‘ทักษิณ’รับงาน‘อันวาร์’
กาวใจคุยอาเซียน
จ่อขออนุญาตศาล
บินไปทำงานตปท.
“ทักษิณ” เผย คุย “อันวาร์” ขอให้ช่วย 2-3 เรื่อง บอกเตรียมคุยผู้นำประเทศในอาเซียน แก้ปัญหาความขัดแย้ง ระบุต้องขออนุญาตศาลบินนอกประเทศไปทำงาน
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปประชุมร่วมกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ประธานอาเซียน ขอให้ตนช่วย 2-3 เรื่อง ซึ่งเรื่องแรกเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับบ้านเราคือเรื่องประเทศเมียนมา เพราะการสู้รบในเมียนมาทำให้อาเซียนถูกลดความสำคัญลงไปเยอะ ประธานอาเซียน จึงไม่อยากให้ประเทศในอาเซียน มีการปกครองที่ผิดปกติ จึงอยากให้ตนคุยกับทุกฝ่ายที่ขัดแย้งกันอยู่ และในประเทศอาเซียนตนก็รู้จักเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคงจะต้องหาเวลาเดินทางไปพบกับผู้นำทุกฝ่ายเพื่อพูดคุยกันต่อไป
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า เรื่องที่สองคือเรื่องที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เริ่มคริปโต เคอร์เร็นซีในสหรัฐอเมริกาแล้ว แต่หากประเทศอาเซียนไม่ขยับ เราก็จะเสียเปรียบ จึงอยากให้ตนซึ่งสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษได้ทำข้อเสนอแนะให้อาเซียน โดยประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย จะเป็นสามประเทศหลักที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้ นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ โดยปัญหาภาคใต้ว่าเราจะแก้ปัญหาร่วมกันอย่างไร โดยจะต้องทำให้เบาบางหรือจบลงเร็วที่สุด
เมื่อถามว่า ต้องขออนุญาตศาลออกไปใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “แน่นอน” เมื่อถามต่ออีกว่าแนวโน้มจะได้ออกไปหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ผมไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปทำงานให้บ้านเมือง”
เมื่อถามว่า สถานการณ์ในภาคใต้ต่อจากนี้จะดีขึ้นใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า น่าจะดีขึ้น เพราะเราคุยกันลึกๆ ว่ามีอะไรที่เป็นสาเหตุ อะไรที่ทำให้เราดับไฟไม่ได้ น่าจะมีความร่วมมือที่ดี
วันเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน จัดรายการเฟซบุ๊คไลฟ์ว่า ประมาณกลางสัปดาห์หน้า แพทยสภาจะขยับผลตรวจสอบจรรยาบรรณแพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยรายละอียดการสอบสวนจะไม่เป็นข่าว แต่คงไม่แตกต่างจากการสอบสวนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ซึ่งไม่เชื่อทักษิณ ป่วยจริง
“ในกลางสัปดาห์หน้าจะเห็นการขยับการตรวจสอบของแพทยสภา ซึ่งคงไม่เป็นข่าว แต่ทำให้เรารับรู้ถึงความคืบหน้าที่จะสามารถชี้ได้ชัดอย่างหนึ่งว่า เราต้องฝากความหวังไว้ที่องค์กรนี้ เพราะเมื่อแพทยสภาขยับแล้ว รายละเอียดต่างๆ ต้องส่งไปที่ ปปช. เพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”
อีกทั้งกล่าวว่า กรณีการตรวจสอบของแพทยสภานั้น แม้ รพ.ตำรวจไม่ส่งเวชระเบียนให้แพทยสภาครบถ้วน โดยส่งเพียงบางส่วน ส่วน ปปช.ขอเวชระเบียนกลับไม่ส่งให้เลย จึงสงสัยว่า ต้องมีอะไรปกปิด ดังนั้น ปปช.ควรต้องดำเนินคดีตามกฎหมายในกรณีไม่ส่งเอกสารตามที่ร้องขอไป
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าผลสอบสวนของ ปปช.ชี้มูลความผิดแล้ว ตั้งแต่ ผบ.ตร แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ คงไม่มีใครนั่งนิ่งกันได้ ส่วนแพทยสภามีคำตอบเบื้องต้นแล้ว ซึ่งจะเป็นความคืบหน้า และผลตรวจสอบคาดจะออกมาไม่แตกต่างจากความเห็นของ กสม. ที่ไม่เชื่อว่า ทักษิณป่วยจริงถึงขั้นต้องนอน รพ.
“ถ้าจัดการชั้น 14 ให้ถูกต้องแล้ว ก็สามารถหยุดยั้งบ่อนกาสิโนและการพนันออนน์ไลน์ได้ พูดง่ายๆว่า ประเทศเราจะไม่มีแก๊งชเวโก๊กโกมาตั้งอยู่กลางเมืองประเทศไทยอย่างถูกกฎหมายได้”นายจตุพร ย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี