบชัยชนะ
อย่าดูถูกปชช.ชี้อยู่ที่การทำงาน
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าปัจจัยในการชี้ขาดการเลือกตั้งครั้งนี้มาจากกระสุน นายอนุทินกล่าวว่า ถ้ากระสุนเป็นปัจจัยชี้ขาด คิดว่าทุกคนจะชนะหมด พร้อมยกตัวอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าว่ามีฐานะทางบ้านเป็นอย่างไร ตนคูณสิบ คูณยี่สิบยังไม่ได้ครึ่งของนายธนาธรเลย คิดว่ากระแสและความสามารถในการสร้างความเชื่อมั่น เป็นเรื่องสำคัญที่สุดอยู่ที่ใครทำงานพร้อมถามว่าจังหวัดบุรีรัมย์กระสุนหรือไม่ ทำไมคะแนนห่างกัน อย่าดูถูกประชาชนอยู่ที่การทำงาน
‘พิพัฒน์’พอใจนายกอบจ.ใต้เข้าวิน
ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ในฐานะแกนนำภาคใต้ พรรคภูมิใจไทยกล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีเครือข่ายของพรรคภูมิใจไทยว่า พอใจ และถือว่าเป็นพรรคพวกกัน ซึ่งเราพยายามพูดคุยกัน หากพื้นที่ไหนน่าสนใจและมีสส.จะเข้าไปดูแลและประสาน อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการเลือกตั้งนายก อบจ. ภาคใต้ ยอมรับว่ามีสิ่งที่ผิดพลาดคือพื้นที่ จ.พัทลุงและสงขลา เพราะเราพยายามใช้นโยบายการเมืองสีขาว ที่ผ่านมาเดินหาเสียงอย่างเดียวซึ่งได้คะแนนมาพอสมควรโดยที่พัทลุงได้มา 9หมื่นกว่าคะแนน ส่วนที่สงขลาได้มา1.3แสนคะแนน ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เป็นคะแนนบริสุทธิ์ะทำได้รู้ว่าพื้นที่ไหนคนสนใจพรรคภูมิใจไทย เมื่อถึงการเมืองใหญ่เราจะได้เข้าไปประสานดูแลพื้นที่ต่อไป
เลือกตั้งใหญ่ได้สส.ใต้มากกว่าเดิม
ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยได้นายกอบจ.ในหลายจังหวัดภาคใต้มองว่าอาจจะได้สส.มากที่สุดใน พื้นที่ภาคใต้ การเลือกตั้งครั้งหน้า นายพิพัฒน์กล่าวว่า เรื่องนี้ยังมีระยะเวลาอีกนาน ปัจจุบันมีหลายพรรคเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม อาทิประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐรวมถึง จ.ภูเก็ตที่เป็นพื้นที่พรรคประชาชน เราต้องพยายามต่อไป อย่างการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเราได้มา 12 ที่นั่ง จาก 14 จังหวัดภาคใต้ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนและผลงาน
เมื่อถามย้ำว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะได้สส.มากที่สุดในภาคใต้ นายพิพัฒน์ตอบว่าเรื่องนี้ไม่สามารถพูดได้ แต่ละพรรคมีพื้นที่ของตัวเอง ในฐานะที่ดูแลพื้นที่ภาคใต้พรรคภูมิใจไทยจะพยายามทำให้ดีที่สุด อย่างการเลือกตั้งครั้งล่าสุด พรรคภูมิใจไทยได้มาถึง 12 ที่นั่ง และเชื่อว่าปี 70 จะได้มากกว่าเดิม
ดินเนอร์‘ฝ่ายค้าน7ก.พ.ถกซักฟอก
ในขณะที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเนื่องจากวันที่ 7 ก.พ.จะมีการนัดดินเนอร์กับพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าเนื้อหาสาระสำคัญคงจะไม่ใช่เป็นการดินเนอร์จุดประสงค์หลักของการนัดพูดคุยในวันที่ 7 ก.พ.นี้ถือเป็นการนัดประชุมแกนนำพรรคแต่ละพรรคที่พรรคไทยสร้างไทยซึ่งจะเป็นการพูดคุยกันเรื่องเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นการร่วมพูดคุยกันในการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการตรวจสอบพรรคร่วมรัฐบาล หลังจากที่ประชุมและแถลงข่าวร่วมกันแล้วจะมีการรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน
ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านอาจจะไม่จำเป็นต้องเห็นตรงกันทุกเรื่อง บางเรื่องอาจจะเห็นต่างกันได้ แต่อยากให้ทำงานตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นร่วมกัน
เล็งมีนาคมเปิดซักฟอก/ไม่ชัดประเด็น
เมื่อถามถึงประเด็นที่จะอภิปรายได้วางกรอบไว้แล้วหรือไม่ว่าจะมีทั้งหมดกี่ประเด็น ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ยังไม่ได้สรุปไฟนอลถึงขนาดนั้น เพราะยังต้องมีการเจรจากับทางวิปรัฐบาลและประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยว่าเราจะมีเวลามากแค่ไหนเพราะเวลาก็จะสัมพันธ์กับคนและประเด็นที่เราจะอภิปรายด้วย แต่จะพยายามทำให้ประเด็นที่เราเห็นว่าสำคัญสามารถอภิปรายได้ครบ รวมถึงอาจต้องมีการเจรจาเวลาคร่าวๆกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
นายปกรณ์วุฒิ ยอมรับว่าได้พูดคุยกับวิปรัฐบาลอย่างไม่เป็นทางการเรื่องกรอบเวลาที่วางไว้เดือนมีนาคมนั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่จะอภิปรายในช่วงมีนาคม ส่วนจะเป็นสัปดาห์ไหนต้องคุยกันอีกครั้ง ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคจะขออภิปรายประเด็นใดเป็นพิเศษนั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเป็นทางการ แต่จะมีการพูดคุยในวันที่ 7 ก.พ.นี้ซึ่งคิดว่าก็คงไม่มีปัญหาอะไร หากประเด็นซ้ำกันก็คงจะมีการพูดคุยกันก่อนว่าในหนึ่งประเด็นนั้นอาจจะมีประเด็นย่อยที่แตกต่างกัน ก็สามารถแบ่งกันได้
เชื่อไม่มีหนอนบ่อนไส้ในฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่าสามารถจัดการกับประเด็นที่อาจจะรั่วไหลได้แล้วหรือไม่นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีปัญหาน้อยเพราะไม่ต้องส่งไฟล์พรีเซ็นเทชั่นให้ประธานสภาฯตรวจสอบล่วงหน้าซึ่งปัญหาที่จะไปแอบดึงไฟล์พรีเซนเทชั่นจากเจ้าหน้าที่ก็เป็นไปไม่ได้ ทุกคนจะได้เห็นตอนอภิปรายพร้อมกันเลย เมื่อถามว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะไม่มีหนอนบ่อนไส้ในพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายปกรณ์วุฒิ ตอบว่า“มั่นใจไม่มีที่ผ่านมาผมคิดว่าหากเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ก็ไม่มีปัญหานี้ แต่การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา152ที่มีปัญหา ผมคิดว่าคงไม่ใช่เพราะฝ่ายค้านไปแจ้งแต่เป็นเพราะใครบางคนพยายามที่จะไปหาข้อมูลจากเจ้าหน้าที่มากกว่า”
จองขย่มนายใหญ่-เน้นบริหารบกพร่อง
เมื่อถามว่าจะได้เห็นการอภิปรายที่โยงถึงผู้นำจิตวิญญาณของรัฐบาลหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ใช่ตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องพฤติการณ์ที่เป็นไปตามหลักนิติรัฐนิติธรรม เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ที่ไม่ว่าจะกระทำต่อผู้ใด แต่หากเป็นการกระทำของรัฐบาลที่ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องพูดและโยงไปถึง ส่วนโทนการอภิปรายจะเป็นด้านใด นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ทั้งหมดเพราะที่ผ่านมาการอภิปรายของพรรคก้าวไกลจนมาพรรคปชน.กระจายทุกเรื่อง ไม่เน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หากเรื่องใดที่เราเห็นว่าเป็นความบกพร่องของรัฐบาล เราก็พิจารณาที่จะอภิปรายหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี