‘อนุทิน’เดือด!ถูกโยงสนามกอล์ฟทับที่สปก.
ด่า‘หน้าตัวเมีย’
ยืนยันได้มาถูกต้องมีโฉนดทุกใบ
ซัดเกมการเมือง/จดลงบัญชีแค้น
‘ธนดล’ลั่นไม่ได้เจาะจงที่ดินใคร
ปูดสปก.โคราชโดนรุก4หมื่นไร่
“อนุทิน”เดือด!ด่าแรง “หน้าตัวเมีย”หลังถูกแฉสนามกอล์ฟทับที่ ส.ป.ก.ยืนยันได้มาถูกต้อง มีโฉนดทุกใบ ฟาดกลับรับงานหรือไม่ ซัดเป็นเกมการเมือง ทุกคนรู้ว่าใครเป็นคนทำ ขอจดลงบัญชีแค้น ทบต้นทบดอก เผยอธิบายให้นายกฯ ฟังแล้ว “ธนดล” คณะที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ปูดนิคมสร้างตนเองรุกที่ ส.ป.ก. ออกโฉนดพื้นที่ อ.ปากช่อง โคราช 4 หมื่นไร่ แฉยับสร้างบ้านจัดสรรราคาแพงมาก กลุ่มจีนเทาและผู้มีอิทธิพล แห่ซื้อเพียบ เตรียมนำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบในวันอังคารหน้า ขอไม่ตอบโต้“อนุทิน” ระบุ เป็นเด็กยอมรับการสั่งสอน เผยตรวจสอบเบื้องต้นที่สนามกอล์ฟ มีเอกสารถูกต้องแต่อยู่ใจกลางพื้นที่ ส.ป.ก.
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และประธานคณะทำงานขับเคลื่อนตรวจสอบการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ได้ให้สัมภาษณ์ทางรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ดำเนินรายการโดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และอมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ โดยระบุว่า วันนี้จะมีการแถลงข่าว เรื่องการออกโฉนดโดยไม่ชอบในพื้นที่ 4 หมื่นไร่โดยประมาณ ทับพื้นที่ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ใน อ.ปากช่อง (เขาใหญ่) จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นผลจากการตรวจสอบต่อเนื่อง กรณีการออกโฉนดที่ดินสปก 4-01 บ้านเหวปลากั้ง จึงตรวจไปพบการออกโฉนดทับซ้อนที่ดิน ส.ป.ก. ในพื้นที่ 8 ตำบล ของ อ.ปากช่อง ซึ่งในจำนวนนี้มีสนามกอล์ฟของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรวมอยู่ด้วย
นายธนดล เปิดเผยด้วยว่า นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเพิ่มเติมยังพบด้วยว่า นิคมสร้างตนเองซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีการขยายเขตพื้นที่เข้าไปในเขตพื้นที่ของ ส.ป.ก. โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมาย ในกรณีที่ผู้ใดถือครองที่ดิน น.ค.3 มาแล้ว 5 ปี สามารถมาขอออกโฉนดที่ดินได้ เพื่อให้ประชาชน ได้ใช้ทำมาหากิน แต่กลับมีข้าราชการบางคน ขยายเขตพื้นที่เข้าไปทับซ้อนกับส.ป.ก เบื้องต้นพบว่าเป็นจำนวน 4 หมื่นไร่ แต่ในข้อเท็จจริงต้องมากกว่านั้นอย่างแน่นอน
“อนุทิน”เดือด!ฉะ‘หน้าตัวเมีย’
ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีรายการเจาะลึกทั่วไทย เปิดเผยพื้นที่สนามกอล์ฟของนายอนุทิน ที่ตั้งอยู่ใน อ.ปากช่อง (เขาใหญ่) จ.นครราชสีมา ทับซ้อนกับที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ว่า “ไม่ใช่สนามกอล์ฟของนายอนุทิน เป็นสนามกอล์ฟของครอบครัวผม”
นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ทราบมาการได้มาของที่ดินสนามกอล์ฟทุกแปลงได้มาโดยสุจริต เป็นโฉนดทุกใบ มีเอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ว่าไปได้มาก่อนแล้วมาออกโฉนด ได้มาเป็น 10 ปีแล้ว ดังนั้นไปตรวจสอบกัน
“เรื่องนี้ก็ธรรมดาถือมาเป็น 10 ปีแล้วไม่เห็นมีใครมีปัญหาหรือมีคำถาม แต่พอมาอยู่ตรงนี้มามีประเด็นก็เอาเรื่องนี้โผล่ขึ้นมา ผมว่า “หน้าตัวเมีย” แต่ก็พร้อมให้ตรวจสอบ” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า “อีกฝ่ายเล่นนอกเกม ถ้าเป็นฝ่ายการเมืองมาเล่นแบบนี้ก็หน้าตัวเมีย ทีคุณหมาแก่ เอาไปออกรายการแบบนี้ก็ยังไม่มีการตรวจสอบ ทีเรื่องอื่นก็โทรตามผมจัง ทั้งหมาแก่และแมวสาว ถามแล้วถามอีกนอกรงนอกรอบ แต่พอมาเรื่องนี้เอาไปออกโดยไม่ถามสักคำ” จากนั้น นายอนุทิน ยักไหล่ และกล่าวทิ้งท้ายว่า “ไม่รู้สิ รับงานหรือเปล่า”
บอกทุกคนรู้ใครอยู่เบื้องหลัง
เวลา 14.15 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เดินลงจากห้องทำงานตึกบัญชาการ 1 ไปยังตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ไปหารือกับนายกฯ ไม่ได้ประชุม ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟที่ จ.นครราชสีมา ที่อยู่ ๆ เป็นประเด็นขึ้นมา นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นประเด็นที่อยู่ดีๆ ก็โผล่มา ไม่มีปัญหาหรอก เดี๋ยวเขาก็แถลง ซึ่งหลังจากเป็นข่าวตนได้ตรวจสอบก็ไม่มีอะไร ได้ที่ดินมาโดยสุจริต 100% อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าเป็นเกมการเมืองใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า 100% อยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่า รู้หรือไม่ว่าเป็นกลุ่มไหน นายอนุทิน กล่าวย้อนกลับทันทีว่า “มีใครไม่รู้ล่ะ” เมื่อถามอีกว่าเป็นอย่างนี้จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันคนละเรื่องกัน ถามต่อว่าที่ไปพบนายกฯที่ตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อขึ้นไปเคลียร์ใจเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ถามอีกว่าใช่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้หรือไม่ นายอนุทิน ทำท่ายกนิ้วขึ้นจุ๊ๆ ปาก ก่อนจะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อไปพบนายกรัฐมนตรีทันที
จดลงบัญชีแค้นทบต้นทบดอก
ต่มมา เวลา 15.25 น. นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีการถูกตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังเกิดเหตุสภาล่ม มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ว่า ถ้าเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง แล้วมาหาเรื่องกันในเรื่องส่วนตัว เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตนไม่มีความกังวลหรือเดือดร้อนใด ๆ เนื่องจากเป็นคนที่มีความระวังมากที่สุดอยู่แล้ว เวลาครอบครัวจะไปลงทุนอะไรดูหมด ยกตัวอย่างว่า การซื้อที่ดินก็ซื้อโฉนดลูกเดียวไม่เคยมัดจำ เพราะกลัวหากมัดจำแล้วเจ้าของที่ดินจะไปถูกรถชนตาย แล้วจะไปเอาเงินที่ไหนคืน ฉะนั้น ถ้าเราพร้อมก็ไปลงทุนตรงโน้น ตรงนี้ไม่มีปัญหา ส่วนที่ดินที่เขาพยายามจะเอามาเล่นกันก็ซื้อโฉนด สมมุติถ้าออกโฉนดไม่ถูกก็ไม่ใช่ตนเป็นคนออก เปลี่ยนมือมา 6- 7 มือแล้ว หากออกโฉนดไม่ถูกก็ไปว่ากัน หากจะเพิกถอนต้องจ่ายเงินให้ตนมาก็แค่นั้นเอง หากไม่ถูกตนก็ไม่อยู่หรอก
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นเรื่องการเมืองจะทำให้เกิดความบาดหมางกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ถ้ามันทำกันขนาดนี้ ถ้าบอกขอบคุณนะที่ทำให้คงใช่ที่ ลงบัญชีไว้” ต่อข้อถามว่า ที่บอกว่ามีการลงบัญชีไว้ คือ การรอเอาคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ไม่รู้เมื่อไหร่ ดอกทบต้น”
ยืนยันได้มาโดยสุจริต
เมื่อถามอีกว่า แล้วดอกเบี้ยแพงหรือไม่นายอนุทินถึงกับหัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “เดี๋ยวนี้ดอกถูก” เมื่อถามว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ น.ค.3 และสุจริตใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สุจริตคือ ไปซื้อจากชาวบ้าน เขามีโฉนด มีเอกสารสิทธิ์ และมีการไปโอนที่กรมที่ดิน เก็บค่าธรรมเนียมการโอน ออกโฉนด โดยต้องมีการพิมพ์ชื่อเจ้าของใหม่เข้าไป มีการประทับว่าใครเป็นเจ้าพนักงานผู้โอน ดังนั้น เป็นการซื้อขายโดยบริสุทธิ์ ทั้งนี้ โฉนดใบนั้นมีคนบอกว่า 60 ปีที่แล้ว มีการออกโฉนดที่ไม่ถูกต้องก็ต้องไปตามกับคนที่ออกเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ถ้าตามได้แล้วเขาบอกว่าผิด กรมที่ดินก็ต้องจ่ายค่าเสียหายมาในราคาตลาด ถ้าหาราคาตลาดไม่ได้ต้องใช้ราคาประเมิน เพราะเดี๋ยวนี้ที่ดินแถวนั้น ซื้อขายเปลี่ยนมือกันทุกวันอยู่แล้ว
อธิบายให้นายกฯฟังแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้า ซึ่งมีช่วงหนึ่งระบุว่า หน้าตัวเมีย หมายถึงนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใช่หรือไม่ นายอนุทิน ได้แต่เพียงหัวเราะในลำคอ “หึหึ” แต่ไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด
นายอนุทิน ยังเปิดเผยว่า นายกฯได้สอบถามถึงกรณีปัญหาที่ดินดังกล่าว ซึ่งตนได้อธิบายไปทั้งหมดแล้ว ส่วนจะต้องเคลียร์ใจกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ในงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น เราไม่รู้ใครทำ ไปถามใครก็ไม่มีใครรับหรอก
ผู้สื่อข่าวถามว่า แม้ว่าจะยืนยันว่าการได้มาซึ่งที่ดินนั้นถูกต้อง แต่มีคนพยายามจะนำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็น นายอนุทิน กล่าวว่า มันเป็นตั้งแต่สมัยที่พ่อของตนเป็น รมว.มหาดไทยแล้ว ซึ่งมีคณะกรรมาธิการไปตรวจหมดแล้ว ไม่รู้กี่รอบ พอมาเป็นรัฐบาลเมื่อใดก็มีคนไปตรวจทุกที เมื่อถามว่า คนที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าจะทำงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า “ทำไมถึงมาเปิดตอนนี้ อย่างที่บอกไม่เป็นไรหากเปิดมาแล้วก็ทำให้จบ คนที่เพิกถอนคือกรมที่ดิน คิดว่าคงไม่มีใครมากลั่นแกล้งตนในกระทรวงมหาดไทย” เมื่อถามว่า อยากจะฝากอะไรไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า ทำไมต้องบอก
คำสั่งการเมือง500ล้านเปอร์เซ็นต์
เมื่อถามว่า นายธนดลต้องการให้กรมที่ดินลงพื้นที่เพื่อทำงานร่วมกันนั้น จะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะสั่งลอยๆ อย่างนี้ไม่ได้หรอก ต้องทำให้เป็นทางการ อยู่ดีๆ จะไปสั่งผ่านทีวีไม่ได้ ต้องทำเรื่องมา ทั้งนี้ อธิบดีกรมที่ดินกำลังรอตนอยู่ เพราะคนเพิกถอนคือ คนที่ออกโฉนด โอนโฉนด ตีความโฉนด คือ กรมที่ดิน โดยกรมที่ดินจะต้องออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ขนาดรองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยยังโดนแบบนี้ ประชาชนทั่วไปคนธรรมดา จะไปสู้กับเขาได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่ตนเคยให้นโยบายกับกรมที่ดินเอาไว้ ว่าต่อไปนี้หากโฉนดใครผิดหรือถูก หากออกโดยกรมที่ดินหรือคู่กรณีคือกรมที่ดิน ถ้าใครจะสู้ต้องสู้กับกรมที่ดิน เพราะคนที่ถือสิทธิ์ เขาเสียค่าธรรมเนียมไปแล้ว เมื่อเก็บค่าธรรมเนียมไปแล้วต้องปกป้องผลประโยชน์ของเขา
เมื่อถามย้ำว่า เป็นใบสั่งทางการเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “500 ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ 100 เปอร์เซ็นต์”
ต้องปกป้องผู้ที่ซื้อมาโดยสุจริต
เมื่อถามว่า เห็นว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีผู้ครอบครองหลายคน นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ว่ากันไป ถ้าเกิดใครไปได้ที่ดินมาโดยที่ไม่มีโฉนด แล้วไปออกโฉนดหลังได้ที่ดินเมื่อปีที่แล้วอันนี้ถึงเข้าข่ายขี้โกง แต่ถ้าไปซื้อโฉนดจากตาสีตาสายตามียายมา เขามีโฉนดอยู่แล้วส่วนใหญ่ที่ซื้อบิดามารดาเขาตายหมดแล้ว ลูกหลานขายแบ่งเงินกัน
ถามต่อว่า ที่ดินดังกล่าวเหมือนจะมีกลุ่มโบนันซ่าอยู่ด้วย จะต้องมีการตรวจสอบทั้งหมดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใครจะตรวจสอบก็ต้องไปตั้งเรื่องมา จึงจะมีการตรวจสอบ ตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน เพราะตนไม่ให้มีการปักธง ไม่มีบอกว่าต้องเอาตรงนี้ให้ได้ ถูกเป็นผิดไม่มีมีแต่ความยุติธรรม แต่ต้องปกป้องผู้ที่ซื้อมาโดยสุจริต
ยัน“ภูมิใจไทย”ไม่เคยต่อรอง
เมื่อถามว่า รู้สึกเหมือนว่า ขณะนี้มีขบวนการลดอำนาจต่อรองของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เคยต่อรอง เมื่อถามอีกว่า มีการไปยื่นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบที่มา สว.ในข้อหาอั้งยี่ รวมถึงนายอนุทินมาถูกตรวจสอบเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟของครอบครัวในช่วงนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า การไปตั้งข้อหาตรงนั้นไม่ได้เกี่ยวกับตนเอง
เมื่อถามย้ำว่า มีการมองว่า สว.เป็นเครือข่ายสีน้ำเงิน จึงต้องการลดอำนาจต่อรองลง นายอนุทิน กล่าวว่า ใครทำอะไรก็ต้องรับจากผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเอง เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยไม่หมูใช่หรือไม่ อนุทินยิ้มและตอบว่า “ภูมิใจไทย หนู” พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนไม่อึดอัด เพราะทำงานกับนายกฯ และให้ความร่วมมือกับรัฐมนตรีทั้งหลาย ไม่ได้ไปเป็นลูกน้องเขา แต่เป็นลูกน้องนายกฯ ในความเป็นรัฐบาล
“ธนดล”ปูดรุกที่สปก.4หมื่นไร่
ช่วงเช้าวันเดียวกัน นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานการขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน ครั้งที่ 1/2568 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงพาณิชย์ และกรมที่ดิน เป็นต้น ณ ห้องประชุม 135 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยนายธนดล กล่าวว่า ที่ประชุมมีวาระเร่งด่วนที่ต้องพิจารณาร่วมกัน ประกอบด้วย 1) การตรวจสอบผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการออกโฉนดโดยมิชอบในพื้นที่ 4 หมื่นไร่ บนพื้นที่ ส.ป.ก. อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 2) การตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยที่ประชุมได้ร่วมกันหารือและพิจารณาตรวจสอบข้อมูล ได้แก่ แผนที่ เอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดินบริเวณดังกล่าว เอกสารที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ และมีมติเห็นชอบในการบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเตรียมเดินหน้าลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันอังคารที่18 กพ. สัปดาห์หน้า หากพบว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมาย จะมีการขยายผลและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนต่อไป
สร้างบ้านหรู/จีนเทา-ผู้มีอิทธิพลแห่ซื้อ
ในการตรวจสอบ เอกสาร เบื้องต้นพบมี ความผิดปกติ ในพื้นที่ค่อนข้างชัดเจนในพื้นที่นิคมสร้างตนเอง ที่พบว่า ทางนิคมมีการขยายพื้น และรุกล้ำพื้นที่ สปก.แล้วนำไปออกโฉดในภายหลัง จำนวนมาก และขณะนี้ มีการนำไปสร้างบ้านจัดสรรที่มีราคาแพง มาก และจากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มจีนเทาและผู้มีอิทธิพล ที่แห่ ซื้อเพราะกลุ่มคนดังกล่าวมีทั้งเงินและอิทธิพล โดยหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบสัปดาห์หน้า จะส่งข้อมูลให้ ทาง กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม .ที่กำกับนิคมสร้างตนเอง และกระทรวงมหาดไทยที่ดูแลกรมที่ดิน ที่เป็นผู้ออกโฉนด หาก ส่งข้อมูลให้แล้ว ไม่มีความเคลื่อนไหวและไม่ทำอะไรก็จะเดินหน้าดำเนินการเอาผิด ในข้อหาละเว้น ในการปฎิบัติหน้าที่ต่อไป
ไม่ขอตอบโต้“อนุทิน”
นายธนดล กล่าวด้วยว่า ในส่วน ที่นายอนุทิน ออกมาแสดงความไม่พอใจที่มีการพูดถึงเรื่องสนามกอล์นายอนุทิน ในพื้นที่ อ.ปากช่องและ ด่าว่าหน้าตัวเมีย นั่น ส่วนตน ไม่ขอตอบโต้ เพราะตนเองเป็นเด็ก เมื่อผู้ใหญ่ ติติงก็พร้อมน้อมรับคำติติงทุกอย่างและยืนยันว่า ไม่ได้ตรวจสอบเจาะจงพื้นที่ของคนใดคนหนึ่งอย่างเดียว และตนเองและทีมงานก็ร่วมกันตรวจสอบแล้ววานนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าที่ของนายอนุทิน มีโฉนดถูกต้อง แค่อยู่ในเขตพื้นที่ สปก.ส่วนมีการออกโฉนดอย่างไร คงต้องตรวจสอบกันอีกครั้งให้เกิดความขัดเจน
เอกสารถูกต้องแต่อยู่ในเขตสปก.
“ผมก็บอกชัดเจนแล้วว่าที่ของท่านมีเอกสารชัดเจน ไม่เคยบอกว่าไม่เอกสาร แต่มันอยู่ในเขต ส.ป.ก. และผมก็ไม่ได้ตรวจสอบ ของท่านคนเดียวผมตรวจสอบพื้นที่ ส.ป.ก.ทั่วประเทศตามอำนาจหน้าที่ได้รับมอบหมายเท่านั้นและแปลกใจ พื้นที่แถวนั้น มันมีการออกโฉนด กันได้อย่างไง ทั้งที่ มีหนังสือแจงชัดเจน ว่าห้ามนิคมขยายพื้นที่ แต่นิคมขยายพื้นที่และไปออกโฉนดรุกที่ ส.ป.ก.ผมแค่สารตั้งต้นในฐานะคนทำงานที่ต้องการให้เกิดความถูกต้องเท่านั้น” นายธนดลกล่าว
นายธนดล กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมายอมรับว่าการทำงานของคณะทำงานค่อนข้างมีปัญหาเนื่องจากมีอำนาจพิเศษ คอยขัดขวางขบวนการยุติธรรม มาตลอด แต่ตนก็เจอด้วยตนเองมาแล้ว บางคดี พบว่ามีความผิดชัดเจนแต่ก็มีการลากเรื่องยาวนานกว่า 5 ปี ซึ่งจากนี้ไปตนพร้อมทำงานเต็มที่เพื่อเอาพื้นที่คืนให้เกษตรกร ส่วนนอกเหนืออำนาจหน้าที่คงต้อง ส่งต่อให้ รมว. เกษตรฯในฐานะ ฝ่ายบริหารโดยตรงตามอำนาจต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี