‘จตุพร’ชวนจับตา‘แพทยสภา’ขยับผลตรวจสอบจรรยาบรรณหมอ‘รพ.ตำรวจ’ เชื่อเป็นข่าวดีทำ‘ทักษิณ’สั่นไหว สะเทือนบ่อนกาสิโนล้มไม่เป็นท่า ฟาดปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์‘ตัดเนต’กี่โมง
7 กุมภาพันธ์ 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน จัดรายการเฟซบุ๊คไลฟ์เมื่อวันที่ 6 ก.พ.68 ว่า ประมาณกลางสัปดาห์หน้า แพทยสภาจะขยับผลตรวจสอบจรรยาบรรณแพทย์รักษานายทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยรายละเอียดการสอบสวนจะไม่เป็นข่าว แต่คงไม่แตกต่างจากการสอบสวนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ซึ่งไม่เชื่อนายทักษิณ ป่วยจริง
“ในกลางสัปดาห์หน้าจะเห็นการขยับการตรวจสอบของแพทยสภา ซึ่งคงไม่เป็นข่าว แต่ทำให้เรารับรู้ถึงความคืบหน้าที่จะสามารถชี้ได้ชัดอย่างหนึ่งว่าเราต้องฝากความหวังไว้ที่องค์กรนี้ เพราะเมื่อแพทยสภาขยับแล้ว รายละเอียดต่างๆต้องส่งไปที่ ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”
นายจตุพร กล่าวว่า กรณีการตรวจสอบของแพทยสภานั้น แม้ รพ.ตำรวจไม่ส่งเวชระเบียนให้แพทยสภาครบถ้วน โดยส่งเพียงบางส่วน ส่วน ป.ป.ช.ขอเวชระเบียนกลับไม่ส่งให้เลย จึงสงสัยว่าต้องมีอะไรปกปิด ดังนั้น ป.ป.ช.ควรต้องดำเนินคดีตามกฎหมายในกรณีไม่ส่งเอกสารตามที่ร้องขอไป
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าผลสอบสวนของ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้ว ตั้งแต่ ผบ.ตร. แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ คงไม่มีใครนั่งนิ่งกันได้ ส่วนแพทยสภามีคำตอบเบื้องต้นแล้ว ซึ่งจะเป็นความคืบหน้า และผลตรวจสอบคาดจะออกมาไม่แตกต่างจากความเห็นของ กสม. ที่ไม่เชื่อว่านายทักษิณป่วยจริงถึงขั้นต้องนอน รพ.
“ถ้าจัดการชั้น 14 ให้ถูกต้องแล้ว ก็สามารถหยุดยั้งบ่อนกาสิโนและการพนันออน์ไลน์ได้ พูดง่ายๆว่าประเทศเราจะไม่มีแก๊งชเวโก๊กโก่มาตั้งอยู่กลางเมืองประเทศไทยอย่างถูกกฎหมายได้”
นายจตุพร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามแม้ท่าทีรัฐบาลขณะนี้ เร่งแสดงอาการขึงขังเอาจริงกับการตัดไฟและหยุดส่งน้ำมันไปพม่า รวมทั้ง กสทช. อืดอาดกับการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตชายแดนเพื่อหยุดแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทยและคนจีน แต่อย่าคิดว่าแก๊งพวกนี้จะหยุดแค่นี้ ดังนั้นถ้าแต่ละประเทศร่วมมือกันปราบอย่างจริงจังแล้ว แก๊งพวกนี้จะไม่มีพื้นที่บัญชาการหลอกลวงได้เด็ดขาด
นายจตุพร เสนอว่า เมื่อนายกฯอุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร ไปจีน ควรไปดูเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่จีน ว่า สร้างโดยไม่มีบ่อนการพนันได้อย่างไร และต้องเรียนรู้วิธีการสร้างชาติโดยไม่สร้างบ่อนการพนันของจีนด้วย
“การทำอบายมุขครบวงจรนั้น ขอให้คิดกันสักหน่อยว่าคนไม่เทาจะทำธุรกิจแบบนี้เหรอ อีกอย่างแม้รัฐบาลมีเสียงข้างมากสามารถผ่านกฎหมายบ่อนกาสิโนในสภา แต่ถ้าประชาชนตื่นตัวแล้ว เสียงในสภาจะไม่มีความหมาย โดยจำบทเรียนกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยซึ่งผ่านสภาท่วมท้น เมื่อประชาชนลงถนนคัดค้าน จนต้องถอนกลับมาซุกเก็บเงียบไว้ ไม่นำมาพิจารณาอีกเลย”
นายจตุพร กล่าวว่า แม้รัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาสามารถยกมือโหวตให้กฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรผ่านได้ แต่ถ้าขาดความชอบธรรมแล้ว เสียงข้างมากย่อมไม่มีความหมายและรัฐบาลก็พังได้เช่นกัน เพราะนอกสภาต้องเจอกับประชาชนเจ้าของประเทศจะยินยอมหรือไม่กับการตั้งบ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย
นายจตุพร กล่าวว่า บ่อนกาสิโน ถ้าไม่พ่วงการพนันออนไลน์ด้วย ก็ไม่มีใครหน้าไหนมาลงทุน อีกอย่างเจ้าหน้าที่ชักช้ากับการปราบพนันออนไลน์ คงแอบหวังให้แก๊งพวกนี้ไปสังกัดเป็นเครือข่ายกับบ่อนกาสิโนที่ตั้งขึ้นกลางเมืองไทยอย่างถูกกฎหมายก็เป็นได้
“เมื่อทักษิณเข้ามาไทยก็มีปัญหาอยู่แล้ว ถ้าคิดจะอยู่ในไทยนาน คุณต้องเลิกจะทำบ่อนกาสิโน ถ้าต้องการจะอยู่สั้นก็ทำเลย ซึ่งเราจะดูคนไทยเหมือนกันว่า จะยอมให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ได้อย่างไร เพราะบ่อนสร้างแต่ความฉิบหาย ไม่ได้สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเลย”
นายจตุพร กล่าวว่า บ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์จะทำให้ประเทศพังยิ่งกว่าโครงการจำนำข้าว รวมทั้งรถคันแรก และบ้านเอื้ออาทร แล้วยังพังมากกว่าการแปลงสัญญาสัมปทาน เพราะคนถ้าเป็นผีการพนันแล้ว จะลุกลามราวกับเป็นเมืองซอมบี้ ซึ่งไม่เหลือสภาพบ้านเมืองเลย
“การแก้ไขพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น ต่อไปพนันออนไลน์จะมาถูกกฎหมายในไทย จึงถือว่า เหมือนกับการยกชเวโก๊กโก่มาไว้ที่ไทย ไม่ต้องมีปัญหาอีกแล้ว แต่ไทยจะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเทาแทนที่” นายจตุพร กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี