"นายกฯ"เรียกด่วน"ผู้นำเหล่าทัพ"หารือความมั่นคง ขอบคุณร่วมแก้ปัญหาทุกมิติ โฟกัส"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ชูมาตรการเด็ดขาด"ตัดน้ำมัน-ไฟฟ้า"ได้ผล จี้คกก.นโยบายชายแดน ขยายแผนงาน ก่อนกลับรายงานผล 1 เดือน ขณะที่“ภูมิธรรม”คุยลั่นเบื้องต้นประสบผลสำเร็จ เล็งบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทำงานต่อเนื่อง ลั่น ไม่ใจอ่อนลดระดับมาตรการ
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่าน X ระบุว่า ประชุมกับผู้นำเหล่าทัพ หารือเรื่องความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนค่ะ
บ่ายวันนี้ ได้พบหารือกับรองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ท่านภูมิธรรม เวชยชัย และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม และ 4 ผู้นำเหล่าทัพพร้อมด้วยปลัดกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย พล.อ. สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.สส., พล.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. , พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. และ พล.ร.อ. จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. พบหารือถึงความมั่นคงปลอดภัยทุกมิติของพี่น้องประชาชน
โอกาสนี้ ดิฉันได้แสดงความขอบคุณต่อการทำงานหนักและเด็ดขาดของหน่วยงานความมั่นคง ทั้งเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติ คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ ที่ร่วมกันแก้ปัญหาต่างๆ จนทำให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลายไปได้ด้วยดี
อย่างไรก็ตามค่ะ ปัญหาหลายเรื่องยังมีอยู่และต้องดำเนินการทำงานอย่างต่อเนื่อง ตรงจุด ด้วยแผนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องอาศัยการทำงานร่วมกันต่อไปค่ะ
โดยเฉพาะเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่คุกคามชีวิตพี่น้องประชาชน เป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเดินหน้าแก้ปัญหาต่อไป ที่ผ่านมามาตรการตัดเส้นทางลำเลียงน้ำมัน-ตัดไฟ ถือเป็นมาตรการที่เด็ดขาดและได้ผล นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีค่ะ แต่โอกาสนี้ ดิฉันขอเร่งรัดคณะกรรมการโยบายด้านชายแดน ให้ขยายแผนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และขอให้รายงานกลับมาอีกครั้งในเวลา 1 เดือนค่ะ
ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และความมั่นคงอื่นๆ ที่กล่าวถึงข้างต้น ถือเป็นวาระใหญ่ของรัฐบาล เพราะคือความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน รัฐบาลเดินหน้าเต็มที่ และพร้อมทำงานอย่างบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว ตรงจุด และแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและยาวโดยเร็วค่ะ
จากนั้น ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีเรียกหน่วยงานด้านความมั่นคง หารือที่ตึกไทยคู่ฟ้า ว่า "เรื่องคอลเซ็นเตอร์ อัพเดต" เมื่อถามว่า จะให้กลับมารายงานผลใน 1 เดือน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "อ๋อๆ คะ ให้อัพเดตกันเรื่อยๆ"
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกหน่วยงานความมั่นคงเข้าหารือ ว่า ทุกเหล่าทัพได้มีการรายงานสถานการณ์ต่อหน้านายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะความคืบหน้าการปราบปรามแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ภายหลังที่เปิดปฏิบัติการซีลแนวชายแดน 51 อำเภอ ถือว่าปฏิบัติการที่ดำเนินการในช่วงต้นประสบความสำเร็จ โดยการกดดันในครั้งนี้ทำให้มีการเคลื่อนไหว ปิดสถานบันเทิง ที่มีข่าวเกี่ยวข้องกับคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่แน่ชัดว่าไทยต้องการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ให้ออกจากพื้นที่ ต้องมีการตรวจสอบคนที่ขอความช่วยเหลือ เมื่อเคลียร์ปัญหานี้แล้วต้องหาช่องทางดำเนินการต่อไป จะดำเนินการต่อเนื่อง และมีการสำรวจกลุ่มคนที่เดินทางเข้าไปทำงาน บางส่วนต้องมีการแยกแยะให้ชัดเจนหากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ก็จะส่งตัวให้กับสถานทูตมารับ ส่วนประเทศไหนที่มีคนจำนวนมากจะเช่าเหมาลำเครื่องบินมารับ ยืนยันว่าไทยจะไม่ยินยอมให้เป็นศูนย์อพยพ เมื่อได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันแล้วก็นำข้อมูลนี้ไปดำเนินการเพื่อให้ได้มาตรฐานและแก้ปัญหาให้ได้มากที่สุด และข้อมูลทั้งหมดให้บูรณาการทำงานร่วมกัน เพื่อที่จะได้มีข้อมูลที่ชัดเจน เวลานี้ได้นำทุกเหล่าทัพและส่วนที่เกี่ยวข้องมาทำงานเชื่อมกับฝ่ายการเมือง เพราะบางเรื่องฝ่ายปฏิบัติเมื่อมาถึงระดับที่ตัดสินใจแล้วอาจจะไม่รู้ว่าต้องตัดสินใจดำเนินการต่ออย่างไร ดังนั้น การพูดคุยวันนี้ ตนเองซึ่งประสานงานโดยตรงสามารถตอบแทนฝ่ายการเมือง แทนนายกรัฐมนตรีได้ จะทำให้ส่วนที่เกี่ยวข้องทำงานได้อย่างบูรณาการ โดยรวมมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการระงับโซลาร์เซลล์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องที่แจ้งไปแล้วว่ากำลังดำเนินการอยู่ แต่หัวใจของการพูดคุยวันนี้ถ้าสามารถซีลทั้งหมดได้เราก็สามารถจัดการพื้นที่ชายแดนได้ เรื่องนี้มีความคืบหน้ามากขึ้น ทั้งนี้ ในที่ประชุม นายกฯ ได้ขอบคุณทุกฝ่ายที่ตั้งใจทำงาน และขอให้ทุกฝ่ายทำงานประสานงานกันให้ได้มากขึ้น แต่ในที่ประชุมไม่ได้พูดถึงเรื่องของหมายจับพันเอกหม่องชิตตู เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ
เมื่อถามว่า กองกำลังต่างๆ ของชายแดนเมียนมาออกมาแสดงท่าทีเอาจริงเอาจังที่จะปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะทำให้รัฐบาลไทยใจอ่อนถึงขั้นลดระดับความเข้มข้นของมาตรการลงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องใจอ่อนหรือไม่ใจอ่อน แต่เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ตรงเป้าหมาย ปัญหาของเราคือ 1.ต้องเอาคอลเซ็นเตอร์ออกไปให้ได้ 2.จะไม่ให้ใช้พื้นที่ของเรา มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดและค้ามนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ถ้าเข้าใจตรงนี้ได้เราก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องไปประท้วง หรือสร้างเงื่อนไขต่อ เพราะถือว่าเราได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายแล้ว ถ้าเป็นไปตามเป้าหมายเรามีสิทธิ์คืนให้กับเขาได้ แต่ถ้ายังแก้ไขปัญหาไม่ได้ต้องดำเนินการต่อ
เมื่อถามว่า เป้าหมายของรัฐบาล คือหมดสิ้น 100% หรือลดลงอย่างเห็นได้ชัด นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่สามารถพูดได้ว่าหมดสิ้น 100% แต่ต้องให้เห็นชัด ให้ทุกคนรู้สึก เช่น เบอร์โทรศัพท์ลดลง คดีลดลง ต้องว่าไปตามสัดส่วนและต้องประเมินสถานการณ์ตลอด โดยจะมีทีมที่ช่วยตัดสินใจและรวบรวมหลักฐานอยู่ เมื่อถามอีกว่า ในวงหารือมีการหารือถึงฐานแก๊งมิจฉาชีพ ที่อยู่ปอยเปต ประเทศกัมพูชาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า บางอย่างที่พูดคุยเขาไม่ให้บอก เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงาน
เมื่อถามถึงแนวคิดสร้างกำแพงแนวชายแดนที่ติดกับปอยเปต มีความเป็นไปได้แค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้ไปหาข้อสรุปถึงขั้นนั้น แต่คงต้องมีกระบวนการไปดู เพราะเป็นข้อเสนอของคนในพื้นที่ก็ไม่ปฏิเสธและนิ่งเฉย ต้องดูรายละเอียด เมื่อถามอีกว่า ถ้ามีการก่อสร้างกำแพงระยะ 55 กิโลเมตร ประเมินไว้หรือไม่ว่าจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าจะสร้างหรือไม่ มองว่าผิดขั้นตอนไป ขอให้เรามีการตัดสินใจก่อน เมื่อตัดสินใจแล้วจะมีกระบวนการตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจที่จะดำเนินการ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วจะมีการแจ้งความคืบหน้าเป็นระยะ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจัง ถ้าดูตั้งแต่เริ่มคิกออฟมาตรการ มีกระบวนการหลายอย่างเกิดขึ้นตามมา และเห็นได้ว่าไม่ได้หยุดนิ่งเลย ทุกอย่างพุ่งเป้าไปที่การจัดการปัญหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องในวันวาเลนไทน์ นายภูมิธรรม ได้ติดสติกเกอร์รูปหัวใจบนปกเสื้อสูท โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ได้หัวใจจากนายกฯใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ยิ้มก่อนจะเปิดเผยว่า เปล่า และไม่ขอบอกว่าได้จากใคร จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างการพบนายกฯ บนตึกไทยคู่ฟ้า ได้พบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.หาดไทย ที่เข้าพบนายกฯด้วยหรือไม่ และได้อวยพร Happy Valentine‘s Day ให้กันหรือไม่ นายภูมิธรรมจึงบอกว่า “ผมใช้เครื่องหมายการยิ้มให้เป็นวาเลนไทน์เดย์ วาเลนไทน์ของผมมีทุกวัน”
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี