‘ชูศักดิ์’ชงวิป 3 ฝ่ายส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความทำ‘ประชามติ’กี่ครั้ง เชื่อรับพิจารณา เนื่องจากเกิดความขัดแย้งแล้ว ทำ‘สส.-สว.’ไม่กล้าโหวต ‘วันนอร์’บรรจุวาระเข้าที่ประชุมสภา 13-14 ก.พ.
เมื่อเวลา 10.10 น.วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้วิปทั้ง 3 ฝ่าย จะมีการหารือถึงทิศทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 13-14 ก.พ. โดยมีการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตราและการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ประกอบด้วย ร่างของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีความกังวลจากสมาชิกว่าสุดท้ายแล้วจะต้องทำประชามติ 2 ครั้งหรือ 3 ครั้ง ตนจึงได้เสนอผ่านไปทางวิปรัฐบาลให้มีการยื่นรัฐธรรมนูญตามมาตรา 210 ให้วินิจฉัย ว่าสามารถทำประชามติได้กี่ครั้ง ซึ่งการยื่นวินิจฉัยครั้งนี้ แตกต่างจากครั้งก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัย เพราะครั้งนี้ นายวันมูหะนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้บรรจุระเบียบวาระเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคนที่จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้รับเป็นสส.หรือ สว.ก็ได้
นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ สามารถยื่นได้ทันทีหรือจะประชุมไปแล้วก็สามารถยื่นได้ และเชื่อว่าทำให้ทุกคนสบายใจ เพราะหากเดินหน้าต่อไปอาจจะทำให้ สส.และสว.หลายคนเกิดความกังวลและไม่กล้าพิจารณาโหวตรัฐธรรมนูญ แต่ทั้งนี้ตนไม่เห็นด้วย ที่จะให้มีการคว่ำการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปเสียก่อนเพราะจะเป็นการเสียของ
นายชูศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า สมมุติหากศาลวินิจฉัย ให้เดินหน้าทำประชามติแค่ 2 ครั้ง ส่วนจะยึดร่างของพรรคเพื่อไทยที่ไม่แก้ในหมวด 1 และ 2 แต่ในส่วนของพรรคประชาชน นั้นเสนอให้มีการแก้ไขทั้งฉบับ เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันขอให้ผ่านขั้นตอนแรกไปก่อน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี