ไม่ปรับครม.!
อิ๊งค์ยืนยัน/พร้อมสู้ศึกซักฟอก
ลูกหาบหยันฝ่ายค้านตัดแปะ
“นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์” กลับมาแล้ว ย้ำ ยังไม่ปรับครม.ทั้งประกาศ พร้อมสู้ศึกซักฟอก ชี้ฝ่ายค้านไม่ยกเรื่อง “ทักษิณ” มาพูดเป็นเรื่องแปลกแนะซักให้ตรงประเด็น ไม่อยากพูดให้เป็น Episode ของซีรี่ส์ใหม่ ด้านลูกหาบตามยำฝ่ายค้านตัดแปะใช้เวลา 5 วัน น้ำท่วมทุ่งมากไปปธ.วิปรัฐบาลระบุแค่ 2 วัน ก็พอแล้ว
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ต้องดูความพร้อมของรัฐบาลว่าจะสะดวกวันไหน เมื่อฝ่ายค้านยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และเรื่องนี้ต้องนำเข้าที่ประชุมวิปสามฝ่ายเพื่อตกลงเรื่องกรอบเวลาและหาเวลาที่เหมาะสมว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี สามารถตอบชี้แจงในที่ประชุมสภา โดยไม่ติดภารกิจได้
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่าการยื่นซักฟอกเป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายค้าน จะใช้กลไกของสภาในการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของรัฐบาล แต่ถ้าฝ่ายค้านไม่ยื่นอภิปรายก็จะเป็นเรื่องผิดปกติ ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบ ฝ่ายรัฐบาลมีหน้าที่ชี้แจง ไม่มีอะไรน่าห่วง และเท่าที่ฟังการทำหน้าที่ของรัฐบาล ก็ไม่มีเรื่องทุจริตอะไร
“ส่วนฝ่ายค้าน ขอเวลาซักฟอกรัฐบาล 5 วัน ผมอยู่สภามาไม่เคยเห็นซักฟอกรัฐบาลนานขนาดนั้น ผมว่า 2 วันก็เพียงพอ ขออภิปรายแต่เนื้อ ไม่เอาน้ำ”นายวิสุทธิ์ ย้ำ
อย่าอภิปรายคนนอกที่ไม่ใช่รมต.
เมื่อถามว่าในประเด็นการอภิปรายคือเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ควรอภิปรายคนที่เป็นรัฐบาล ไม่ใช่คนข้างนอก นายทักษิณไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี การกล่าวหาบุคคลภายนอกที่ไม่สามารถเข้ามาโต้แย้งผิดข้อบังคับอยู่แล้ว ถ้าอยากอภิปรายคงต้องไปเขียนข้อบังคับใหม่ เพราะนายทักษิณ ไม่ได้บริหารกระทรวงไหน ถือเป็นคนนอก ถ้าจะอภิปราย คนนอกที่ไม่ใช่นายก และรัฐมนตรี หากถูกฟ้องต้องรับผิดชอบกันเอง
สำหรับเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีที่ออกมาช่วงนี้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีตนอยู่ฝ่ายนิติบัญญัติไม่ขอก้าวล่วง แต่ถ้าจะมีการปรับเกิดขึ้น คงเกิดหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้วที่มีบางคนบอกว่าจะปรับก่อนอภิปราย เพื่อหนีการซักฟอกนั้น ไม่จริงไม่มีใครกลัว เพราะเขามีความพร้อมในการชี้แจงอยู่แล้ว
พท.เย้ยซักฟอกตัดแปะไม่ตรงปก
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.)กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านหารือกันในการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลโดยเบื้องต้นจะขอเวลาอภิปราย 5 วันว่า การขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถือเป็นสิทธิที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ รัฐบาลไม่มีการปิดกั้นการตรวจสอบถ่วงดุล หรือ ปิดรับข้อเสนอแนะจากพรรคฝ่ายค้าน แต่ขอว่าข้อมูลที่อภิปรายควรมุ่งเป้าไปที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นหลักไม่ใช่เหวี่ยงแห ตัดแปะข่าวโซเชียลแล้วเอายำรวมกันหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจตามฤดูกาล ประชาชนจับทางได้หมดแล้ว ประเภทโหมโปรโมทโฆษณาดุดัน แต่อภิปรายจริง จืดชืดไม่ตรงปก
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยังกล่าวอีกส่าโดยเฉพาะประเด็นที่จะอภิปรายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่พรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรคจองกฐิน จะนำมาอภิปรายนั้น ประชาชนไม่ได้ประโยชน์เพราะนายทักษิณไม่ได้เป็นรัฐบาล ถือเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่สามารถใช้สิทธิพาดพิงมาอภิปรายชี้แจงได้ ข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถ้าเด็ดจริง ไม่ต้องใช้เวลาถึง 5วัน อภิปรายกระชับๆ เข้าประเด็น จะมีประสิทธิภาพมากกว่า พรรคเพื่อไทย ไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์พิทักษ์รัฐบาล ถ้าฝ่ายค้านอภิปรายน้ำท่วมทุ่ง ออกทะเล ประชาชนตัดสินใจได้ คะแนนนิยมที่ตกต่ำ ก็มีแนวโน้ม จะตกต่ำลงไปอีก
ปชป.ชี้ซักฟอกไม่ควรเกิน3วัน
ขณะที่ ดร.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า การอภิปรายควรเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นกลไกสำคัญของระบอบประชาธิปไตยที่เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ส่วนเรื่องของระยะเวลาในการอภิปราย เป็นเรื่องของวิปทั้งสองฝ่ายที่จะต้องคุยกัน โดยดูจากประเด็นการอภิปราย จำนวนผู้ถูกอภิปรายซึ่งโดยปกติก็จะกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 3 วัน และอยู่ในกรอบเวลาที่สมเหตุสมผล หากฝ่ายค้านต้องการใช้เวลาถึง 5 วัน อาจเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาว่าจะทำให้การอภิปรายมีประสิทธิภาพหรือไม่
มั่นใจรัฐบาล-รมต.พร้อมชี้แจง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ฝ่ายค้านมีสิทธิอภิปราย แต่ต้องมีสาระ ไม่ใช่ใช้เวทีนี้ เพียงเพื่อโจมตีทางการเมือง รัฐบาลพร้อมตอบทุกคำถาม แต่ก็ต้องการให้มีการพิจารณาอย่างเป็นธรรม และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถชี้แจงประเด็นต่าง ๆได้อย่างครบถ้วน และหวังว่าการอภิปรายจะไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศโดยรวม ในส่วนรัฐมนตรีทั้งสองท่าน ของพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อให้กระบวนการในการอภิปราย เป็นไปได้ด้วยความราบรื่น โดยหากมีประเด็นเกี่ยวข้อง ก็พร้อมที่จะอธิบาย ให้กับสังคม
“อิ๊งค์”พร้อมสู้ศึกซักฟอก
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้าน เตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ รัฐบาลมีความพร้อมอย่างไร ว่า ตนยินดีตอบทุกคำถาม และจะให้วิปรัฐบาลพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ธงที่ฝ่ายค้านวางไว้ คือประเด็นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งเรื่องของการเอื้อประโยชน์ และการครอบงำ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าไม่มีจะแปลกใจ ก็เป็นอย่างนั้น
เมื่อถามย้ำว่า เมื่อฝ่ายค้านถามเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ชี้แจงด้วยตนเองหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ระบุว่า เดี๋ยวขอนัดแนะกันก่อน ต้องเตรียมกันนิดนึง ไม่อย่างนั้นจะพูดทับซ้อนกันไปมา และประชาชนเสียเวลาฟัง เอาเรื่องที่ตรงประเด็นดีกว่า เพราะไม่อยากให้เป็น Episode หนึ่งของซีรีส์อะไรสักอย่าง แต่อยากให้ตอบโจทย์ว่า ทำแบบนี้ใช่หรือไม่ใช่ ให้ตรงประเด็น และจบกันดีกว่า
ยังไม่ปรับคณะรัฐมนตรี
นางสาวแพทองธาร ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการจะปรับคณะรัฐมนตรี โดยยืนยันเสียงหนักแน่นว่า “ไม่ปรับค่ะ”
เมื่อถามต่อว่า ข่าวนี้ออกมาทำให้รัฐมนตรีคิดว่าจะโดนปรับหรือเปล่า และสร้างความสั่นคลอนโดยไม่จำเป็น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ายืนยันไม่ได้จะปรับ ถ้าจะปรับจริงจะต้องมีการพูดคุยกันในเนื้องาน ตอนนี้ยังอยากให้การทำงานต่อเนื่อง และตนก็เพิ่งมาเป็นนายกฯได้ไม่นาน รัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นมาก็ยังเป็นได้ไม่นานเหมือนกัน ดังนั้นต้องอาศัยความต่อเนื่องของการทำงาน และจำเป็นมากที่ทุกกระทรวงจะต้องรู้สึกว่าเราปลอดภัย แข็งแรง เวลามีอะไรแบบนี้มาไม่ดี และการที่จะปรับ ครม.หรือไม่ ตนจะเป็นคนบอกเอง คนอื่นตอบนั้นไม่ใช่คำตอบ
เมื่อถามต่อว่ามีกระแสข่าวว่าจะปรับ ครม.หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะมีการสลับกระทรวง และดึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กลับมาจะมีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ได้ฟังข่าวเช่นกัน ก็มาเป็นมหากาพย์เหมือนกัน แต่ไม่มีอะไรที่ตรงกับสิ่งที่คิดเลย แม้แต่นิดเดียว ผู้สื่อข่าวถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ายังมีรัฐมนตรีบางกระทรวงที่มัวแต่รำอยู่ นายกฯ หันมามองแต่ไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด
พท.กั๊กตีความประชามติ
อีกประเด็นหนึ่ง นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอให้วิปรัฐบาลยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มีคนคิดจะยื่นอยู่แล้วซึ่งจะเป็นใครก็เป็นสิทธิ์ของเขา เป็นเรื่องปกติของการเมือง หากยื่นในสภาตามข้อบังคับที่ 31ก็ทำได้แต่เราก็เดินหน้าในส่วนที่เสนอแก้ไป หากศาลรับเรื่องไว้พิจารณา จะต้องยุติการลงมติไว้ก่อน แต่การอภิปราย คงเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ คือ วันที่ 13 -14 ก.พ.นี้ ซึ่งยังไม่ทราบว่า จะมีคนยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อไหร่
เมื่อถามย้ำในส่วนของวิปรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยจะไม่มีการยื่นใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า“พวกผมไม่ได้ยื่น แต่พรรคอื่นไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไร ในนามพรรคเพื่อไทย คงไม่ทําเพราะเราอยากแก้รัฐธรรมนูญ”
รับแก้รธน.มาตรา256ยังลุ้น50:50
นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่าส่วนการตีความเรื่องทำประชามติขณะนี้ร่างพ.ร.บ.ประชามติ เหลือเวลารอพิจารณาใหม่อีกประมาณ 120วัน หากสภาฯยังยืนยันก็สามารถทำกฎหมายประชามติขึ้นทูลเกล้าฯได้และสามารถทำประชามติได้เลย เชื่อว่าทำทัน หากกฎหมายประชามติออกมาก่อนก็ต้องถามประชาชนว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะฉะนั้นต้องรอให้ครบเวลาก่อน เราเดินไปตามกติกา ข้อกฎหมายและความหวัง
เมื่อถามว่าต้องไปพูดคุยกับส.ว.ด้วยหรือไม่เพราะหลายคนออกมาแสดงท่าทีว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่าสามารถลงมติได้ แต่มีบางส่วนที่เป็นนักประชาธิปไตยก็เห็นด้วย แต่ถึงไม่เห็นด้วยตนก็ยอมรับในกติกาและรับได้ทุกทาง เมื่อถามอีกว่ามั่นใจว่าจะได้เสียง ส.ว.ถึง1ใน 3 หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า คิดว่า50:50ไม่สามารถเดาใจ ส.ว.ได้ เป็นไปได้ทุกทาง ทำใจกลางๆ ไว้ ไปได้แค่ไหนก็ต้องยอมรับแค่นั้น/
‘ธนกร’ค้านแก้รื้อรธน.ทั้งฉบับ
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ให้สัมภาษณ์ว่าหลังจากที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้บรรจุระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 13 -14 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อเปิดทางยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งมีการเสนอมา 2 ร่าง คือร่างของพรรคเพื่อไทยกับร่างของพรรคประชาชนนั้น
“โดยผมไม่เห็นด้วยและคัดค้านมาโดยตลอดโดยเฉพาะร่างของพรรคประชาชน เรื่องการแก้ไขในมาตรา 256(8) แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับหน้าที่หรืออำนาจศาล หรือองค์กรอิสระ ซึ่งที่มีอยู่ถือว่าดีอยู่แล้ว นอกจากนี้ ในการเสนอแก้ไขมาตรา 256(6) ผมก็ขอคัดค้านที่จะมีการถอดอำนาจของวุฒิสภาที่จะต้องใช้เสียงในการเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 1 กับวาระที่ 3 จำนวน 1 ใน 3 ออกในการเห็นชอบผ่านร่าง เพราะเป็นการริบอำนาจ สว.อย่างชัดเจนซึ่งขัดต่อเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญเรื่องอำนาจหน้าที่การตรวจสอบถ่วงดุลของสมาชิกรัฐสภา
เตือนระวังขัดคำวินิจฉัยศาลรธน.
รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติระบุอีกว่า ทั้งนี้ยังมีสิ่งที่สำคัญที่สมาชิกรัฐสภาทุกคนจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบร่วมกันคือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4 / 2564 ที่เป็นบรรทัดฐานไว้แล้วว่าในการแก้ไขและร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องจัดทำประชามติก่อน และหลังจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หากไม่ทำประชามติท้ายที่สุด จะมีปัญหาภายหลังเรื่องความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมตามมาอย่างแน่นอน เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2560 ผ่านการทำประชามติมาแล้ว หากจะมีการแก้ไขและยกร่างฉบับใหม่ ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนก่อน
ลั่นจุดยืนต้องไม่แตะหมวด1-2
“ผมย้ำจุดยืนชัดเจนมาตลอดว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราสามารถแก้ได้ แต่ต้องไม่แตะหมวด1 หมวด 2 ที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ และถ้าจะยกร่างทั้งฉบับโดยไม่ทำประชามติขอเตือนว่าเป็นความสุ่มเสี่ยงอย่างมาก ทั้งต่อผู้เสนอร่างและสมาชิกรัฐสภาที่ร่วมพิจารณาเห็นชอบร่างด้วย ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะถูกฟ้องเอาผิดฐานละเว้นหรือปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรงและอาจถูกส่งให้ ป.ป.ช.ถอดถอนได้ ผมเชื่อว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ครั้งนี้ คงยากที่จะผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา เพราะอยู่บนฐานความเสี่ยง”นายธนกร ย้ำทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี