ลุ้น!อัยการนัดถก‘ดีเอสไอ’17ก.พ.น
หมายจับ‘หม่องชิตตู’
‘โรม’กระทุ้งรัฐบาลเร่งดำเนินการ
ปูดเมียนมาขนน้ำมันผ่านอันดามัน
จเรตร.เล็งหารือทูตหลายประเทศ
ทำแผนรับเหยื่อแก๊งคอลฯกลับปท.
อัยการคดีค้ามนุษย์ประชุมปมหมายจับ “หม่องชิตตู” ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง ก่อนนัดถกดีเอสไอเคาะออกหมายจับหรือไม่ 17 กุมภาพันธ์ ด้านกลาโหมแจงกรณีสร้างรั้วชายแดนกั้นไทย-เขมร เป็นเพียงแผนงานที่ต้องศึกษาก่อนยังเร็วไปที่จะสร้าง มาตรการล้างบางแก๊งคอลฯพ่นพิษ ย้าย 2 นายตำรวจ “ผกก.ตม.ตาก เข้าศปก.ตม. และสวป.สภ.แม่สอด สงสัยเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกนักท่องเที่ยวข้ามแดนด้านจเรตำรวจแห่งชาติเตรียมหารือทูตวางแผนรับตัวเหยื่อที่ถูกเมียนมาส่งกลับ เผยกลุ่มที่ข้ามไปทำงานประเทศเพื่อนบ้านมีเพียง 1%ที่ถูกหลอก นอกนั้นเต็มใจไปเอง
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำหลักฐานเข้าหารือพนักงานอัยการ สำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ในประเด็นข้อกฎหมายการออกหมายจับพันเอกหม่องชิตตู ผู้นำกองกำลัง BGF หรือผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง กองกำลังสำคัญที่ปกครองเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมาว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอเเละพนักงานสอบสวน ดีเอสไอเดินทางไปสอบปากคำกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อสอบถามในประเด็นเกี่ยวกับกองกำลังของพ.อ.หม่อง ชิต ตู่ ผู้นำกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Army: KNA) หรือในชื่อเดิมคือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force: BGF) ตามคำแนะนำของพนักงานสำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ โดยที่สำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ได้ส่งพนักงานอัยการไปร่วมสอบกับทางดีเอสไอด้วย
ลุ้น17กพ.เคาะหมายจับหม่องชิตตู
หลังสอบเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปมีรายงานว่าวันนี้สำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์จะประชุมประเด็นเรื่องการสอบเพิ่มดังกล่าวเเละจะนัดหารือกับดีเอสไอวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ถ้าอัยการและดีเอสไอมีข้อสรุปร่วมกันได้ จะนำไปสู่ขั้นตอนการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อออกหมายจับพ.อ.หม่อง ชิตตูกับพวกต่อไป
กห.แจงสร้างรั้วชายแดนแค่แผนงาน
ด้านพลตรีธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหมลงพื้นที่จังหวัดสระแก้วรับฟังข้อคิดเห็นจากหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองในอ.อรัญประเทศ ซึ่งมีช่องทางธรรมชาติยาว 165กิโลเมตร และมีการบูรณาการวางลวดหนามประมาณ 55 กิโลเมตร ที่เหลือยังคงเป็นช่องทางธรรมชาติ ติดพื้นที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมในการหลบหนีเข้าเมือง หน่วยงานความมั่นคงไม่สามารถตรวจการณ์ได้ตลอดเวลา จึงเสนอสร้างกำแพง ซึ่งหลายประเทศทำอยู่เช่น เม็กซิโก คือปิดรั้วรอบขอบชิด ส่งผลให้การตรวจสอบง่ายขึ้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดและเครื่องปั่นไฟที่จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนทำให้เห็นภาพมีใครข้ามไปมา เจ้าหน้าที่จะปฎิบัติหน้าที่ได้สะดวกขึ้นทั้งนี้ นายภูมิธรรมรับข้อมูลมาศึกษาและรัฐบาลอาจมีข้อมูลได้มากกว่านี้เพื่อมาเสริมการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเสนอเรื่องโดรนช่วยปฏิบัติงาน
“ยืนยันว่า เป็นเพียงแผนงานของรัฐบาลที่จะนำมาพิจารณา หาแนวทางร่วมกันอีกครั้งปัจจุบันยังไม่มีการสร้างกำแพงเพราะเร็วเกินไป ต้องศึกษารูปแบบแนวทาง ภายใต้พื้นที่ที่ชัดเจนที่ต้องไม่ติดพื้นที่ที่ทับซ้อนกัน รวมถึงการวิเคราะห์ผลกระทบของคนทั้งสองประเทศ ซึ่งมีของเอกชนที่ทำไปได้บ้างแล้ว ส่วนเส้นทาง 55 กิโลเมตร ที่จะดำเนินการเป็นช่องทางธรรมชาติ และเป็นจุดล่อแหลม”พล.ต.ธนาธิป กล่าว
“โรม”ข้องใจยังออกหมายจับไม่ได้
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ซึ่งมีวาระพิจารณาปัญหาท่าข้ามชายแดนที่เชื่อมโยงปัญหาคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดตามแนวชายแดน หลังไทยตัดไฟฟ้าสัญญาณอินเทอร์เน็ต และงดส่งน้ำมันไปเมียนมาว่าตนกังวลเรื่องการออกหมายจับพันเอกหม่องชิต ตู่ ซึ่งรู้ดีว่าเป็นความท้าทายและต้องวัดฝีมือของตำรวจที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างน้อยที่สุดการออกหมายจับจะทำให้ทุนสีเทาฝั่งไทยไม่สามารถสมคบคิดกับแก๊งอาชญากรข้ามชาติได้ง่ายดายอีกต่อไป เพราะเสี่ยงผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐหากไปคุยกับคนเหล่านี้แบบฉันท์มิตรเหมือนที่ผ่านมา ก็อาจผิดกฎหมายไปด้วย การออกหมายจับเป็นการแยกสิ่งชั่วร้ายออกไป แต่เป็นเรื่องน่าเสียดาย ไม่รู้ว่าเกิดความผิดพลาดอย่างไร อัยการจึงไม่เห็นด้วยจนไม่สามารถออกหมายจับได้สำเร็จ
ซัดบุคคลอันตรายนานาปท.คว่ำบาตร
“หลายประเทศมองหม่องชิต ตู่ เป็นผู้ก่อการร้าย มีการคว่ำบาตรแต่เป็นไปได้อย่างไรที่ไทยไม่รับรู้ขอเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรมเอาจริงเอาจัง ถ้าเราไม่อยากให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับมาอีกแล้ว เราจำเป็นต้องปราบปรามโครงสร้างอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด”นายรังสิมันต์กล่าว และเผยว่า หม่องชิต ตู่ คือผู้คุมความลับหลายอย่าง เขาเคยบอกว่าถ้าเขาเป็นอะไร คนอื่นก็ไม่รอดด้วย ถ้าเราไม่ดำเนินการจริงจังกับหม่องชิต ตู่ หมายความว่าอะไร หรือถ้าเราเจอตอหรือทุนสีเทาของไทยมีอิทธิพลใหญ่กว่ากฎหมาย หม่องชิต ตู่ ก็รู้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เขารอดได้ ถ้ารัฐบาลนี้อยากทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย และเอาจริงกับการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ มีทางเลือกเดียวคือ เราต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดกับหม่องชิต ตู่ แต่ไทยกลับบอกหลักฐานไม่พอ ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ตลกมาก
ปูดส่งน้ำมันให้เมียนมาทางอันดามัน
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังต้องดูเรื่องการฟอกเงินด้วย หากหม่องชิต ตู่ มีทรัพย์สินในประเทศไทย และรัฐบาลไทยปล่อยไว้ให้เกิดการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน เจ้าหน้าที่รัฐคนใดจะรับผิดชอบตนไม่เข้าใจว่ารออะไรกันอยู่ส่วนที่มีข้อมูลว่ามีการส่งน้ำมันไปเมียนมาเข้ามาจากเส้นทางอันดามัน ตนก็ได้ข้อมูลมาเช่นเดียวกัน จากการลงพื้นที่กับผู้นำฝ่ายค้านเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จึงแจ้งผู้บัญชาการภาคที่ 9 ว่ามีข่าวแบบนี้ ซึ่งท่านก็ได้ยินทำนองเดียวกัน คงต้องติดตามต่อไปว่ามีจริงหรือไม่บางส่วนก็มีข่าวว่า เมเนเจอร์ทุนจีนเทาได้หลบหนีไปเชียงใหม่แล้ว แต่ทุกภาคส่วนต้องตื่นตัวเพราะนี่เป็นวาระแห่งชาติ
ย้าย“ผกก.ตม.ตากปมนทท.ถูกหลอก
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ลงนามคำสั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ 24/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความโดยสรุปว่า จากกรณีนักท่องเที่ยวถูกมิจฉาชีพหลอกลวงมาไทยแล้วหายตัวไปบริเวณชายแดนเมียนมา อีกทั้ง มีการลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติในอ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของพ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก เพื่อให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริงชัดเจนพอสำหรับการพิจารณาพฤติการณ์และหลักฐานเบื้องต้นว่ากรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดวินัยหรือไม่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงมีคำสั่งให้ให้พ.ต.อ.บวรภพ ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
“สวป.สภ.แม่สอด”โดนด้วย
ขณะเดียวกัน มีหนังสือลงนามคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดตากที่ 77/2568 ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการด้วย ร้อยตำรวจโทมานพ ศิวาดำรงค์ สายงานปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรแม่สอด มีกรณีต้องสงสัยว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และมีฐานะความเป็นอยู่ที่ร่ำรวยผิดปกติ อาจได้ทรัพย์สินมาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดตากได้สั่งให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริงไปด้วยแล้ว เพื่อให้การสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และป้องกันมิให้ผู้นี้เข้าไปยุ่งเหยิงหรือแทรกแซงการสืบสวนข้อเท็จจริงและเพื่อให้การบริหารราชการภาพรวมของตำรวจภูธรจังหวัดตาก เป็นไปด้วยความเรียบร้อยจึงให้ร้อยตำรวจโทมานพ ศิวาดำรงค์ รองสารวัตร สายงานปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรแม่สอด จังหวัดตาก ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม
พอใจแผนสกัดแก็งคอลฯ-เริ่มปล่อยเหยื่อ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศตคม.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.)กล่าวถึงผลจากมาตรการป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เริ่มใช้กระทั่งเริ่มมีการส่งคืนกลุ่มผู้เสียหายหลายร้อยคนว่า เป็นที่น่าพอใจ จากการรวบรวมข้อมูลของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพบมีคนหลายชาติใช้เส้นทางอ.แม่สอด จ.ตาก ทั้งแบบถูกต้องและเส้นทางธรรมชาติข้ามพรมแดนมีกลุ่มคนที่ไม่มีแผนการท่องเที่ยวหรือที่พักจำนวนมาก ตำรวจสืบค้นย้อนหลังเพื่อตามหาว่ามีการข้ามไปและกลับออกมาแล้วหรือไม่
ยันไม่มีถูกหลอกในไทย-100%สมัครใจ
“ต้องยอมรับว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เดินทางข้ามพรมแดนสมัครใจเดินทางไปเอง และยืนยันว่าไม่มีการถูกหลอกในประเทศไทย สำหรับผู้ที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาจเป็นการหลอกให้ไปทำงานโดยแจ้งว่าเป็นงานอีกประเภท โดยผู้ที่ไปเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา นอกจากไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้วยังไปทำงานอื่นอีก ทั้งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ โรงแรม ร้านอาหาร และบ่อนพนันออนไลน์ สำหรับคนที่ถูกหลอกข้ามประเทศไปจริงๆมีสัดส่วนน้อยมากเพียง 1% เช่นกรณีของดาราจีน นอกนั้นเดินทางไปด้วยความเต็มใจ”จเรตำรวจแห่งชาติกล่าวและว่า การหลอกให้ไปทำงานฝั่งเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา พบมีกลุ่มผู้เสียหายหลายเชื้อชาติทั่วโลก เริ่มต้นจากคนจีนหลอกคนในชาตินั้นๆ เพื่อไปกระทำการหลอกคนในชาติตัวเอง คนไทยจะเกี่ยวข้องเรื่องการไปรับจ้างเปิดบัญชีม้า แต่คนไทยที่จะถูกหลอกไปทำงานจริงๆส่วนมากจะถูกหลอกไปฝั่งกัมพูชา และลาว
17กพ.ถกทูตวางแผนรับตัวเหยื่อกลับปท.
พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวอีกว่า จากนี้การรับตัวเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้ามาในไทยคาดว่าศูนย์สั่งการชายแดนดูแลเต็มที่แล้วส่วนของตนก็จะเข้าไปเพิ่มเติมด้านความเรียบร้อยและวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์จะเชิญฑูตประเทศต่างๆมาเตรียมความพร้อมรับประชากรในชาติตัวเองกลับไปส่วนการคัดกรองเหยื่อกับมิจฉาชีพปัจจุบันใช้แบบสอบถามและขั้นตอนกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism) หรือ NRM รวมทั้งใช้มาตรการสืบสวนสอบสวนเข้ามาร่วมด้วยโดยใช้ฐานข้อมูลจากระบบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้อมูลจากแต่ละสถานทูต มาเชื่อมโยงกันเพื่อคัดแยกกลุ่มบุคคลล่าสุดในกลุ่ม 260 คน ที่ไทยเพิ่งรับมา ฟิลิปปินส์ได้ให้ข้อมูลมาว่ามีหนึ่งบุคคลเป็นผู้ต้องหาในกระบวนการค้ามนุษย์แต่มาแอบอ้างว่าเป็นเหยื่อเชื่อว่าระบบระบบของไทยเป็นไปด้วยดีทำให้สามารถคัดแยกผู้เสียหายตัวจริงกับกลุ่มมิจฉาชีพที่มาแฝงตัวได้ ยืนยันว่า ไม่ใช่ทุกรายที่กลับเข้ามาในประเทศไทยจะถูกบรรจุว่าเป็นเหยื่อ ตร.จะคัดกรองอย่างละเอียดการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่ทำเฉพาะฝั่งเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา แต่จะปราบปรามฝั่งลาวและกัมพูชาด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี