‘แม้ว’เสียงอ่อย/สงกรานต์นี้‘ปู’รอไปก่อน
กลับไทยยังไม่ได้
อ้างต้องรอดูความเหมาะสม
ลั่นยังไม่ถึงเวลาปรับ‘ครม.’
เล็งสวนฝ่ายค้านศึกซักฟอก
หากพาดพิงถึงออกโรงโต้เอง
“ยิ่งลักษณ์” คอยเก้อ พี่แม้วล้มแผนพาปิ๊กบ้านช่วงสงกรานต์ อ้างยังมีหลายปัจจัยและต้องดูความเหมาะสม ย้ำยังไม่ปรับครม. เบิร์ธเดย์ 70 ปี สุวัจน์คึกคักนักการเมืองแห่อวยพรแน่น
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการเดินทางกลับไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นน้องสาว ในช่วงสงกรานต์นี้ว่า ยังต้องดูเรื่องความเหมาะสม
เมื่อถามว่า ปัจจัยอะไรที่ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ นายทักษิณ กล่าวว่า มีหลายปัจจัย ส่วนจะเดินทางกลับมาภายในปีนี้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า กำลังดูอยู่ ความจริงเขาอยากกลับตั้งแต่เมื่อวาน
สัมพันธ์บิ๊กตำรวจจบ/แค่เคยรู้จัก
นายทักษิณ ยังให้สัมภาษณ์กรณี พล.ต.อ.นายหนึ่ง เคยมีความสัมพันธ์และเคยร่วมชะตากรรมกับนายทักษิณ แต่จะขอย้ายไปอยู่ฝ่ายค้าน ว่า ต้องใช้คำว่าเคยมีความสัมพันธ์ แต่ปัจจุบันต้องใช้คำว่าเคยมีความสัมพันธ์ที่ดี เมื่อถามว่า หลังจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ พล.ต.อ.นายนี้ ใช่หรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า “ไม่ทราบครับ แต่เคยมี” ส่วนการที่ พล.ต.อ.นายนี้ ยื่นเอกสารให้ฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาล กรณีการรักษาตัวชั้น 14 ที่ รพ.ตำรวจ นายทักษิณ เปิดเผยว่า “ในฐานะตำรวจเก่า รู้จักแต่ พล.ต.อ.ที่เป็นผู้ชาย พล.ต.อ.ผู้หญิง ผมไม่รู้จัก” เมื่อถามถึงศึกซักฟอกครั้งนี้จะทำให้เกิดแรงสะเทือนของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นฝุ่น PM 2.5 กาสิโน หรือการตัดไฟในเมียนมา นายทักษิณ กล่าวว่า แน่นอน รัฐบาลมีหน้าที่ตอบ เรื่องฝุ่นมีมานานคงไม่หายช่วงข้ามคืน แต่รัฐบาลก็มีมาตรการออกมาเรื่อยๆ
พยายามถามว่า พล.ต.อ.หญิง คือใคร นายทักษิณ พยายามย้ำว่า “ไม่รู้ ในประเทศไทยเรามีแต่ พล.ต.อ.ชาย ไม่มี พล.ต.อ.หญิง” เมื่อถามถึงก่อนหน้านี้เคยเอ่ยชื่อหรือเปรียบเปรยถึง พล.ต.อ.หญิง ใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็บอกแล้วไงว่าไม่มี พล.ต.อ.หญิง ใครอยากจะเป็นคนแรกก็เป็น ส่วนที่ก่อนหน้านี้เคยเอ่ยชื่อนั้น ตนไม่รู้ ตนเป็นลูกผู้ชาย
ยังไม่ถึงเวลาปรับครม.
ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงประสบการทางการเมือง ถึงเวลาการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ ว่า ตนกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คุยกันเป็นประจำ ทราบว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะทุกคนยังทำงานกันได้ด้วยดี มีติดขัดเล็กน้อย แต่ยังเตือนกัน ยังไปได้ด้วยกันโดยไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลเสนอให้มีการปรับ ครม. นายกฯจะต้องมีการพิจารณาหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลของแต่ละพรรคที่ต้องการปรับ ขอให้ดูจังหวะ จะต้องปรับด้วยกัน ไม่ใช่แค่ปรับแค่คน หรือสองคน นอกจากจะมีตำแหน่งว่าง หรือลาออกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากไม่ใช่เงื่อนไขนี้เชื่อว่านายกรัฐมนตรีก็จะไม่มีการปรับ
อำนาจเป็นของนายกฯ
เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าพรรคกล้าธรรม ต้องการเปลี่ยนให้ ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค มาแทนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า คงยังไม่มี เพราะนางนฤมล และร.อ.ธรรมนัส ก็ปรึกษากันอยู่ตลอด เมื่อถามย้ำว่า ร.อ.ธรรมนัส มีความเหมาะสมที่จะเข้ามาช่วยงานรัฐบาลในตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ยังไม่มีการหารือกัน” เมื่อถามว่าหากนายกรัฐมนตรีต้องการที่จะปรับ ครม.ต้องปรึกษากับนายทักษิณก่อนหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เห็นมีอะไร ก็พูดคุยกัน แต่อำนาจทั้งหมดเป็นของนายกรัฐมนตรี เมื่อถามถึงของขวัญที่นายทักษิณมอบนายสุวัจน์ในวันเกิดวันนี้ใช่ตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ นายทักษิณ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า เผอิญตนเองไม่ใช่นายกฯ แต่เป็นพ่อนายกฯ
การให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ เกิดขึ้นหลังไปร่วมอวยพรวันเกิดครบ 70 ปี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา ที่ ที่บ้าน 333 ราชวิถี 20 กทม.
หนูชี้สุวัจน์ให้โอกาสเป็นรัฐมนตรี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อีกคนหนึ่งที่มาร่วมอวยพรวันเกิดนายสุวัจน์และให้สัมภาษณ์ว่า ให้กำเนิดตนทางการเมืองนายสุวัจน์ ท่านเป็นผู้ที่ให้โอกาสตนมาเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกในรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2547
ส่วนกระแสการปรับ ครม.นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันแล้วว่ายังไม่มีการปรับ โดยเรื่องการปรับ ครม. ต้องถามนายกรัฐมนตรีคนเดียว ถามคนอื่นไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิ์และอำนาจของนายกรัฐมนตรีคนเดียว เมื่อถามต่อว่า หากพรรคร่วมจะขอปรับ หลังมีกระแส ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะกลับมา นายอนุทินกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของพรรคร่วม แต่การตัดสินใจและพิจารณาก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี และส่วนใหญ่หากนายกรัฐมนตรีจะมีการปรับ ครม. ก็จะมีการแจ้งหากร่วมรัฐบาล ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะมีการปรับก็ส่งชื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา อย่างไรก็ตามต้องมีการพิจารณาโดยนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามถึงกรณีชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะมีปัญหาหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ต้นต้องเอาตัวตนให้รอดก่อน พรรคภูมิใจไทยก็ยืนยันที่จะสนับสนุนรัฐบาล สนับสนุนนายกรัฐมนตรีทำทุกภารกิจให้ประสบความสำเร็จ หากมีการปรับ ครม. ในสัดส่วนของภาคภูมิใจไทยจะมีการขยับหรือไม่คงเอาไว้ให้รับแจ้งอะไรมาก่อน ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งอะไร
แย้มนายกฯอยากให้ทำต่อเนื่อง
กรณีที่ทางนายกรัฐมนตรีพูดว่าอยากให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง หรือจริงๆ แล้วการเมืองต้องปรับทุก 6 เดือน นั้น นายกรัฐมนตรีก็พูดชัดเจน ตนก็ยืนอยู่ข้างหลัง ท่านบอกว่าทำงานมา 5 เดือนกว่าอยากให้ทำงานต่อเนื่องและไม่อยากให้พูดเรื่องการปรับครม.บ่อยๆ เพราะคนที่ถูกกล่าวถึงหรือถูกวิเคราะห์อาจจะไม่สบายใจ แล้วทำงานกันลำบาก หากข่าวออกมาอีกเยอะอาจทำให้การสั่งการงานราชการต่างๆ ไม่กล้าทำอย่างเต็มที่ ตนคิดว่านายกฯมีมุมมองที่ดีมากและได้แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์อยู่แล้วและก็ไม่ได้พูดคุย อยู่ประเทศจีนนายกรัฐมนตรีมีภารกิจเยอะ
พร้อมชี้แจงปมเขากระโดง
ส่วนประเด็นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่นายอนุทินอาจโดนซักฟอก ในประเด็นการตัดไฟฟ้าที่เมียนมา เขากระโดง และอัลไพน์ นายอนุทิน กล่าวว่า ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 62 จนถึงปีนี้เข้าเป็นปีที่ 6 แล้ว ไม่โดนปีเดียวไม่เป็นไรตนเองพร้อมชี้แจง อย่างไรก็ตาม เป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้านที่จะพยายามซักฟอกให้เราชี้แจง ถ้าเราทำอะไรด้วยความสุจริตใจเราก็พร้อมชี้แจง ที่ผ่านมาเราก็ได้รับความไว้วางใจมาโดยตลอดส่วนฝ่ายค้านเขามั่นใจว่ามีข้อมูลที่จะสะเทือนพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอนนั้นตนเองก็มั่นใจว่า ตนเองตอบได้ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับความมั่นใจจากพรรคร่วมด้วยกันแน่นอน
รทสช.ร่วมอวยพรวันเกิด
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อีกคนที่รวมอวยพรวันเกิดนายสุวัจน์
และกล่าวว่าตนมาอวยพรทุกปี เพราะรู้จักท่านตั้งแต่ตนยังเรียนไม่จบ อีกทั้งทางบ้านก็ยังเป็นเพื่อนกันกับลูกชายของนายสุวัจน์ แต่ปีนี้ถือเป็นปีที่สำคัญมาก เพราะนายสุวัจน์ย่างก้าวเข้าเลข 7 แต่ยังหนุ่มอยู่
เมื่อถามถึงความรู้สึกในฐานะเลขาธิการพรรค เกี่ยวกับกระแสการปรับ ครม.สร้างความหงุดหงิดกวนใจหรือไม่ นายเอกนัฏ ระบุว่า ไม่ได้รู้สึกกวนใจใดๆทั้งสิ้น สำหรับตนและนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อเราอยู่ในตำแหน่งก็ทำให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด ไม่บริหารงานหรือบริหารชีวิตตัวเองด้วยความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น อำนาจการปรับ ครม.ไม่ใช่อำนาจของรัฐมนตรี แต่ตนคิดว่าเท่าที่ฟังนายกรัฐมนตรีมีความชัดเจนมาก ทุกวันนี้คณะรัฐมนตรีก็ทำงานด้วยกันอย่างดี งานที่กระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรมทำทุกวันนี้ได้รับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรีทุกเรื่อง
กำชับรัฐมนตรีทำงานให้เต็มที่
เมื่อถามต่อว่าหากมีการปรับ ครม. กันจริงๆถามพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีการขยับเขยื้อนใครหรือไม่ นายเอกนัฏ เผยว่า ยังไม่คิดถึงเรื่องนั้น มีแต่กำชับให้รัฐมนตรีของพรรคทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ อย่างที่บอกว่าเราอยู่ในการเมืองก็ต้องรู้ว่าไม่มีอะไรแน่นอน แต่ในความไม่แน่นอนเราก็ต้องตั้งสติให้ดี และอยู่กับปัจจุบันทำงานให้เต็มที่ ทำให้ดีทุกวัน หากคิดมากไปกว่านี้ก็เครียดเปล่าๆ
เมื่อถามว่าระยะเวลาการปรับ ครม.ควรอยู่ในช่วงใด นายเอกนัฏ ระบุว่า เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องของตนหรือรัฐมนตรี อำนาจการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ
เมื่อถามต่อว่ามีการส่งสัญญาณไปยังพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังไม่มี ทุกวันนี้ก็มีแต่กำชับให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และมีงานสำคัญหลายเรื่องที่ต้องช่วยกันทำ เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ในพรรค รทสช.ยังคงแน่นปึ๊กหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า แน่นมาก
สุวัจน์ขอช่วยประเทศชาติ
ด้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 70 ปี ว่า วันเกิดปีนี้ 70 ปีที่69 เป็นคุณตา ปีนี้70 ก็คงเป็นคุณปู่เพราะอาวุโสมากแล้ว และคิดว่าคงได้มีโอกาสทำงานทางการเมือง ซึ่งตนมีประสบการณ์ทางการเมืองมา 38 ปี ตนคิดว่าวันนี้บ้านเมืองมีปัญหาเยอะเรื่องเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอก คงอยากที่จะใช้ประสบการณ์ที่อยู่กับการเมืองมานานให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ในการแก้ไขปัญหาประเทศให้เป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจระบบการเมือง และพี่น้องประชาชนทั้งนี้อยากให้เศรษฐกิจดีพี่น้องประชาชนคนไทยมีความสุข ส่วนบทบาททางการเมืองจะเป็นที่ปรึกษาหรือลงมาเล่นเองนั้น นายสุวัจน์ ระบุว่า ตนเองก็เป็นมาเยอะแล้วจริงๆคิดว่าอยู่ในสถานภาพอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่ง แต่ขอให้ได้ใช้ประสบการณ์เพื่อช่วยเหลือประเทศไทย ในตำแหน่งอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปเป็นนั่นเป็นนี่ ในฐานะที่ผ่านเรื่องการทำงานการเมืองและเรื่องเศรษฐกิจมาเยอะ ตนก็ยินดีที่จะให้คนแนะนำ และคำปรึกษาต่างๆ ซึ่งเป็นเวลาที่ต้องรวมพลังระหว่างประสบการณ์ กับความทันสมัยของนักการเมืองรุ่นใหม่ทั้งนี้หากรวมพลังกันได้ ก็เชื่อว่าจะสามารถทำให้ประเทศฝ่าฟันวิกฤตไปได้
ชี้รัฐบาลมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ ถ้าพูดถึงจุดแข็งของรัฐบาล มองว่าจุดแข็งของรัฐบาลชุดนี้คือเสถียรภาพ เพราะ 322 เสียงกับ 171 เสียง มากกว่าฝ่ายค้านเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งถือว่ามีผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเป็นจำนวนคะแนนที่ค่อนข้างปลอดภัย รวมคงการออกกฎหมายต่างๆก็ไม่น่ามีปัญหา ซึ่งเสถียรภาพของรัฐบาลในสภาแน่นปึก ไม่มีปัญหา แต่ก็ต้องคอยดูแลเสถียรภาพนอกสภา ทั้งปัญหาเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ต่างๆต้องแก้ไขเรียบร้อย ดังนั้นจึงย้ำว่าจุดแข็งของรัฐบาลคือเสถียรภาพ ส่วนจุดที่ยังไม่แข็งและเป็นสิ่งที่พวกเราต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา คือ เรื่องเศรษฐกิจที่จะต้องเร่งเครื่อง ซึ่งตนนายกรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องการทำงานและเศรษฐกิจต่างๆ ถึงบทบาทของประเทศไทยในเวทีต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้ตั้งรับในภาวะเศรษฐกิจ
ไม่มีทายาททางการเมือง
นายสุวัจน์ กล่าวว่า เห็นว่ารัฐบาลได้ทำงาน รวมถึงนายกรัฐมนตรี เป็นคนรุ่นใหม่ ทันสมัย มีประสบการณ์ทางการเมือง จึงมองว่า นายกรัฐมนตรีจะสามารถนำพาแก้ไขปัญหาได้อย่างลุล่วง ซึ่งตนก็ขอเป็นกำลังใจในฐานะนักการเมือง และพร้อมที่จะช่วยสนับสนุนภารกิจของนายกรัฐมนตรี
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ส่วนจุดยืนทางการเมืองพรรคชาติพัฒนาจะไผรวมกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสุวัจน์ ระบุว่า จุดยืนทางการเมืองของพรรคชาติพัฒนา ว่า ปีนี้ 70 ปีแล้ว แล้วอายุก็มากแล้วก็ถือว่า countdown ทางการเมือง เพราะเวลาทางการเมืองเหลือน้อย หากมีอะไรที่จะตัดสินใจทางการเมือง ก็จะต้องคิดให้รอบคอบ และต้องตัดสินใจในแนวทางที่มั่นใจว่า แนวทางนี้จะเกิดประโยชน์สูงสุดมีพลังที่จะทำงานให้กับประเทศและประชาชนได้ เมื่อถามว่า ถ้าพูดแบบนี้เป็นการไม่ปิดทางไปรวมกับเพื่อไทยหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวย้ำว่า ก็ถือว่าอธิบายแบบนี้ว่ามีวิธีคิดคิดแบบนี้ เพราะอย่างที่ตนบอกว่าเป็นนักการเมืองมามากกว่า 30 กว่าปี ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกัน ในการใช้ประสบการณ์ ใช้พลังทางการเมืองในการแก้ไขปัญหาประเทศ และเมื่อถึงเวลาพวกเราก็คงตัดสินใจร่วมกันให้เป็นไปในแนวทางที่มีพลังทางการเมือง ที่ทำงานเพื่อประเทศชาติได้ ส่วนจะไปอยู่ในจุดไหนรอดูสถานการณ์ทางการเมืองก่อน ตนไม่มีทายาททางการเมือง มีเพียงนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล เท่านั้นที่ช่วยกันดูแลพรรค ยังไม่ได้อะไรขนาดนั้น
ข่าวปรับครม.ไม่ได้ทำให้เสียขวัญ
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า นายกฯยืนยันแล้วไม่ปรับครม. และตนคิดว่าเป็นไปตามนั้น อำนาจการปรับครม.อยู่ที่นายกฯ ซึ่งในช่วงที่มีกระแสข่าวดังกล่าว ขอยืนยันว่า ตนไม่ได้เสียขวัญและตนอยู่กับท่านนายกฯที่ปักกิ่งและนครฮาร์บิน ก็ติดตามข่าว เมื่อถามว่า นายกฯมีความรู้สึกหงุดหงิดกับกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า นายกฯแปลกใจเพราะคนปรับครม.คือตัวท่านเอง ถ้าคนอื่นไปพูดก็จะดูฟังแล้วแปลกๆ ส่วนกระแสข่าวที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไรนั้น ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่า เป็นเพราะพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคต้องการขยับปรับเปลี่ยนตำแหน่งในครม.หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนขอย้ำว่า การปรับครม. เป็นเรื่องสำคัญและนายกฯก็พูดชัดเจนไปแล้วว่าไม่ปรับครม. และอยากให้ทุกคนทำงาน ซึ่งหากท่านอยากพบรัฐมนตรีคนไหนก็จะเชิญมาพบ และตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีประเด็นอะไร
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่า ตนเป็นคนทำงานก็เลยยิ่งไม่ทราบเรื่องนี้ ตนไม่ทราบ หน้าที่ตน คือทำงานอย่างเดียว ถ้ายังทำงานอยู่ ก็ต้องทำงานที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จ อะไรที่จะต้องเริ่มทำใหม่ ก็ต้องรีบทำต่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี