เลขาฯกฤษฎีกาเผยร่างกฎหมาย“เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์”ต้องเขียนให้ชัด“กาสิโน”ไม่เกิน 10% รับปรับจากร่างเดิมเยอะ“อิ๊งค์” พร้อมรับข้อเสนอแนะ“สี จิ้นผิง” ปมเปิดบ่อนกาสิโน
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี การเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้พูดคุยเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อย่างไรบ้าง เพราะเหมือนกฎหมายของจีนก็ห้ามเล่นการพนัน ว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนก็ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตนก็เล่าข้อมูลให้ฟังว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่เฉพาะกาสิโน แต่เป็นที่ท่องเที่ยว เราวางไว้ว่าเป็นกาสิโนไม่ถึง 10%ของพื้นที่ เราตั้งใจให้เป็นที่ของครอบครัว ให้ลูกเด็กเล็กแดงไปได้หมด กาสิโนเป็นส่วนเล็กๆในนั้นเท่านั้น ทุกวันนี้เราต้องดูว่าบ่อนหรือสิ่งผิดกฎหมายเหล่านี้มีหรือไม่ในประเทศไทย ที่เราไม่ได้พยายามจะพูดว่ามันคลีน 100% ซึ่งมันมีแน่นอนแล้วเงินเหล่านั้นเกิดประโยชน์กับใครบ้าง แต่ว่าหากเราดูกฎหมายในเรื่องนี้ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เขตเศรษฐกิจในส่วนนี้ภาษีที่เราเก็บได้สามารถนำไปเป็นทุนการศึกษาเด็กได้ ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้ นี้คือสิ่งที่เก็บภาษีถูกต้อง ยืนยันเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นและทำให้ต่างชาติเข้ามาและสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยว โรงแรมและคนไทยได้ประโยชน์ถูกจ้างงาน
เมื่อถามว่านายสี จิ้นผิง ไม่ได้ติดใจและเข้าใจใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ท่านให้ข้อแนะนำว่าถ้ามีกาสิโน อาจเกิดเรื่องอย่างนั้นอย่างนี้ขึ้น เราก็บอกยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นของจีนแน่นอน เพราะเราเป็นประเทศพี่น้องที่ดีต่อกัน ด้วยความที่ท่านมีประสบการมากกว่าตนก็บอกไปว่าหากมีความคิดเห็นอย่างไรจะนำมาศึกษาต่อ
วันเดียวกัน นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ตามกรอบเวลา 50 วัน ว่า น่าจะเสร็จสิ้นช่วงต้นเดือนมี.ค. ซึ่งเราพยายามทำให้เร็ว โดยในการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็จะอยู่ในกรอบ 50 วัน ที่กำหนดไว้
เมื่อถามว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว มีการปรับเปลี่ยนจากร่างเดิมมากหรือไม่ นายปกรณ์กล่าวว่า ก็เยอะอยู่
เมื่อถามว่าในร่างฯที่ปรับใหม่ ได้มีการระบุชัดเจนว่ากาสิโนจะต้องมีกี่เปอร์เซ็นต์ใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นคิดว่าควรจะมีการกำหนดไว้ แต่ตัวเลขยังไม่นิ่ง แต่คิดว่าควรต้องกำหนด เมื่อถามว่าสัดส่วนกาสิโนอยู่ระหว่างเท่าใด นายปกรณ์ กล่าวว่า ก็ต้อง ไม่เกิน 10% และเปิดทางให้ลดสัดส่วน เป็น 5 หรือ 8% ได้ แล้วแต่คณะกรรมการนโยบายที่จะพิจารณา ตนคิดว่าเขาคงจะต้องพิจารณาในแง่ของการลงทุนด้วย เพราะว่ามีการระบุไว้แล้วว่า การลงทุนต้อง 100,000 ล้าน และค่าใบอนุญาต อีก 5,000 ล้านบาท ซึ่งต้องแล้วแต่คณะกรรมการต้องดูแผนที่นักลงทุนเสนอเข้ามา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนที่จะนำร่างดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม.จะต้องทำประชามติก่อนหรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ปกติเราทำเสร็จแล้ว เราก็เปิดเผยอยู่แล้ว ไม่ได้ปกปิดอะไร ซึ่งปกติกฤษฎีกาจะนำไปลงเว็บไซต์ระบบกฎหมายกลางอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ถ้าประชาชนจะมีความคิดเห็นในเรื่องนี้จะสื่อไปถึงกฤษฎีกาเพื่อทบทวนร่างกฎหมายได้อย่างไร นายปกรณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เราทำตามนโยบายของรัฐบาล ตนเป็นฝ่ายข้าราชการประจำ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงต้องแล้วแต่นโยบายรัฐบาล เพราะไม่เช่นนั้นเท่ากับฝ่ายข้าราชการประจำทำตัวเป็นฝ่ายบริหารเสียเอง ซึ่งมันจะผิดหลัก ส่วนที่พยายามเรียกร้องกันนั้นตนเข้าใจดีถึงความสนใจในเรื่องนี้ของทุกภาคส่วน รวมถึงความห่วงใย แต่ต้องเข้าใจเรื่องระบบในการทำงานด้วยว่าฝ่ายข้าราชการประจำจะไปทำตัวเป็นฝ่ายบริหารเสียเองมันไม่ถูกเรื่อง เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นเรื่องนโยบายก็อยู่ที่ทางรัฐบาลจะพิจารณา ไม่ใช่มากดดันที่กฤษฎีกา ว่าจะอย่างนั้นอย่างนี้ ตนไม่ได้มีอำนาจหน้าที่อะไรขนาดนั้น
เมื่อถามว่าถ้าจะทำประชามติ ต้องให้รัฐบาลเป็นฝ่ายดำเนินการใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า “ใช่ครับ มันอยู่ที่รัฐบาล ไม่ได้อยู่ที่ตนเลย และที่ผ่านมาก็ยืนยันมาโดยตลอดในการตรวจพิจารณาทุกร่างกฎหมาย” เมื่อถามถึงข้อกังวลของนักวิชาการเนื่องจากร่างกฎหมาย มีการระบุว่าสำนักงานสามารถหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดไว้ก่อนเหลือเท่าใด จึงค่อยนำส่งเป็นเงินแผ่นดิน นายปกรณ์ กล่าวว่า ด้วยหลักของกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ภาษีต้องเข้ารัฐ เมื่อถามว่าหมายความว่าสำนักงานเองสามารถหักค่าใช้จ่าย เหลือเท่าไหร่ค่อยนำส่งเป็นเงินแผ่นดินใช่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ต้องแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นค่าธรรมเนียม และค่าบริการ ซึ่งเรื่องค่าธรรมเนียมหรือใบอนุญาตต่างๆ โดยหลักแล้วมันต้องเข้าหลวง ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายการเงินการคลัง ส่วนมากจะหักไม่ได้เท่าไร เอามาเป็นค่าใช้จ่ายของสำนักงาน ตรงนี้เป็นแนวปฏิบัติทั่วไปอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้ต้องเป็นความตกลงของกระทรวงการคลัง
แหล่งข่าวในทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า กรอบระยะเวลา 50วันของการร่างกฎหมาย จะครบกำหนดในวันที่ 6มีนาคม2568
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี