‘รัฐสภา‘ ล่มเจอเกมล้มโต๊ะป่วนแก้รธน.! องค์ประชุมไม่ครบนัดใหม่พรุ่งนี้ ด้าน ’ปชน.-พันธุ์ใหม่‘ ประสานเสียงโวยแหลกเป็นความพินาศ แฉเจอบล็อคประตูไม่ให้เข้า-ออกห้องประชุม
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ…. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา256 และเพิ่มเติมหมวด15/1) จำนวน2ญัตติ ของพรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย ภายหลังจากที่มติของรัฐสภา ไม่เลื่อนญัตติที่เสนอโดยนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ที่ขอให้รัฐสภาลงมติส่งศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาเกี่ยวกับปัญหาหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา มาตรา 210 (2) และมี สว.บางส่วนขอวอล์คเอาท์ ออกจากห้องประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในห้องประชุมมีความวุ่นวายมากขึ้น หลังจากที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายต่อการแสดงออกของสว.บางส่วนว่า โดยปกติการเข้าหรือออกจากห้องประชุมสามารถทำได้เลย ทำไมต้องกดไมค์แจ้งเพื่อขออนุญาตกับประธานรัฐสภา อยากให้ซักซ้อมว่าบางคนไม่เข้าใจ และองค์ประชุมถ้าหากยังครบ ก็ยังเดินหน้าได้ หากใครจะไปไปได้เลย
ทำให้ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. อภิปรายสำทับเช่นกันว่า เมื่อกระบวนการโหวตเสร็จสิ้น ผลออกมาไม่ถูกใจ ทำไมไม่ยอมรับมติ ทำไม่บอกว่าถ้าแพ้มติแล้ววอล์คเอ้าท์เดินออก ตรงนี้เป็นภาพลักษณ์ที่พินาศของรัฐสภาแห่งนี้ เราอยู่กันในระบอบประชาธิปไตย แต่เราไม่ยอมรับกติกาแบบนี้
ทำให้นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงน.ส.นันทนาว่า ให้ข้อมูลพาดพิงว่าเราไม่เห็นด้วยกับการลงมติ และตั้งใจวอล์คเอาท์เพื่อบอยคอต ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยและฝั่งที่ลงมติให้เลื่อนญัตติ ยืนยันว่าแม้จะลงมติแล้วแพ้ไป ก็ยังอยู่ในห้องประชุม คนที่เดินออกไม่ใช่พวกเรา กรณีที่น.ส.นันทนา ระบุนั้นทำให้เสียหาย อาจทำให้เข้าใจผิด
ทั้งนี้การประท้วงดังกล่าวยังดำเนินต่อไปจนนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. เสนอญัตติให้นับองค์ประชุม เนื่องจากพบว่ามีสมาชิกรัฐสภาบางส่วนวอร์คเอาท์จากห้องประชุม ทั้งนี้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอญัตติให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ แต่ภายหลังได้ถอนออกไป เพราะไม่อยากให้รัฐสภาต้องเสียเวลา ทำให้ต้องใช้การแสดงตนผ่านการกดบัตรแสดงตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมรัฐสภายังคงเต็มไปด้วยความวุ่นวายมีการประท้วงต่อการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาที่ไม่ยอมแสดงตนเป็นองค์ประชุมและมีการระบุว่าไม่ให้สมาชิกเข้าร่วมการประชุม โดยนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน หารือว่า พบว่ามีการปิดประตูทางเข้า-ออกของห้องประชุมรัฐสภาบางประตู เพื่อไม่ให้มีการเข้าออก ขอให้ตรวจเช็คเรื่องดังกล่าว และขอให้รอสมาชิกมาแสดงตน เนื่องจากสมัยรัฐสภาที่แล้วมีการรอองค์ประชุมนานถึง 53 นาที
ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยต่อการเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นหนทางที่จะแก้ไขได้ หากญัตติค้างอยู่จะยังทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ต่อไป แต่เมื่อมติไม่ชนะ หากจะเดินหน้าก็ตกอีก ดังนั้นจึงต้องการให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญค้างในสภา และตั้งหลักสู้ต่อไป จึงออกมาในแนวที่เห็น การเป็นองค์ประชุมหรือเลื่อนหรือไม่ เป็นวิธีการให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ ไม่ใช่ได้แก้เพื่อบอกประชาชนว่าได้ทำแล้ว
“เมื่อจะแก้ไขได้จริงๆ สถานการณ์วันนี้ บอกตรงๆ ว่าหากลงมติคิดว่าตก หากเดินไปสู่การลงมติจะตก และนำกลับมาสู่การแก้ไขไม่ได้ง่ายๆ ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อทางตรงมันติด ต้องจึงขอใช้วิธีทางอ้อม ด้วยการส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ญัตติแก้รัฐธรรมนูญไม่ตกไป หากศาลบอกว่าทำได้ จะได้เดินต่อเพื่อให้เห็นหนทางที่ทำให้สำเร็จ” นายสุทิน อภิปราย
อย่างไรก็ดีที่ประชุมมีการเรียกร้องให้ สส.แสดงตนเป็นองค์ประชุม และมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ย้ำกับที่ประชุมว่าไม่ให้สิทธิประท้วงใด ๆ และเดินหน้าการแสดงตนเป็นองค์ประชุม ก่อนจะประกาศผลการแสดงตนว่ามีผู้เข้าร่วมประชุม 204 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุมต้องปิดการประชุมทำต่อไปไม่ได้ เลิกการประชุมและขอนัดประชุมใหม่ในวันที่ 14 ก.พ. เวลา 09.30 น. มาแล้วขอให้ลงชื่อเมื่อครบจะได้ดำเนินการต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี