ปัดข้อเสนอฝ่ายค้าน/สับทัศนคติเป็นพิษ
พท.กร้าวไม่ยบสภา
ตอก‘เท้ง’เป็นใครมาสั่งนายกฯ
ชี้ไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศ
‘อุ๊งอิ๊งค์’ลุยใต้ถกครม.สัญจร
ปปช.ฟันอดีต44สส.แก้ม.112
โฆษกเพื่อไทย โต้ฝ่ายค้านอย่าบีบ “อุ๊งอิ๊งค์” ยันยังไม่มีเหตุผล ในการยุบสภาหลังแก้รัฐธรรมนูญล้มเหลวในสภา เพราะไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ ในขณะที่นายกฯล่องใต้ประชุม ครม.สัญจรที่สงขลา “คารม” เห็นใจ “อดีต 44 สส.ก้าวไกล” ถูก “ป.ป.ช.เรียกรับทราบข้อกล่าวหา ปมลงชื่อแก้ ม.112” ไม่ขอซ้ำเติมใคร ถึงแม้
ตอนล้มจะถูกกระทำแบบจมดิน
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในสภาผผู้แทนราษฎร ระบุว่าประชุมรัฐสภาล่ม 2 ครั้ง ติดต่อกัน เป็นเพราะนายกรัฐมนตรีไม่สามารถคุมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลและเรียกร้องให้มีการยุบสภานั้น
โดยกล่าวว่า ถือเป็นทัศนคติที่เป็นพิษต่อระบบรัฐสภา พรรคการเมืองที่ไม่มีความศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะเลือกวิธีล้มกระดานเช่นนี้ กระบวนการให้ได้มาซึ่งกฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นสิทธิหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ สส.ของแต่ละพรรคมีเอกสิทธิ์ที่จะออกสิทธิออกเสียง ส่วนการที่ สส.ของพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วน ไม่เข้าร่วมประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เป็นเพราะมีความกังวลว่าการพิจารณามาตรา 256ในรัฐธรรมนูญ สส.ทำได้หรือไม่ จะมีความสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายและขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาหรือไม่ เป็นความกังวลใจต่อการตีความในคำวินิจฉัยที่ผ่านมา ไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นเอกภาพ หรือไม่เป็นเอกภาพอย่างที่นายณัฐพงษ์พยายามชี้นำสังคม
“เราใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้มาซึ่งรัฐบาลประชาธิปไตย รัฐบาลที่มาจากพลเรือนนำโดยพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยกให้ประชาชนเป็นโจทย์ใหญ่ในสมการเสมอ ประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง งานบริหารราชการแผ่นดินกำลังเดินหน้าแก้ปัญหาที่หมักหมมมานับสิบปีและกำลังส่งผลดีกับประเทศ การยุบสภาในขณะที่การบริหารกำลังไปได้ดี ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน และงบประมาณจำนวนมหาศาล จึงไม่มีเหตุผลใดให้ต้องยุบสภา” นายดนุพร กล่าว
ตอก”เท้ง” เป็นใครมาสั่งนายกฯ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล กล่าวกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) แถลงให้นายกฯยุบสภาหลังองค์ประชุมไม่ครบในวาระพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ว่า ฝ่ายนิติบัญญัติไปบอกนายกฯยุบสภาได้อย่างไร เขาเป็นฝ่ายบริหาร แล้วทำไมนายกฯต้องฟังฝ่ายค้าน คุณอยากเลือกตั้งใหม่หรือ พวกผมกำลังทำงานช่วยชาวบ้าน กำลังได้ผล เขาได้เงินหมื่นไปเขาดีใจมาก ต้องทำงานให้ชาวบ้านก่อน จะรีบไปไหน เป็นฝ่ายค้านไปสั่งนายกฯยุบสภา คุณเป็นใคร
ยันเพื่อไทยเลือกแก้รธน.ได้
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ประชุมร่วมรัฐสภาล่มในวาระพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ2ครั้งว่าพรรคเพื่อไทยคือพรรคการเมืองที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยแถลงชัดมาตลอดว่าจะแก้ไข โดยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ผ่านการพิสูจน์หลายครั้ง ถึงความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยและยึดโยงกับประชาชนมากยิ่งขึ้น มากกว่าองค์ประชุมครบหรือไม่ครบ ล่มหรือไม่ล่ม คือ ถ้าครบแล้วเดินไปสู่การพิจารณา ทุกคนที่อ่านการเมืองรู้ ก็ได้คำตอบอยู่แล้วว่า ถ้าดันกันไปจนถึงขั้นตอนการลงมติ ก็ต้องแพ้และตกไป พรรคเพื่อไทยจึงพยายามจะรักษารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้ เพื่อหาแนวทางนำไปสู่การแก้ไขให้สำเร็จ ระหว่างแก้ได้กับได้แก้ พรรคเพื่อไทยเลือกแนวทางแรก คือ ต้องแก้ให้ได้
ส่วนการที่พรรคฝ่ายค้านจะเลือกเดินไปตามเกมที่ฝ่ายล้มการร่างรัฐธรรมนูญต้องการ คือ เดินหน้าโหวต ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะแพ้ แล้วไปอธิบายกับประชาชนเอาว่าแพ้ แล้วอ้างว่าได้ทำอย่างเต็มที่ เน้นพิงกระแสสังคม ก็ถือเป็นสิทธิ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ บอกว่า มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่ทำสิ่งเดิมซ้ำๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง ซึ่งไม่ใช่แนวทางแบบพรรคเพื่อไทย ที่มีแนวทางการต่อสู้เพื่อไปให้บรรลุเป้าหมาย ถ้าเดินตรงไปข้างหน้าแล้วตกเหว พรรคเพื่อไทยเลือกเดินอ้อม เพื่อไปให้บรรลุเป้าหมาย คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ พรรคไหนจะแก้เอาเท่ แก้เอามัน ก็ทำไป แต่พรรคเพื่อไทยเลือกแก้ให้สำเร็จ ด้วยวิธีที่แตกต่าง
สวนจี้ยุบสภาอ้าปากเห็นลิ้นไก่
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่พรรคฝ่ายค้านบางพรรคเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา เพราะรัฐบาลควบคุมพรรคร่วมไม่ได้ โดยส่วนตัวมองว่า อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ แสดงว่าที่พยายามบีบให้เดินไปสู่การโหวตจนแพ้ ก็เพื่อจะหันมาไล่รัฐบาลให้ยุบสภา แสดงความรับผิดชอบหรือไม่ รัฐบาลเหลือเวลาอีก 2 ปีกว่า มีเวลาแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติอีกเยอะ ที่สำคัญรัฐบาลไม่ได้มีความผิดอะไร ยังสามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ นโยบายสำคัญๆ ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคแกนนำ พรรคร่วมทุกพรรคก็ร่วมขับเคลื่อนสนับสนุนด้วยดี หากจะมีบางเรื่องที่เห็นต่างกันบ้าง ก็ถือเป็นสิทธิของแต่ละพรรค ขนาดพรรคการเมืองบางพรรค อยู่พรรคเดียวกันมาแท้ๆ แต่พอถูกยุบพรรค ยังแตกสานซ่านเซ็น แยกกันไปคนละทิศคนละทาง ไม่ได้ย้ายตามกันมาทั้งหมด
“ไม่แน่ใจว่าเหตุที่รีบไล่รัฐบาลยุบสภา มาจากการที่ ป.ป.ช. ร่อน จ.ม. เรียก 44 สส. รับทราบข้อกล่าวหา กรณียื่นแก้ 112 หรือ กลัวคะแนนนิยม จะลดต่ำลงไปอีก ประเทศชาติบอบช้ำมามากแล้ว ให้เวลารัฐบาลได้ทำงานครบ 4 ปี แล้วถึงวันนั้นค่อยมาให้ประชาชนตัดสินใจใหม่ ก็ไม่สาย” นายอนุสรณ์ กล่าว
‘ธนกร’ชี้ประเทศไม่ใช่ของเล่น
ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว ถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน นำ สส.แถลงเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ยุบสภา หลังองค์ประชุมไม่ครบ ในวาระพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ให้มี ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า การที่พรรคประชาชนออกมากดดันเรียกร้องให้นายกฯใช้อำนาจยุบสภา เพียงเพราะการประชุมรัฐสภาไม่เป็นไปตามความคาดหวังของตัวเอง ถือเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผล ถ้าย้อนไปดูประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ผ่านมา การที่นายกฯจะตัดสินใจยุบสภาได้นั้นต้องถึงขั้นสภาวะเดตล็อก ไม่มีทางออกจนถึงที่สุดจริงๆนายกฯจึงจะตัดสินใจ
“แต่กรณีการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ยังสามารถใช้ช่องทาง และวิธีการแก้ปัญหาในรัฐสภาได้อยู่ ไม่ถึงกับว่าเป็นทางตันทางการเมือง แต่พรรคประชาชนกลับเรียกร้องให้ยุบสภา จึงทำให้มองได้ว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองเกินกว่าเหตุ ประเทศชาติไม่ใช่ของเล่น ที่เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ล้มกระดานแล้วเริ่มใหม่ สิ่งที่สำคัญการเลือกตั้งแต่ละครั้งล้วนแต่ใช้งบประมาณแผ่นดินหลายพันล้านบาท จึงขอให้พรรคประชาชน ทบทวนบทบาททางการเมืองของตัวเองเสียใหม่ การออกมาแถลงลักษณะนี้ เป็นการเล่นใหญ่เกินไป”นายธนกร ย้ำ
รู้ว่าขัดคำสั่งศาล/จ้องรื้อรธน.ทั้งฉบับ
นายธนกรกล่าวอีกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในส่วนที่จะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน ตนเชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาทุกคนไม่มีปัญหา พร้อมจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่การแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ที่ไปแตะหมวด 1 หมวด 2เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังมีการพ่วงหมวด 15/1 เพิ่มเข้ามา เพื่อเปิดทางให้การเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. 200 คน เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยไม่ต้องทำประชามติฟังเสียงประชาชนก่อนนั้น เป็นการขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4 / 2564 อย่างชัดเจน จึงเป็นความสุ่มเสี่ยงหาก ร่วมพิจารณาอาจจะขัดต่อกฎหมายได้ ทำให้สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ไม่ขอร่วมด้วย
“การที่พรรคประชาชนเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยหวังจะยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ไม่เพียงสุ่มเสี่ยงขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผูกพันทุกองค์กรแล้ว พรรคประชาชนยังไม่ฟังเสียงพี่น้องประชาชนโดยการทำประชามติก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย แบบนี้อาจถูกมองได้ว่าการกระทำย้อนแย้งกับคำพูดหรือไม่ หากเคารพเสียงประชาชนจริงๆ อย่างที่พูด ก็สมควรต้องทำประชามติก่อนการแก้ไขหรือยกร่างใหม่ตามที่ศาลบอก และสิ่งที่สำคัญควรมุ่งที่จะแก้ไขกฎหมายเพื่อพัฒนาช่วยเหลือความเป็นอยู่ประชาชนมาเป็นอันดับแรก ไม่ใช่มุ่งเน้นจะช่วยนักการเมืองก่อน” นายธนกร กล่าว
ปปช.เรียก44สส.กก.รับข้อหา
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ในฐานะอดีตสส.พรรคอนาคตใหม่ รวมถึงอดีตสส.พรรคก้าวไกลกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ส่งหนังสือไปยังอดีตสส.พรรคก้าวไกลและที่เป็นสส.พรรคประชาชนที่ได้ร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จำนวน 44 คน ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีผิดจริยธรรมว่า ในส่วนของตน ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้น เพราะว่าตนถูกกันไม่ให้ร่วมกิจกรรมของพรรคก้าวไกลตั้งแต่วันแรก ที่ตนย้ายเข้าพรรคก้าวไกลแล้ว แต่ถ้าได้มีส่วนร่วม ก็ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา112แน่นอน
“แม้คนธรรมดายังมีประมวลกฎหมายอาญามาตรา326และ328คุ้มครองซึ่งมาตรา 112นั้น เป็นกฎหมายป้องกันการกัดเซาะบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เกี่ยวกับสถาบันฯที่มีความสำคัญยิ่งต่อบ้านเมือง เป็นสถาบันที่ทำให้บ้านเมือง มีหลักทำให้บ้านเมืองมั่นคงแข็งแรง”นายคารม กล่าว
โชว์หล่อ ไม่ขอซ้ำเติมเพื่อนส.ส.
นายคารมกล่าวว่าตนไม่รู้ว่าสิ่งที่ สส.ร่วมลงชื่อแก้ไขมาตรา112จะผิด หรือถูกและจะมีความรุนแรงขนาดไหน เพราะมีองค์กรที่จะตัดสินอยู่แล้ว และจะไม่ไปซ้ำเติมเพื่อน สส.เหล่านี้ แม้จะทำกับตนเองไว้เยอะมากในช่วงนั้น แต่โดยหลักการ แม้สส.ซึ่งเป็นคนออกกฎหมายและเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจออกกฎหมาย มีอำนาจแก้ไขกฎหมายก็ตาม แต่บางอย่าง แม้มีอำนาจก็อาจทำไม่ได้ ไม่อย่างนั้นหากมี สส. บางคน บางพรรค เสนอให้ประเทศไทยเป็นหลายรัฐไม่ใช่ราชอาณาจักรอันหนึ่งเดียวกันก็ใช่ว่าจะทำได้ เช่นเดียวกับทำไมรัฐการแก้รัฐธรรมนูญจึงห้ามแก้หมวด 1 นี่คืออีกเหตุผลว่าทำไมพรรคภูมิใจไทย จึงเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงต้องมีการถามประชาชนหรือ ทำประชามติก่อน ซึ่งตามหลักการ คือ ประชาชนเป็นผู้สถาปนารัฐธรรมนูญ เพราะพรรคไม่อยากเสี่ยง
เผยไปให้การป.ป.ช.ตามความจริง
พร้อมระบุว่า เรื่องนี้คล้ายกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา112เมื่อบางพรรคไม่อยากเสี่ยง ไม่เห็นด้วย จึงเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.ถ้าใครอยากเสี่ยงก็อาจเป็นเหมือน สส.ของบางพรรคที่ได้ลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112ซึ่งวันนี้ผลมันก็ออกมาแล้ว
“อย่างที่เป็นข่าวว่า ปปช.เริ่มเชิญไปรับข้อกล่าวหาแล้ว ความจริง ผมเป็นพยานคนหนึ่ง ที่ ป.ป.ช.เชิญไปให้ถ้อยคำในฐานะพยานที่ใกล้ชิดเหตุการณ์ ผมก็ได้ไปให้การไปตามความจริงที่ผมรับรู้มาโดยอุปนิสัย ผมไม่เคยข้ามคนล้ม แต่ตอนที่ผมล้ม เหยียบผมจมธรณีเลยทุกคน เพราะฉะนั้น ก็ขอพูดความจริงว่าวันพระไม่มีหนเดียว สำหรับเพื่อนเก่าที่จะให้ผมไปเป็นพยานช่วยนั้น ผมยินดี เพื่อนก็คือเพื่อน แต่ผมจะพูดตามจริงเท่านั้น คนเป็นนักกฎหมาย ก่อนจะลงชื่อ ต้องคิดก่อน”นายคารมกล่าวย้ำ
นำทัพสื่อลงพื้นที่สงขลา/พัทลุง
วันเดียวกัน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จัดกิจกรรม Press Tour นำคณะสื่อมวลชนกว่า 20 สำนักข่าวทั้งสื่อหลักและสื่อดิจิทัล ลงพื้นที่ จ.พัทลุงและจ.สงขลาเพื่อเยี่ยมชมกิจกรรม ติดตามงานสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล ณ จ.สงขลา และพัทลุง ในวันที่ 16 ก พ.68ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมควบคู่ การประชุม ครม.สัญจร ครั้งแรกของปี 2568 ณ จ.สงขลา
ติดตามโครงการสำคัญของรัฐบาล
โดยจุดแรก คณะสื่อมวลชนจะเดินทางไปยัง โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองชายแดน พุทธอุทยาน เขาเล่ ต.สะเดา อ.สะเดาซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ มีจุดชมวิว “ทะเลหมอก” ธรรมชาติที่งดงาม และมีจุดชมวิว 360 องศา คือ ยอดเขาหัวล้าน ยอดเขาเขียว เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคนไทยไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น นักปีนเขา นักเดินป่า แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซน คือ 1.โซนผืนป่าซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ โดยเทศบาลเมืองสะเดา ได้เข้าร่วมโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) เนื้อที่ 325 ไร่และ2. โซนพุทธอุทยานได้มีการก่อสร้างองค์ “พระพุทธนิมิตพิชิตมาร”หน้าตักกว้าง 22 เมตร ความสูง
ลุยด่านปาดังเบซาร์/ ดูรถไฟรางคู่
นอกจากนี้ ภายในพุทธอุทยาน ยังมีสมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ศูนย์การเรียนรู้ตามรอยหลวงปู่ทวด พระโพธิสัตว์กวนอิม พระอรหันต์จี้กง เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้การขับเคลื่อนงานด้านการท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองสะเดาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จึงต้องเร่งยกระดับในการพัฒนาการท่องเที่ยวในทุก ๆ ด้าน ซึ่งโครงการพัฒนาและปรับภูมิทัศน์พุทธอุทยานเขาเล่ ถือเป็นโครงการที่สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ สามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้
จากนั้นคณะสื่อมวลชนจะเดินทางไปยังด่านปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อศึกษาข้อมูลแนวทางรองรับรถไฟรางคู่จากปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ และติดตามสถานการณ์การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียและชาติอื่นๆเข้าไทยโดยการท่องเที่ยวทางราง
พาชม‘วัดจะทิ้งพระ-วัดพะโคะ’
จากนั้น คณะสื่อมวลชนจะเดินทางไปยัง วัดจะทิ้งพระ ต.จะทิ้งพระอ.สทิงพระ จ.สงขลา เพื่อไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดจะทิ้งพระถือ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง เป็นศิลปะสมัยศรีวิชัยประจำ อ.สทิงพระ จากนั้น เดินทางต่อไปยังวัดพะโคะ ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา วัดพะโคะ ถือเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นวัดจำพรรษาของสมเด็จพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเล พระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนให้ความนับถือมากมาย เสร็จแล้ว จะเดินทางไปยัง ต.บ้านขาว อ.ระโนด จ.สงขลา ดินแดนลูกปัดมโนราห์ ชมความงามและแหล่งท่องเที่ยวตามเส้นทางทะเลหลวง
เยือน‘ทะเลน้อยและชมควายปลัก’
ต่อจากนั้น คณะสื่อมวลชนจะเดินทางไปยังจังหวัดพัทลุง โดยระหว่างทางผ่านสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ คณะสื่อมวลชนจะแวะรับชมความงามในช่วงยามเย็นของทะเลน้อยและชมควายปลัก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาการเลี้ยงควายภายใต้ระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำ ทะเลน้อยของ จ.พัทลุง ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะพบได้ในเพียงพื้นที่จังหวัดพัทลุง โดย”ควายปลัก“แห่งทะเลน้อย ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชนติ (FAO) ให้เป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของประเทศไทย (Globally Important Agricultural Heritage Systems: GIAHS) ก่อนจะเดินทางเข้าที่พักที่ จ.พัทลุง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี