‘ภูมิธรรม’รับข้อเสนอซีลชายแดนสระแก้ว ผุด‘รั้ว’ 55 กม.สกัดแก๊งคอลฯ
12 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ ร.13 พัน3 รอ. จ.สระแก้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานประชุมติดตามการปฏิบัติงานและมอบนโยบายแก่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมรับฟังความคืบหน้าการดำเนินงานภาพรวมของพื้นที่ จ.สระแก้ว รวมถึงปัญหาการปราบปรามยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ อาชญากรรมไซเบอร์ และการเปิดบัญชีม้า ว่า เรื่องการขอเสนออุปกรณ์เทคนิคของกำลังพลบางส่วน โดยหลักการรัฐบาลเรามีแนวทางเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นโดยพื้นฐานแล้ว เราก็ได้หารือสะท้อนกับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องว่ามีความต้องการอะไร ก็ต้องไปดูตามความจำเป็น บางส่วนอาจให้ได้บางส่วนอาจจะต้องใช้งบประมาณอาจจะใช้งบกลาง และจะต้องดูความจำเป็นว่าสามารถตอบโจทย์การปฏิบัติตามที่เสนอมาหรือไม่
“เช่น การทำรั้วตามแนวชายแดน 55 กิโลเมตร ก็จะต้องดูว่ารั้วที่จะทำมีลักษณะแบบไหน และสามารถป้องกันในเรื่องของปัญหาใดได้บ้าง ก็คงต้องไปดูรายละเอียด เช่น ชายแดนเรามีระยะทางยาว จะใช้กำลังพลอาจจะไม่เพียงพอ แทนที่จะเพิ่มกำลังพลขึ้น อาจจะเปลี่ยนเป็นการเพิ่มโดรน ซึ่งอาจจะไม่ต้องเพิ่มมาก เพื่อใช้ในการตรวจการแทนกำลังพล ซึ่งคงต้องหารือกันอีกครั้ง หลักการรัฐบาลยินดี ซัพพอร์ตเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานต่างๆเดินหน้าต่อไปได้ โดยการเสนอมาทั้ง 3 หน่วยงาน ซึ่งก็เห็นว่ามีเหตุผล แต่ว่าจะได้อย่างไร ก็คงต้องกับไปพิจารณากันดู” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนกรณีการหันและลดระดับเสาสัญญาณโทรศัพท์ จะลดการส่งสัญญาณไปทางประเทศกัมพูชาได้มากน้อยเพียงใด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ช่วยได้ แต่ต้องมีอะไรที่ไป ไม่ให้กระทบฝั่งเรา การหันเสาสัญญาณของ กสทช. ก็ช่วยเรื่องระดับการปรับความไกล ซึ่งจะทำให้สัญญาณทางเราไกลมากขึ้นแล้วก็จะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการแก้ไข ซึ่งถือเป็นเรื่องทางเทคนิค ทางหน่วยที่รับผิดชอบจะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการแก้ไข โดยมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องมีการประสานงานกันและเมื่อวานก็ได้มีการหารือกับประธาน ปปง. เพราะเขามีกฎหมายพิเศษและมีอำนาจหน้าที่ในส่วนนี้ด้วย
เมื่อถามถึงการล็อกสัญญาณไม่ให้มีระยะที่ไกล อาจส่งผลกระทบกับคนไทยในตลาดโรงเกลือ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทาง กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีเครื่องมือทางเทคนิค และจะมีหน่วยงานในพื้นที่รับผิดชอบ
ส่วนการสร้างกำแพงแนวชายแดน 55 กิโลเมตร จะมีความเป็นได้มากน้อยแค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องไปดูรายละเอียด เพราะมีแบบอย่างต่างประเทศสร้างกำแพงชายแดน เช่น สหรัฐอเมริกา เราก็ต้องไปดูว่าการสร้างกำแพงของประเทศไทย จะป้องกันปัญหาเรื่องอะไร แล้วจะช่วยได้มากน้อยเพียงใด โดยขออนุญาตยังไม่ตอบ เพราะต้องไปดูเรื่องทางเทคนิคเยอะ ไม่ว่าจะเป็นกำแพงปูน ลวดหนาม หรือตาข่าย เป็นต้น
สำหรับมาตรการการตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า แนวชายแดนกัมพูชาเป็นเรื่องยาก ไม่เหมือนเมียนมา จะมีแนวทางหรือวิธีการอื่นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อสักครู่ที่ผ่านมารัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ก็ได้โทร.เข้ามาหารือกัน โดยในส่วนของประเทศกัมพูชาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเราจะดำเนินการเพียงพื้นที่ๆเกิดปัญหา และก็ต้องขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่ได้หารือและสะท้อนแนวทางเพื่อที่จะร่วมกันในการแก้ไขปัญหา ซึ่งจะดำเนินการอย่างไร ก็จะต้องฟังการแถลงและการเสนอของที่ประชุม ประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง จริงๆรัฐบาลจะดำเนินการในพื้นที่ 5 จุดที่มีปัญหาของบัญชีม้า ยาเสพติด และเเก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องของภัยคุกคามแบบใหม่ ซึ่งเกิดจากสมองของมนุษย์ที่ทำร้ายคนทั้งโลก และมีปัญหาเชิงเทคนิคหลายเรื่องที่มีความท้าทาย ในส่วนของเราก็เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมให้เกิดความเหมาะสมในการทำกิจการ
“คาดว่า 6 เดือนต่อจากนี้จะพบว่าการดำเนินการตามแนวเขตชายแดน ทั้งเรื่องยาเสพติด เเก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ ที่เป็นปัญหาเดียวกันที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน ฉะนั้นการซีลชายเเดน 51 อำเภอ 14 จังหวัด จะครอบคลุมทุกปัญหา” นายภูมิธรรม กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี