วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน แนะฝ่ายค้านควรเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว เพื่อให้สอดคล้องการถูกบีบเวลาให้เหลือน้อย
อีกทั้งกล่าวว่า โดยปกติแล้วรัฐบาลต้องบีบให้ฝ่ายค้านใช้เวลาน้อยที่สุดในการอภิปรายฯ ซึ่งอาจให้แค่ 2-3 วันจากต้องการ 5 วัน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านต้องใช้เวลาน้อยวันจัดการอภิปรายฯ ด้วยเนื้อหาเน้นสื่อสารกับประชาชน ภายใต้มีเอกสิทธิ์คุ้มครองด้วย
สิ่งสำคัญการใช้ข้อมูลของฝ่ายค้านต้องทำให้ประชาชนเกิดระบาดทางอารมณ์ให้ได้ ดังนั้น จึงต้องนำคำพูดของทักษิณ ชินวัตร มาขยี้ผสมกับการพูดด้วยเนื้อหาเอกสารเพื่อให้ประชาชนเข้าใจได้ง่าย โดยไม่พูดน้ำท่วมทุ่ง แต่ขย้ำขย่มซ้ำเป้าเดิมๆ ให้หนักหน่วงและมากความน่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ตาม การอภิปรายฯ ไม่จำเป็นต้องยิงกราดไปหลายกระทรวง แต่ถ้าหวังผลทางการเมืองแล้ว ฝ่ายค้านควรล็อกเป้าซักฟอกนายกรัฐมนตรี อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร คนเดียว โดยใช้ผู้อภิปรายฯ ที่ช่ำชองเน้าพูดเอาเนื้อๆ และยึดเป้าหมายชัดๆ
ดังนั้น ฝ่ายค้านต้องทำการบ้านดี ๆ เพราะการอภิปรายฯ จะเกิดผลการเมืองไปสู่เปลี่ยนแปลงหลายเรื่อง โดยเฉพาะบ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์ ซึ่งคาดจะเป็นหัวข้อหลักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้
ส่วนประเด็นชั้น 14 จะสร้างความอึดอัดใจให้กับทักษิณ เพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ยิ่งนายกฯ มือใหม่ทางการเมือง ไม่ถนัดการพูด อีกทั้งอ่อนชั้นในการใช้ไหวพริบตอบโต้และห่างชั้นกับฝ่ายค้าน ดังนั้น ฝ่ายค้านจะตัดสินใจอย่างไรกับการอภิปรายฯ รายบุคคลหรือเล่นงานเป้าเดียว โดยล็อกเป้าที่นายกฯ คนเดียว
“ฝ่ายค้ายอย่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ใช้หัวข้อบ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์เป็นหลัก ส่วนพรรคประชาชนคงล็อกเป้าชั้น 14 และความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ รวมทั้งกฎหมายศูนย์กลางทางการเงินที่กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ในไม่ช้านี้ เพราะจะทำให้ประเทศสุ่มเสี่ยงถูกทำลายระบบการเงิน ดังนั้น เมื่อรัฐบาลบีบเวลาเหลือน้อยวัน จึงควรล็อกอภิปรายฯ เป้าเดียว เรียงหน้าถล่มคนเดียวแล้วพูดตอกย้ำซ้ำๆ”
นายจตุพร กล่าวถึงอาการร้อนรน ดุดัน ไม่เกรงใจใครของทักษิณว่า เป็นการสะท้อนความวิตกกงวลที่ซ่อนในใจ เพราะกำหนดสถานการณ์อะไรข้างหน้าไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในปี 2549 แม้มี สส. 377 เสียงยังไม่มีความหมาย โดยภายในพรรคขาดเอกภาพ จนนำไปสู่การถูกยึดอำนาจ
ขณะนี้ความน่ากลัวของทักษิณ ไม่ได้อยู่ที่ ป.ป.ช. และแพทยสภา ซึ่งเป็นเพียงสารตั้งต้นเอาผิดเท่านั้น ดังนั้น ถ้าจะหวั่นวิตกคงเป็นกรณีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะมีคำสั่งอย่างไรกับกรณีฝ่าฝืนคำพิพากษาลงโทษของศาล
ไม่เพียงเท่านั้น คำสั่งของศาลจะทำให้อิสรภาพของทักษิณพลิกเปลี่ยนไปหรือไม่ อีกอย่างสถานการณ์บ่อนกาสิโน การพนันออนไลน์ บ้านเพื่อคนไทย และการขายแผ่นดิน 99 ปีจะถูกรุมยำเละเทะ ดังนั้น ความแข็งแรงทางการเมืองย่อมเปลี่ยนทันที
“คุณภูมิธรรม เตือนฝ่ายค้านอย่าอภิปรายฯ พาดพิงบุคคลที่สาม แต่เชื่อว่าฝ่ายค้านรู้ และต้องรับผิดชอบกันเอง นอกจากนี้ ทักษิณจะตอบโต้ชี้แจงนอกสภา ย่อมเป็นไฮไลท์หลัก แต่อย่าลืมว่าสถานการณ์ในเดือนมีนาคมจะไม่เหมือนในวันนี้ และจะเปลี่ยนแปลงไปคนละบริบท”
อีกทั้งกล่าวว่า ทักษิณ พูดถึงการเดินทางกลับไทยของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่หลีกภัยอยู่ต่างประเทศ โดยคำพูดในเรื่องไม่เหมือนเดิม คือ ไม่หนักแน่นเช่นทุกครั้งว่า จะกลับมาเล่นสงกรานต์ในปี 2568 แต่ล่าสุดกลับรีบปฎิเสธข่าวและตอบแบ่งรับแบ่งสู้ด้วยโทนเสียงอ่อนเบา ไม่แข็งกร้าว จึงสะท้อนถึงสถานการณ์ไม่ได้เข้าข้างและสามารถควบคุมไว้ได้ในมือทั้งหมด
นายจตุพร กล่าวว่า การปรับ ครม. ต่างพรรคการเมืองไม่สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะจะเกิดแรงกระเพื่อมตามมา หากปรับเฉพาะพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวคงทำได้ เพราะเป็นพรรคการเมืองของทุน ดังนั้น เจ้าของทุนย่อมสั่งการปรับ รมต. พ้นกระทรวงโดยไม่รู้ตัวก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
“หลังการอภิปรายฯ และอยู่ได้กันอีกสักระยะหนึ่ง การปรับ ครม. อาจจะเกิดขึ้น เพราะบางกระทรวงมีความอึดอัด และถ้าบางพรรคยืนแข็งเรื่องผลประโยชน์ชาติก็จะเป็นปัญหาของรัฐบาล แต่ความเป็นรัฐบาลผสมต้องเก็บความอึดอัดไว้ นอกกจากนี้เลือกตั้ง นายก อบจ. ที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลมีอาการหมั่นไส้กันอยู่ แต่ยังอดทนกันไว้ ดังนั้น การปรับ ครม.ไม่อาจทำได้อย่างง่ายดาย แม้ทักษิณจะอยากปรับก็ตาม”.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี