ซักฟอกสะเทือนรบ.

‘โรม’โวข้อมูลแน่น/อุบชื่อรมต.

“โรม”อุบชื่อรมต.ถูกซักฟอก ย้ำข้อมูลแน่น มีหลักฐาน น่าเชื่อถือหวังผลสะเทือนไปถึงวันข้างหน้า ชี้เป็นเรื่องกรรมใดใครก่อเดินหมากสไตล์“ตีหัวเข้าบ้าน”ไม่เยิ่นเยื้อแน่นอน “ฝายค้าน”ถกปมคลิปปธ.ป.ป.ช.พบ“วันนอร์” ยันไม่ปกติแน่นอน ด้าน ปธ.วิปรัฐบาล ไร้ปัญหา‘ฝ่ายค้าน’ถล่ม20ประเด็น เชื่อรมต.เตรียมการบ้านพร้อม-แจงได้หมด ยันจ้อไม่เกิน3วัน เย้ยข้อสอบลอกกระทู้ ลั่นไม่ต้องตั้งองครักษ์พิทักษ์‘นายใหญ่’ขู่ใครแตะรับผิดชอบเอง ปธ.วิปรบ.ลั่นประชุมสภาฯส่งตัว‘ปูอัด’ให้ ตร.ดำเนินคดีข่มขืน20ก.พ. วัดใจใครโหวตอุ้มประจานถ่ายทอดสดไปทั่วปท.

เมื่อวันที่ 17กุมภาพันธ์ 2568 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน(ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีแบบรายบุคคลว่า ตนตอบไม่ได้ว่า มีรัฐมนตรีคนไหนถูกอภิปรายบ้าง เอาเป็นว่ามีรายชื่อรัฐมนตรีอยู่ที่ว่า จะใส่เพิ่มอีกสักเท่าไหร่ ซึ่งข้อมูลการอภิปรายเรามาถูกทางแล้ว เรามีพยานหลักฐานสำคัญ พร้อมยืนยันว่า มีความน่าเชื่อถืออย่างแน่นอน เมื่อถามว่า การอภิปรายครั้งก่อนๆ เป็นการอภิปรายเชิงประเด็น แต่ครั้งนี้เป็นรายบุคคลหวังผลอะไรหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มีทั้งคู่ ทั้งรายประเด็นและโทษทัณฑ์ที่ได้ก่อไว้ มันเป็นเรื่องของกรรม ใครก่อกรรมเอาไว้ มันก็เป็นเรื่องจำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานและนำมาใช้อภิปราย ยืนยันว่าเราเป็นฝ่ายค้าน ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเขามีสิทธิ์ที่จะรู้

‘โรม’โวซักฟอกสะเทือนถึงอนาคต

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า เราทราบดีว่าเมื่อเสียงในสภาฯเรามีเสียงน้อยกว่ารัฐบาลเยอะ แต่ตนคิดว่า ขั้นต่ำที่เราหวังผลคือ การทำให้ประชาชนเจ้าของประเทศได้รู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นในประเทศ ผลสะเทือนต่อเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่วันนี้ แต่มันรวมไปถึงอนาคต ซึ่งปลายเดือนก.พ.จะยื่นญัตติและการอภิปรายจะเริ่มขึ้นหลังจากนั้น15วัน ตามความพร้อมของรัฐบาล เมื่อถามว่า ตัวนายกรัฐมนตรี จะมีประเด็นอะไรในการอภิปรายบ้าง นายรังสิมันต์ ร้อง”แหม” ก่อนยิ้มและกล่าวว่า”เป็นคำถามที่เราตอบไม่ได้อยู่แล้ว แต่ว่ามีหลากหลายประเด็น”

ชำแหละ5วันดีแล้วรบ.มีเวลาชี้แจง

เมื่อถามว่า เวลาในการอภิปรายที่รัฐบาลอาจจะขอลดเวลาจาก 5วันเหลือ 3วัน นายรังสิมันต์ กล่าว 5 วันไม่ได้เยอะ รัฐบาลไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ถ้าพูดโจมตีมันก็จะเข้าตัวเอง แต่หากพูดมีน้ำหนักมันก็เป็นข้อดีด้วยซ้ำ รัฐบาลจะได้มีเวลาตอบมากขึ้นและจะได้มีเวลาอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ สไตล์พรรคเราไม่ได้เวิ่นเว้ออย่างแน่นอน สไตล์พรรคประชาชนคือ การตีหัวเข้าบ้านชัดเจน

ชี้คลิปโจ๊ก-วันนอร์-บิ๊กปปช.ผิดปกติ

นายรังสิมันต์ ยังให้สัมภาษณ์กรณี พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) พา นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ไปพบ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ถึงบ้านว่า ถ้ามีคลิปออกมาแบบนี้ ทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกันตรวจสอบ มันไม่ใช่เรื่องปกติแน่นอน ที่ประธานรัฐสภาซึ่งสามารถให้คุณให้โทษบางประการ มาเจอกับ ป.ป.ช. ตนคิดว่าเป็นเรื่องไม่ปกติแน่นอน ส่วนการตรวจสอบจะเกิดขึ้นอย่างไรขึ้นอยู่กับแต่ละฝ่ายที่มีอำนาจ แต่ในส่วนของฝ่ายค้านอยู่ระหว่างการพูดคุยกัน เมื่อถามว่า ประธานรัฐสภาต้องออกมารับผิดชอบด้วยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนคิดว่า นายวันนอร์ ไม่ได้เป็นประธานสภาฯ ครั้งแรก ท่านเองก็ควรจะทราบ ว่าอะไรเป็นอะไร ดังนั้นควรพิจารณาด้วยตัวเองว่า เรื่องนี้ควรจะตัดสินใจอย่างไร

พปชร.ถล่ม’กม.กาสิโน-MOU44’

ขณะที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมการวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ทางพรรคได้มีการประสานงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน และได้มีการกำหนดวันที่จะมีการยื่นญัตติและมีการกำหนดแนวทาง รวมถึงหัวข้อที่จะมีการกำหนดนำไปอภิปราย โดยขณะนี้พรรคพลังประชารัฐอาจจะขอไม่เปิดเผยประเด็นอย่างเต็มที่ แต่หากช่วงที่ผ่านมา ได้ติดตามการแถลงข่าวของพรรคพลังประชารัฐ หลายๆ เรื่องที่เรามีความเห็นคัดค้านและโต้แย้ง ก็คงเป็นประเด็นที่พรรคจะนำไปพิจารณาในการอภิปราย

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐมีความพร้อมและกำลังเดินหน้ารวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อประชาชนอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาทางพรรคได้มีการคัดค้านในเรื่องของร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าจะมีประเด็นที่นำมาพิจารณาในการนำเสนอกับประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบในแง่ของจุดด้อยและปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมไปถึง MOU 44 ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่เราคัดค้านและต่อสู้มาอย่างเข้มแข็ง ก็อาจจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พรรคจะนำไปเสนอให้กับประชาชนได้รับรู้

รบ.ไม่หวั่นซักฟอก-ตอบได้อยู่แล้ว

ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานสส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 20ประเด็นว่า ไม่น่ามีปัญหา เพราะรัฐมนตรีทุกคนเตรียมตัวทำการบ้าน ถือเป็นการกระตุ้นให้รัฐมนตรีได้ขยันขันแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้นก็จะเห็นผลหลายอย่าง และเชื่อมั่นว่า รัฐมนตรีทุกคนที่ถูกอภิปราย สามารถชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้อยู่แล้ว แม้จะถูกอภิปรายกี่ประเด็นก็ตาม หากอยู่ในหลักการ ก็สามารถทำได้และทำให้ประชาชนได้เห็น ถือเป็นธรรมดาของระบอบประชาธิปไตย ที่จะต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

จ้อ3วันพอแล้วยึดหลักเดิมในอดีต

นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า แม้จะมีหลายประเด็น แต่เวลาต้องจำกัด ไม่ใช่จะให้อภิปราย5วัน ตามที่ขอ อย่างน้อยจะต้องมาคุยกันในวิป 3ฝ่าย ทั้งวิปรัฐบาล ฝ่ายค้านและตัวแทนรัฐบาล เพื่อตกลงเวลากัน แต่เราอยู่การเมืองมา 20กว่าปี ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์อภิปราย5วัน5คืน ส่วนใหญ่ก็ใช้เวลาอย่างมากก็ 2วันและลงมติ วันที่3 ดังนั้นต้องเจรจากันก่อน ซึ่งทราบว่าจะยื่นวันที่27ก.พ.ก็ยินดี เชื่อว่ารัฐบาลเตรียมพร้อมที่จะชี้แจงอยู่แล้วและเมื่อยื่นมาแล้วหลังจากนั้นไม่น่าจะเกิน15วัน น่าจะอภิปรายได้ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยมีการประชุมกลุ่มย่อยต่างๆ เพื่อเตรียมข้อมูลต่างต่างๆ เชื่อว่าคงไม่หนีไปจากที่ถามกระทู้ของฝ่ายค้านก็เห็นแนวกันอยู่

ไม่ตั้งองครักษ์-โยง’แม้ว’เสี่ยงฟ้อง

เมื่อถามว่าจะมีการตั้งองครักษ์พิทักษ์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บิดา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องตั้งองครักษ์ วันนี้การอภิปรายถึงบุคคลภายนอกไม่สามารถทำได้ เพราะข้อบังคับกำหนดไว้ชัดเจนว่า ไม่สามารถพูดถึงบุคคลภายนอกที่ไม่สามารถตอบโต้ในสภาฯได้ และนายทักษิณ ไม่สามารถมาชี้แจงได้ ดังนั้นหากมีการพาดพิงทำให้เสียหายก็รับผิดชอบตามกฎหมายเอาเองก็แล้วกัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้มีการพาดพิงและเกิดการ ประท้วงกันวุ่นวาย การอภิปรายจะได้ลื่นไหล ก็พอสมควร หากอยู่ในกรอบที่ไม่เสียหายพาดพิงบุคคลภายนอก ทุกสมัยก็มีปัญหาเรื่องนี้มาโดยตลอด ข้อบังคับการประชุมมีอยู่แล้ว ในทางปฏิบัติ หากจะไปเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีคนใด ผมเชื่อว่านายกรัฐมนตรีก็คงให้รัฐมนตรีคนดังกล่าวได้ชี้แจง เชื่อว่าสามารถตอบได้ทุกประเด็น

ขอมติพรรคยื่นศาลฯตีความแก้รธน.

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) จะยื่นญัตติต่อที่ประชุมสภาฯเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในพรรคเพื่อไทยได้มีการปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ในพรรคหลายคน มีความเห็นว่าควรจะยื่นในนามพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ประธานรัฐสภาบรรจุระเบียบวาระ แต่ประธานรัฐสภาจะบรรจุระเบียบวาระเมื่อไหร่ยังไม่ทราบ โดยประเด็นจะต่างจากญัตติของนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ที่ยังค้างอยู่ในสภาฯ โดยในวันที่ 18 ก.พ. พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมพรรค เพื่อนำเสนอเรื่องนี้ และให้มีการซักถามก่อนที่จะขออนุมัติในการยื่นญัตติครั้งนี้ ส่วนจะยื่นหรือไม่ยื่นอยู่ที่มติของพรรค เพราะพรรคเราเป็นประชาธิปไตย

ต้องฟังความเห็นสมาชิกพรรคก่อน

นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวคิดว่าน่าจะยื่นให้ศาลฯวินิจฉัย แต่ต้องฟังความคิดเห็นจากสมาชิกพรรคก่อน เพราะเราเคารพความเห็นสมาชิกพรรคทุกคน และเมื่อความคิดเห็นไปในทิศทางไหน ก็ต้องลงมติ ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยกลายเป็นพรรคที่เตะถ่วงการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งที่สัญญาไว้กับประชาชนนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เตะถ่วง เพราะถ้าเราเดินสุดในการประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อวันที่ 13-14 ก.พ. ที่ผ่านมา ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ตก เราถึงต้องยื่นญัตติอีกฉบับหนึ่งเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญและเราก็พยายามเดินหน้า แต่ถ้าไปยังไม่ได้ทั้งที่เราตั้งใจจะไปแต่ไปแล้วก็ไปตกเหวข้างหน้า เราจึงไม่อยากให้ตกไป จึงให้ค้างอยู่ในสภา

ย้ำพท.ต้องการแก้ไขรธน.อย่างเต็มที่

นายวิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ยังมีเรื่องอื่นอีกที่สำคัญไม่แพ้การแก้ไขรัฐธรรมนูญคือการประชุมร่วมรัฐสภาที่ต้องพิจารณาคือ เรื่องพิธีสารฉบับที่หนึ่ง เพื่อแก้ไขความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง และความตกลงว่าด้วยกรอบข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหารอาเซียน ซึ่งทั้ง2ฉบับจะต้องผ่านที่ประชุมรัฐสภาและต้องผ่านเดือนมี.ค.ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องนำมาพิจารณาก่อน ส่วนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญต้องรอนายวันนอร์ จะบรรจุระเบียบวาระญัตติต่อไปหรือไม่ ซึ่งก็ฝันว่า จะได้เห็นการแก้รัฐธรรมนูญเพราะเราก็พยายามเต็มที่ ประชาชนก็ได้ติดตามว่า เราตั้งใจอย่างเต็มที่ แต่วันนี้ยังไปไม่ถึงที่

สภานัดถกส่ง‘ปูอัด’ให้ตร.20ก.พ.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุระเบียบวาระการประชุมสภาฯวันที่20ก.พ.ในวาระเรื่องด่วน ขออนุญาตสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจับกุมตัวนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้า รับทราบข้อกล่าวหา เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายในระหว่างสมัยประชุม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา125แล้ว หลังมีการแจ้งความร้องทุกข์จากนักท่องเที่ยวสัญชาติจีน ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองเมืองเชียงใหม่ แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี นายไชยามพวาน ในฐานความผิดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น

สส.ชาย-หญิงให้ความสนใจคดีข่มขืน

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาฯเตรียมบรรจุระเบียบวาระเพื่อขอมติที่ประชุมโหวตส่งตัว นายไชยาม พวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีข่มขืนกระทำชำเรานักท่องเที่ยวต่างชาติวันที่20ก.พ.ว่า ในอดีตสส.ที่มีคดีความยังไม่เคยมีมติจากที่ประชุมให้ถูกดำเนินคดี แต่ครั้งนี้มีการแสดงความคิดเห็นทั้ง สส.ผู้หญิงและผู้ชาย จากหลายพรรคการเมือง ดังนั้นการประชุมวันที่ 20ก.พ.หากไม่ไปมอบตัวก็คงต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมเพื่อขอมติ

จับตาใครกล้าอุ้ม-แนะสอบจริยธรรม

‘ถ้าใครกล้าอุ้มก็มีการถ่ายทอดสดจากที่ประชุมเพื่อให้ประชาชนเห็น ก็ต้องติดตามดูว่าพรรคไหนจะอุ้มหรือคนไหนจะรั้งไว้ไม่ให้ถูกดำเนินคดี ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดของสส.ปูอัด คือ เดินไปมอบตัวดำเนินคดี ก็จบ” ประธานวิปรัฐบาล เมื่อถามถึงการยื่นคณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ทราบว่า เมื่อวันที่ 14ก.พ.ที่ผ่านมา สส.ผู้หญิงพรรคเพื่อไทย ได้ยื่นเรื่องต่อประธานสภาฯ เรียบร้อยแล้ว ต้องดูว่าจะบรรจุระเบียบวาระเมื่อไหร่ เรื่องจริยธรรมไม่เกี่ยวกับการดำเนินคดีทางกฎหมาย สามารถเดินหน้าเรื่องจริยธรรมได้ทันที ไม่ต้องรอการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะคนละประเด็นกัน เมื่อถามว่า คณะกรรมการจริยธรรมของสภาสามารถส่งเรื่องให้ ปปช.พิจารณาต่อได้หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ส่งปปช.ได้และจริยธรรม เป็นเรื่องที่ทุกคนเกรงกลัว ตนจึงมองว่าดีแล้วที่มีเรื่องนี้ เพื่อที่จะคอยดูแลควบคุมความประพฤติของผู้แทนราษฎร

‘ปูอัด’เตรียมมอบตัวตร.18ก.พ.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ บรรจุวาระด่วน ขอมติสภาฯ จับกุมตัวนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้า หลังถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ อนุมัติหมายจับ ฐานข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวไต้หวัน โดยที่ประชุมสภาฯ เตรียมพิจารณาในวันที่ 20ก.พ.นี้

มีรายงานว่า นายไชยามพวาน หรือปูอัด เดินทางไปที่จ.เชียงใหม่แล้ว โดยวันที่ 18ก.พ.2568 จะเข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ แต่ยังไม่แน่ชัดว่า จะดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากมีเอกสิทธิ์ สส.