‘ปชน.-รทสช.’ตามสับไม่ยั้ง
ลอยแพ‘สส.ปูอัด’
เปิดทางส่งตร.ดำเนินคดี
ชี้คดีข่มขืนสภาไม่เกี่ยว
‘เทพไท’เตือนเป็นบทเรียน
ทำภาพลักษณ์ผู้แทนเสือม
“สส.ปูอัด” อาการหนัก หัวหน้าเท้ง เผยพรรคประชาชน จะไม่โหวตคุ้มครองหลังต้องคดีฉาว ข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน ชี้เป็นเรื่องส่วนตัวสภาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ด้าน รองโฆษก รทสช. เตือน สส.ฝ่ายค้านฉาวคนเดียว ระวังเหม็นทั้งประเทศฝ่าย”เทพไท”ระบุคดีข่มขืนนักท่องท่องเที่ยวไต้หวันคือบทเรียน ทำเสื่อมเสียภาพลักษณ์ นักการเมือง
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “สส.ปูอัด : บทเรียนของพรรคส้ม” ระบุว่าผมเห็นข่าวศาลจังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ สส.ปูอัด พรรคไทยก้าวหน้า ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศแล้ว รู้สึกหดหู่ใจที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ โดนหมายจับในข้อหาเช่นนี้ นำความเสื่อมเสียมาสู่ภาพลักษณ์ของนักการเมือง ซึ่งเป็นอาชีพที่มีต้นทุนทางสังคมต่ำอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ภาพของนักการเมืองคนที่เป็นส.ส.ตกต่ำมากขึ้นไปอีก
เตือนต้องระมัดระวัง
จนทำให้มีการเคลื่อนไหวในหมู่สส.และนักการเมืองกันอย่างหลากหลาย เช่น กลุ่มแรกต้องการที่จะให้สส.ปูอัด แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองโดยการลาออก ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของสส.ปูอัด ที่จะพิจารณาในเรื่องนี้ กลุ่มที่สอง เห็นว่าถ้าหากศาลมีหมายจับให้นำตัวสส. ไปดำเนินคดีในระหว่างสมัยประชุมสภา ขอให้ที่ประชุมมีมติ ส่งตัวสส. ปูอัดไปดำเนินคดีโดยไม่ควรปกป้อง เพราะเจตนารมณ์เรื่องเอกสิทธิ์การดำเนินคดีในระหว่างสมัยประชุม ต้องเป็นคดีเกี่ยวกับการเมือง
ผมได้ติดตามบทบาทของสส.ปูอัดมาตั้งแต่สมัยเป็นสส.พรรคก้าวไกล และครั้งแรกถูกข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ จนพรรคก้าวไกลต้องขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค มาสังกัดพรรคไทยก้าวหน้า และถูกข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศอีกครั้ง
สส.หนุ่มสาวน่าเป็นห่วง
แม้ว่า สส.ปูอัด จะถูกขับออกจากการเป็น สส. ของพรรคก้าวไกล หรือพรรคประชาชนไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมี สส.ของพรรคประชาชน ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอยู่บ่อยๆ ซึ่งพอจะเข้าใจได้ว่า
1.สส.พรรคประชาชน ที่ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว เป็นคนรุ่นใหม่ ย่อมมีความสุ่มเสี่ยงเกี่ยวกับประเด็นชู้สาว ให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ
2.สส.พรรคประชาชน ตกอยู่ในเป้าการตรวจของฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองอย่างใกล้ชิด เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นมา ก็จะจับมาเป็นประเด็นขยายผลทันที
3.สังคมเรียกร้องมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมของสส.พรรคประชาชน สูงกว่าพรรคการเมืองอื่น
ในฐานะที่เป็นนักการเมืองคนหนึ่ง อยากเสนอแนะต่อผู้บริหารพรรคประชาชน เกี่ยวกับการคัดเลือกตัวผู้สมัคร สส.ในการเลือกตั้งปี 2570 ว่า ควรคัดเลือกบุคคลที่มีคุณภาพ ภาพลักษณ์ดี ไม่มีประวัติเสื่อมเสีย ด่างพร้อย เข้ามาเป็นผู้สมัครในนามพรรค เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกผู้สมัครในระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อได้ โดยไม่ตะขิดตะขวงใจเหมือนกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่คะแนนของผู้สมัครในระบบเขตบางเขตคะแนนน้อยมาก ไม่สัมพันธ์กับคะแนนสส.ระบบบัญชีรายชื่อ ที่มีคะแนนสูง
จึงขอฝากความเห็นนี้ไปยังผู้บริหารพรรคประชาชน เพื่อพิจารณาคัดตัวผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อประโยชน์ของพรรค และภาพลักษณ์ของการเมืองไทย
“เท้ง”เปิดทางส่งตัวให้ตร.
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ถูกศาลออกหมายจับในคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน ว่า เป็นเรื่องของตัวบุคคล แต่ส่วนตัวเห็นว่า ผู้แทนราษฎรไม่ควรใช้เอกสิทธิ์ สส.คุ้มครองการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขณะที่การโหวตให้ตำรวจมาคุมตัวนายไชยามพวานนั้น เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค การใช้เอกสิทธิ์ สส.มีเจตนารมณ์ก็เพื่อมุ่งหวังความคุ้มครอง สส.ถูกฟ้องร้อง กลั่นแกล้งจากฝ่ายบริหาร หากเป็นการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการข่มขืน เราไม่ควรที่จะปกป้องผลประโยชน์ ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละพรรค ส่วนพรรคประชาชนไม่เห็นด้วยกับการใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะพรรคเก่าของนายไชยามพวาน ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ได้มีการพูดคุยกัน เนื่องจากนายไชยามพวานบอกล่วงหน้าว่า ไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ 2-3 สัปดาห์ และไม่ได้มีสถานะเป็นสมาชิกพรรค จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกันโดยตรง
ส่วนที่เจ้าตัวบอกว่า เป็นการดิสเครดิตนั้น ถือเป็นสิ่งที่เจ้าตัวจะต้องชี้แจงเอง ซึ่งพรรคประชาชนจะมีความเห็นอย่างไร ก็ต้องรอดูเรื่องที่ตำรวจยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะมีการอภิปรายในสภาฯ อยู่แล้ว
เหม็นกันทั้งประเทศ
นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีศาลออกหมายจับ สส.ฝ่ายค้านคดีล่วงละเมิดทางเพศนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน ว่า ในขณะนี้สื่อต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศจีนและไต้หวัน ประโคมข่าวใหญ่ ‘สส.ฝ่ายค้านไทย’ ขืนใจนักท่องเที่ยวไต้หวัน เรื่องดังกล่าวแม้จะเป็นเรื่องผิดส่วนตัว แต่ส่งผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทบต่อการท่องเที่ยวที่ทุกภาคส่วนร่วมกันช่วยฟื้นฟูกันอย่างแข็งขัน กลับต้องมาเสียหายเพราะผู้แทนของประชาชน ที่กระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“พรรคการเมืองไหนยังให้การสนับสนุนถือหางได้ก็ถือไป แต่ไม่ใช่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ พวกเราขอไม่ทนกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขอให้ สส. คนดังกล่าวพิจารณาตนเองและงดใช้เอกสิทธิ์ สส.ไปพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม ก่อนประเทศเสียหายกว่านี้ ผมเสนอให้สภามีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส ไม่ให้มีการใช้อิทธิพลพรรคใหญ่เข้าแทรกแซง พร้อมทั้งเยียวยาเหยื่อทั้งทางร่างกายและจิตใจ” นายพงศ์พล กล่าว
ผู้เสียหายกลับถึงไต้หวันแล้ว
จากกรณีที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.กทม. ในคดีข่มขืนกระทำชำเรานักท่องเที่ยวไต้หวัน ที่ จ.เชียงใหม่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 ขณะที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่อนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่ง ตร.สภ.เมืองเชียงใหม่ระบุทางกงสุลไต้หวันได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ล่าสุด สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ยืนยันว่า ผู้เสียหายชาวไต้หวันเดินทางกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว โดยทางสำนักงานระบุว่า ได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ผ่านช่องทางต่างๆ และแสดงความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมของไทย รวมทั้งหวังว่าสื่อมวลชนจะเคารพและปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้เสียหายชาวไต้หวัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี