‘บิ๊กอ้วน’ลั่นต้องจัดการเด็ดขาด
เมินม็อบเมียนมา
เตรียมลุยพญาตองซู-ปอยเปต
‘ทหารเมียนมา’เริมก้นร้อน
ถล่มรังแก๊งคอลฯในรัฐฉาน
DKBAตะเพิดจีนเทาพ้นพื้นที่
“ภูมิธรรม”เมินม็อบเมียนมาประท้วงไทยใช้มาตรการ “ตัดไฟ-น้ำมัน-เนต” ลั่นกดดันไม่มีผล สั่งจัดการเด็ดขาด ต้องยึดปัญหาคนไทยเป็นหลัก สั่งเรียกคนมีข้อกล่าวหาพ้นพื้นที่ เตรียมลุยพญาตองซู 12 กุมภาพันธ์ ตามด้วยปอยเปต
16 ก.พ. เล็งขยายพื้นที่คุมเข้มชายแดนฯ ด้าน NT ยัน ตัดสัญญาณพื้นที่ผิดกฎหมายฝั่งเมียนมาแล้ว 5 จุด หากต้องตัดเพิ่มรอกสทช.สั่ง ขณะที่ตำรวจภ.2 จับมือกทสช.เปิดยุทธการอรัญฯ 68 SEAL BORDER เบื้องต้น กสทช.สั่งรื้อเสาสัญญาณชายแดน-ตัดสวิตช์ซิมบอกซ์หยุดจีนเทา ‘ทหารเมียนมา’ถล่มศูนย์กลางแก๊งคอลฯในรัฐฉาน จับ‘เวียดนาม-จีน-พม่า’ ได้ 81 ราย
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน หลังประชาชนเมียนมา ออกมาประท้วงกรณีรัฐบาลไทยใช้มาตรการตัดไฟฟ้า งดส่งน้ำมันและตัดอินเตอร์เน็ตตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ว่า เหตุประท้วงตอนแรกตามข่าวจะมีคนจำนวนมาก แต่มาจริงไม่มาก การประท้วงเป็นเรื่องของเขาที่จะแสดงความไม่พอใจ แต่ไม่สามารถกดดันรัฐบาลไทยได้
เมินม็อบเมียนมา-ลั่นจัดการเด็ดขาด
“เพราะรัฐบาลทำไปเพื่อแก้ปัญหาให้คนไทย เป็นเรื่องที่เขาต้องไปเคลียร์กับรัฐบาลเมียนมา เราทำครั้งนี้เพื่อให้จะให้เขาดำเนินการในการขับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ออกจากพื้นที่ และเรื่องชายแดนวันนี้จะมีคำสั่งเรียกคนที่มีข้อกล่าวหา ให้ออกจากพื้นที่”นายภูมิธรรมกล่าว และย้ำว่า การที่เมียนมาปิดชายแดนไม่รับสินค้าไทย เขาต้องไปไตร่ตรอง เพราะต้องพึ่งสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทย หากไม่มีอาหารต้องดูแลตัวเอง เรายืนยันมาตรการของไทยและยึดปัญหาของประเทศไทยเป็นหลัก ต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้ผลเด็ดขาดที่สุด
12กพ.ลุยพญาตองซู-16กพ.ไปปอยเปต
นายภูมิธรรมกล่าวด้วยว่า วันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ ตนจะเดินทางไปพญาตองซู จากนั้นวันที่ 16 กุมภาพันธ์จะเดินทางไปปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจอะไร ส่วนจะไปพูดคุยกับใครนั้น ยังไม่ได้กำหนดรายละเอียด ยืนยันการซีลชายแดนครอบคลุมอยู่แล้ว การประกาศตัดไฟและอินเตอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุมไปที่จุดอื่น
เล็งขยายพื้นที่ซีลชายแดนจาก5จุดหลัก
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ชายแดนพบการลักลอบขนน้ำมันจากไทยไปขายในเมียนมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ทหารและตำรวจตระเวนชายแดนและกิจการชายแดนในพื้นที่ ที่ซีลชายแดน 51 อำเภอได้ตรวจเข้ม คนที่มีส่วนร่วมจะถูกข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามาตรการที่ห้ามนำแกลลอนมาเติมน้ำมันกลับที่จ.เชียงราย จะดำเนินการมาตรการนี้ไปใช้พื้นที่อื่นด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า หากประกาศต้องทำทุกที่ตามแนวชายแดน แต่ซีเรียสที่สุดคือ พื้นที่ที่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขณะนี้ประกาศ 5 จุดหลักแต่ขยายได้หากพบจุดใดเพิ่ม
NTรอคำสั่งกสทช.ถ้าให้ตัดเพิ่ม
ด้านพ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโทรคมนาคมจำกัด(มหาชน) (NT) กล่าวถึงความคืบหน้าการตัดสายสัญญาณอินเทอร์เน็ต 5 จุดในเมียนมาว่า ปกติเป็นกระบวนการของภาครัฐ จุดไหนผิดกฎหมายหรือมีหน่วยงานภาครัฐแจ้งมา เราจะหยุดสัญญาณทันที เบื้องต้นตัดไปวันที่ 5 กุมภาพันธ์แล้ว ส่วนถ้าต้องตัดสัญญาณจุดใดเพิ่มเติมนั้น รอหนังสือจาก กสทช. และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.)อยู่ เพราะการส่งสัญญาณสื่อสารไปต่างประเทศ มีหนังสือสัญญา มั่นใจว่าอันไหนผิดกฎหมาย ถ้าแจ้งมาว่าเราตัดสัญญาณทันที
“เท่าที่ทราบแล้วก็ตัดหมดแล้วทั้ง 5 จุดเราตัดหมดแล้ว ส่วนจุดอื่นขึ้นอยู่กับการแจ้งมาโดยผู้ตัดสินใจคือ กสทช.และหน่วยงานความมั่นคง NT หน้าที่คือมอนิเตอร์ว่าสัญญาณพวกนี้ผิดปกติหรือไม่ เช่น มีคนใช้บริการเป็นบ้านร้างแล้วมีการจ่ายเงิน เราจะมอนิเตอร์แล้วให้ช่วยตรวจสอบ อะไรที่ผิดปกติเราตัดหมด หลักการพิจารณาปล่อยสัญญาณอีกครั้งเมื่อใดนั้น จนกว่าจะได้รับคำสั่งการของ กสทช.” พ.อ.สรรพชัยย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้ที่ชเวก๊กโกไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตจาก NT แล้วใช่หรือไม่ พ.อ.สรรพชัยย์ ย้ำว่า พื้นที่ที่แจ้งว่าทำผิดกฎหมายเราตัดหมด ธุรกิจบริการโทรคมนาคมเราให้บริการตามกฎหมาย อะไรที่ผิดกฎหมายหน้าที่คือ หน่วยงานที่กำกับดูแลแจ้งมา เราก็ตัด อันไหนไม่ได้แจ้งมาแล้วเราไปตัดอาจถูกฟ้องได้ การตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ถ้าสั่งมาว่าตัดทั้งหมด 100% เราก็ตัดหมด รวมถึงสายสัญญาณใต้ดินด้วย
กสทช.จับมือภ.2เปิดยุทธการอรัญ68
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) พร้อมนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
แถลงข่าวเปิด‘ยุทธการอรัญ 68 Seal Border ระเบิดสะพานโจร Call center ทลายสัญญาณอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ ตัดเส้นเลือดใหญ่ขบวนการหลอกลวงออนไลน์ พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันชายแดน ปราบขบวนการคอลเซนเตอร์เกี่ยวกับมาตรการระงับให้บริการโทรคมนาคม บริเวณชายแดนจ.สระแก้ว หลังพบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งฐานอยู่ฝั่งปอยเปต กัมพูชา ใช้สัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตจากไทย
สั่งรื้อเสาสัญญาณด้านปอยเปต
นายไตรรัตน์ชี้แจงว่า กสทช.มี 3 มาตรการคือ เสา สายและซิม และเสาที่สูงเกิน 50 – 60 `เมตรจะนำลงแน่นอน โดยกำหนดระยะห่างจากชายแดนเข้ามาต้องมีระยะกี่เมตร ความสูงเท่าไหร่ และกำลังส่งหรือความแรงของสัญญาณซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่นานาชาติกำหนดไว้ ปกติแล้วการส่งสัญญาณอาจจะกระจายไปในประเทศเพื่อนบ้านได้เล็กน้อย แต่ประเทศเพื่อนบ้านสร้างชิดแนวชายแดนทำให้ดึงสัญญาณไปใช้ หลังจากนี้ต้องกำหนดให้ส่งสัญญาณต่ำกว่ามาตรฐาน
สำหรับบริษัทรายใหญ่ที่ได้รับสัมปทานส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปประเทศเพื่อนบ้านมีรายใหญ่ 4 ราย รายเล็กอีก 13 ราย ยืนยันว่าการรื้อเสาสัญญาณลงจะไม่รบกวนการใช้โทรศัพท์ของคนไทยที่อยู่ในราชอาณาจักร เพราะจะนำแผงส่งสัญญาณไปติดตั้งในชุมชนให้ชาวบ้านได้ใช้ ส่วนเสาสัญญาณปีที่ผ่านมาหันแผงส่งกลับมาในประเทศ แต่ยังมีเล็ดลอดไปอยู่จากช่วงแรกการใช้สัญญาณลดลง แต่ช่วงหลังพบการใช้สัญญาณที่ถี่ขึ้น การแก้ปัญหาวันนี้คือ ต้องให้สัญญาณส่งแค่ภายในประเทศเท่านั้น
“จะไปตรวจสอบและวางข้อกำหนดใหม่ เรื่องติดตั้งเสาสัญญาณที่อยู่ใกล้ชิดชายแดนมากเกินไป โดยจะกำหนดความสูงและความแรงการส่งสัญญาณ จุดใดที่ยังหันแผงสัญญาณไปเพื่อนบ้าน บริษัทต้องมาชี้แจงเหตุผล หากไม่เพียงพอ กสทช.จะสั่งตัดสัญญาณ คาดว่าจะสั่งตัดทั้งหมดในพื้นที่ใกล้เขตชายแดนในระยะ 50 - 100 เมตร ถ้าบริษัทเอกชนไม่ปฏิบัติตามต้องร่วมรับผิดชอบ”นายไตรรัตน์กล่าว
ปิดสวิตช์ซิมบ็อกซ์3จุด-ตัดทอน้ำเลี้ยง
ด้านพล.ต.ท.ยิ่งยศกล่าวว่า ยุทธการอรัญ 68ฯ เกิดจากความร่วมมือของตำรวจภูธรภาค 2 และ กสทช.สืบทราบว่าฝั่งปอยเปตฯ เป็นศูนย์กลางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และพบมีสาธารณูปโภคพื้นฐานทั้งสถานที่ สัญญาณโทรศัพท์และสัญญาณอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นของไทยถูกนำไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประชาชน ตำรวจจึงประสาน กสทช.ระเบิดสะพานโจรใน 2 ส่วนคือ อินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ จากการสืบสวนพบกลุ่มมิจฉาชีพใช้ซิมบ็อกซ์ นำไปติดตั้งอยู่ชายแดนฝั่งกัมพูชาหลายจุด ควบคุมการโทรออกผ่านอินเทอร์เน็ตสั่งมาที่ซิมให้โทรออก โดยใช้สัญญาณโทรศัพท์ของไทยหลอกลวงเหยื่อ
พล.ต.ท.ยิ่งยศกล่าวต่อว่า ยุทธการอรัญ 68 Seal Border ครั้งนี้เป็นการเปิดปฏิบัติการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และทลายสัญญาณโทรศัพท์ 3 จุดชายแดนอรัญประเทศ-ปอตเปตคือ 1.สถานีรถไฟบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศฯ 2.เสาโทรศัพท์หลังตลาดเบญจวรรณ ต.ป่าไร่อ.อรัญประเทศฯ และ 3.เสาโทรศัพท์ บ้านโคกสะแบง ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศฯ จะทำให้ลดการใช้ซิมบ็อกซ์โทรฯหลอกลวงได้ลดลง
“เราพบจุดที่ตั้งซิมบ็อกซ์อยู่หลายจุด พบสัญญาณข้ามไป มีการใช้หนาแน่นและพบออฟฟิศปล่อยเช่าในปอยเปตหลายแห่ง ซึ่งในออฟฟิศคอลเซ็นเตอร์อาจต้องใช้อินเทอร์เน็ตถึง 100 เมกะบิตต่อเดือน เสียค่าบริการ 300,000 บาท ตรวจสอบแล้วบางส่วนเป็นอินเทอร์เน็ตของไทย จึงประสาน กสทช. ดำเนินการทั้งอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ โดยทราบว่ากสทช.มีหนังสือสั่งให้โอเปอเรเตอร์หรือผู้ให้บริการลดเสาสัญญาณการส่งสัญญาณทางโทรศัพท์แล้ว”ผบช.ภ.2”กล่าว
จับหนุ่มขนน้ำมัน290ล.ไปพญาตองซู
ที่จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช) สั่งตัดกระแสไฟฟ้าบริเวณจุดติดตั้งมาตรวัดไฟฟ้าแรงสูง ด้านพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี และรัฐบาลสั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ซิลชายแดนป้องกันการลักลอบนำน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงอุปกรณ์กำเนิดไฟฟ้าข้ามชายแดนเข้าไปในอำเภอพญาตองซูอย่างเข้มข้นเด็ดขาดตลอด 24 ชั่วโมงนั้น ล่าสุด รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีการลักลอบขนน้ำมันเชื้อเพลิงออกนอกประเทศโดยใช้รถยนต์ มุ่งหน้าไปออกช่องทางธรรมชาติด้านศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบ บ้านต้นยาง หมู่ 5 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ที่มีชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน จึงสั่งการตำรวจสายตรวจบ้านห้วยมาลัย ร่วมกับตชด. ที่ 134 ทหารพราน ประจำจุดตรวจทหารพราน ฐานปฏิบัติการช่องทางต้นยาง หมู่.5 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เฝ้าระวัง กระทั่งพบรถรกระบะผ่านเข้ามาที่จุดตรวจ เจ้าหน้าที่เรียกขอตรวจค้นพบน้ำมันดีเซลบรรจุในแกลลอน 10 แกลลอนรวม 290 ลิตรอยู่กระบะท้าย เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางพร้อมจับกุมตัวนายสัมฤทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ชาว ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เพื่อสอบปากคำ โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าวเพื่อนำไปส่งให้แม่ยาย ที่บ้านฮล็อคนี อ.พญาตองซู จ.จะอินเซ็กจี รัฐกระเหรี่ยง ประเทศเมียนมา แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน
DKBAประกาศไม่เอาธุรกิจจีนเทา
วันเดียวกัน มีรายงานว่า กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (Democratic Karen Buddhist Army,DKBA.) ลงนามโดย พันเอกซอเอวัน ผู้บังคับการยุทธวิธีที่ 2 กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA.) ออกคำสั่งที่ 1/2025 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ประกาศแจ้งให้ประชาชนในอ.พญาตองซูทราบว่า เพื่อปราบปรามการทำผิดกฎหมายเกี่ยวธุรกิจการพนันออนไลน์และการฉ้อโกงทางการเงินออนไลน์ในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า รัฐบาลไทยตัดกระแสไฟฟ้าและห้ามส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปเมืองชายแดนรวมถึงอ.พญาตองซู ทำให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวประสบปัญหาไฟฟ้าดับ ได้รับผลกระทบด้านสังคมและเศรษฐกิจ ดังนั้น เพื่อให้ไทยกลับมาส่งกระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงให้ อ.พญาตองซูอีกครั้ง อ.พญาตองซูต้องได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลไทยว่า ในพื้นที่ต้องไม่มีการดำเนินธุรกิจการพนันออนไลน์และการฉ้อโกงทางการเงินออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย
“ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ธุรกิจการฉ้อโกงทางการเงินออนไลน์และธุรกิจการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมายเข้ามาตั้งฐานในอ.พญาตองซู และเพื่อให้ไทยกลับมาส่งกระแสไฟฟ้าและอนุญาตให้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเร็วที่สุด กองบังคับการทางยุทธวิธีที่ 2 DKBA จะแก้ปัญหานี้เต็มที่”ประกาศดังกล่าวระบุ
ขีดเส้นจีนเทาพ้นพื้นที่ภายใน28กพ.
วันเดียวกัน DKBA ยังออกประกาศฉบับที่ 2 /2568 มีเนื้อหาโดยสรุปว่า เนื่องจากไทยตัดกระแสไฟฟ้าและห้ามส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปอ.พญาตองซู ทำให้ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อนมาก ดังนั้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและให้ไทยกลับมาส่งกระแสไฟฟ้าและอนุญาตให้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงอีกครั้ง DKBAจะเร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยขอประกาศให้ชาวจีนที่เข้ามาทำธุรกิจเปิดร้านอาหาร ค้าขาย เปิดบ่อนกาสิโน และเกมออนไลน์อย่างผิดกฎหมายต้องเดินทางออกจากอ.พญาตองซูให้หมดภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากนี้จะเพิ่มมาตรการตรวจสอบเข้มงวดป้องกันไม่ให้ชาวจีนลักลอบเข้ามาอยู่ในอ.พญาตองซูอีกต่อไป
เมียนมาทลายแหล่งจีนเทาสู้กันเดือด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองทัพเมียนมา เปิดปฏิบัติการบุกทลายบ่อนพนันออนไลน์หลายแห่งในเมืองห้า (Mong Ha) ศูนย์กลางของเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ เขตเมืองไหย (Mong Yai) จังหวัดล่าเสี้ยว (Lashio) ทางตอนเหนือของรัฐฉาน จับกุมชาวเวียดนามและชาวจีน รวมถึงชาวเมียนมาได้ 81 คน เป็นชาวจีน 27 คน เวียดนาม 18 คน ชาวเมียนมา 34 คน ตรวจยึดของกลาง ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ 260 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 120 เครื่อง อุปกรณ์ Starlink Wi-Fi 7 ชุด เครื่องเล่นเกม 5 เครื่อง เครื่องปั่นไฟ และรถยนต์ 3 คัน การบุกเข้าจับกุมครั้งนี้ ทำให้เกิดการปะทะกับกลุ่มรักษาความปลอดภัยของกลุ่มเครือข่ายฯ ก่อนที่กองทัพควบคุมสถานการณ์ได้
รายงานข่าว ระบุว่า แม้ปฏิบัติการครั้งนี้จะทลายแหล่งอาชญากรรมออนไลน์ได้หลายแห่ง แต่ในเขตพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่ม BGF เมืองห้า ซึ่งเป็นกลุ่มรักษาดินแดนภายใต้ของกองทัพเมียนมา ยังมีฐานคอลเซ็นเตอร์อีกจำนวนมากที่เปิดดำเนินการอยู่ โดยทหารเมียนมาบุกไปประมาณ 4 แห่ง และจับกุมได้ 2 แห่ง พวกฐานคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ไม่อยู่ที่เดิมนาน เมื่อย้ายออกจากอาคารใหญ่ก็สร้างฐานใหม่ด้วยไม้และสังกะสีแทน บางส่วนไปตั้งอยู่ตามเส้นทางไปเมืองก๋อง กระจายและย้ายไปเรื่อยๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี